ฮัลโหล...สวัสดี #DEKSPU ทุกคน

**ใครอยากเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศต้องห้ามพลาด!! เพราะวันนี้แอดมินจะชวน DEKSPU มารู้จักกับพี่ๆ คนเก่งของคณะศิลปศาสตร์ ที่จะมาแชร์ประสบการณ์และทริคดีๆการสอบชิงทุนแลกเปลี่ยนที่ "ประเทศญี่ปุ่น"

................................................

พี่ซันนี่ นภัสสร โดยเจริญ นะคะ จากคณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสารธุรกิจ ชั้นปีที่ 4 ได้รับทุนแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัย Sugiyama Jogakuen University ค่ะ


ทำไม?
"ต้องเป็นศิลปศาสตร์" SPU​

พี่ซันนี่ : ตอนที่ใกล้จะจบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพิ่งจะเริ่มมาทบทวนตัวเอง และถามตัวเองเป็นครั้งแรกว่าหลังจากนี้จะเอายังไงต่อกับอนาคต เราชอบอะไรไปเรียนที่ไหนดี แล้วจะเรียนเกี่ยวกับอะไรที่เราก็ชอบและมีงานการมั่นคงที่สามารถทำได้ในอนาคต เราได้คำตอบว่าเราเป็นคนชอบอ่านการ์ตูนหรือดูอนิเมะมาตั้งแต่เด็กๆ มานั่งคิดว่าทำไมไม่ลองเลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นล่ะ จากนั้นเริ่มมาหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็มาสะดุดกับหน้าเว็บมหาวิทยาลัยศรีปทุม ความรู้สึกแรกคือชอบความทันสมัยของหน้าเว็บ ข้อมูลต่างๆ ที่พร้อมบอกรายละเอียดว่าจบอะไรและทำงานอะไรได้บ้าง ตอนที่ซันนี่อ่านข้อมูลก็ได้เห็นว่าที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม ส่งนักศึกษาไปศึกษาแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วก็มีนักศึกษาญี่ปุ่นมาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมเช่นกัน รู้สึกว่าเราเองก็อยากไปแลกเปลี่ยนบ้างจัง อีกอย่างที่นี่ก็ได้เรียนกับอาจารย์ญี่ปุ่นโดยตรง เราคงได้ประสบการณ์ที่ดีมากๆ จึงตัดสินใจเรียนที่นี่ค่ะ ส่วนเรื่องระยะเวลาการไปแลกเปลี่ยนคือ 1 ปีค่ะ



ได้รับทุนแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยไหน
ทำไมถึงเลือกเรียนที่นี่และเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง?

พี่ซันนี่ : ได้ทุนแลกเปลี่ยนที่ Sugiyama Jogakuen University ค่ะ อยู่ที่จังหวัดไอจิ เมืองนาโกย่าค่ะ ไปเรียนเกี่ยวกับ Japanese for communication แต่ว่าก่อนอื่นเราจะต้องทำการทดสอบวัดระดับความสามารถภาษาของเราก่อน เพื่อดูว่าเราจะสามารถลงวิชาอะไรได้บ้างอีกทีค่ะ เหตุผลที่เลือกที่นี่เพราะที่จังหวัดไอจิ (นาโกย่า) อยู่บริเวณภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น สภาพภูมิอากาศ ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไปจึงชอบที่นี่ค่ะ แถมยังอยู่ใกล้ๆ กับโอซาก้าและเกียวโตซึ่งเป็นเมืองที่ซันนี่ชอบ คงไปเที่ยวได้สะดวก ฮ่าๆ บวกกับได้ไปเรียนสาขาอยากเรียนจึงคิดว่า นอกจากจะได้ประสบการณ์ที่ดีแล้ว คงจะช่วยพัฒนาระดับภาษาของเราขึ้นไปได้อีกค่ะ

พี่กวาง ริลักษณ์ สุภาพ นะคะ จากคณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสารธุรกิจ ชั้นปีที่ 4 ได้รับทุนแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัย Sugiyama Jougakuen University ค่ะ

ช่วยเล่า...หน่อยครับว่าทำอย่างไรถึงได้ทุนนี้
และทำไมถึงตัดสินใจไปเรียนที่..."ญี่ปุ่น"

พี่กวาง : อาจารย์ของสาขามาเเจ้งกับนักศึกทุกคนว่า มีทุนแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น มหาวิทยาลัย Sugiyama กับ Yamanashi ค่ะ อาจารย์ก็มีข้อมูลต่างๆ มาแนะนำว่าต้องมีคุณสมบัติ เงื่อนไขของมหาวิทยาลัย และด้านการเรียนว่ามีเปิดสอนอะไรบ้าง ถ้านักศึกษาคนไหนสนใจก็ให้แจ้งที่อาจารย์ได้ จะมีการนัดสอบสัมภาษณ์อีกที ในช่วงระยะเวลาก่อนสัมภาษณ์กวางก็ศึกษาข้อมูลของทั้งสองมหาวิทยาลัยเลยค่ะว่าเป็นยังไงเก็บข้อมูลให้เยอะๆ ค่ะ กวางเลือกสอบทุนของมหาวิทยาลัย Sugiyama ค่ะ เพราะเปิดสอนวิชาตรงตามที่กวางสนใจอยากเรียน ตอนสอบสัมภาษณ์จะสัมภาษณ์เป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นคือตื่นเต้นมากๆ แต่ก็รีบตั้งสติและทำให้เต็มที่ค่ะ ที่เลือกสอบทุนไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ เพราะมีความสนใจอยากเรียนเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสารเลย เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่เก่งพอในเรื่องการสื่อสารค่ะ เลยอยากศึกษาเพิ่มเติมในส่วนนี้ มากกว่านั้นคือระหว่างที่ไปแลกเปลี่ยน แน่นอนว่าต้องได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นจากคนญี่ปุ่นแท้ๆ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกมากมาย เช่น การใช้ชีวิต ได้ Connection ใหม่ๆ ระเบียบการทำงาน และอื่นๆ อีกมากมายที่อยากพัฒนาตัวเองให้ได้มากกว่านี้ค่ะ และที่สำคัญเพื่ออนาคตในการทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่นค่ะ

SPU Support อย่างไรบ้าง?
............................

พี่กวาง : ก่อนอื่นกวางต้องขอขอบคุณทางมหาวิทยาลัยศรีปทุม อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ในคณะที่เกี่ยวข้องทุกๆ ท่านนะคะ ที่คอยซัพพอร์ต และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแนะนำทุนนี้ให้กับกวาง และนักศึกษาทุกๆ คนค่ะ ทั้งคอยติดต่อประสานงานกับทางมหาวิทยาลัยที่ประเทศญี่ปุ่น และยังให้คำปรึกษาในทุกๆ เรื่องอยู่ตลอดเลยค่ะ คอยเตือนคอยระวังนักศึกษาสำหรับการทำงานในอนาคต เพื่อให้นักศึกษาที่ไปแลกเปลี่ยนได้ทำงานกับชาวญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่นค่ะ

"เป้าหมาย"
หลังเรียนจบ?
พี่กวาง : กวางมีความฝันอยากทำงานในบริษัทนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับพืชและได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นไปควบคู่กันไปค่ะ อยากเป็นกำลังเล็กๆ ที่อยากสนับสนุนการเกษตรไทยค่ะ อยากให้พืชไทยได้เป็นที่รู้จักของต่างชาติบ้าง เพราะครอบครัวของกวางเองก็ทำเกี่ยวกับการเกษตรเหมือนกันค่ะ ในความคิดของกวางคือถ้าพืชไทยได้เป็นที่รู้จัก และต่างชาติมีความนิยมก็จะช่วยสนับสนุนอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกรได้มากขึ้นไปด้วยค่ะ

พี่ปุ๊ ฟุรซาน มีสาดามะ คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสารธุรกิจ ชั้นปีที่ 4 ได้รับทุนแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัย Yamanashi Gakuin University ครับ

ทำไมถึง
"หลงใหล"
ในภาษาญี่ปุ่นครับ
พี่ปุ๊ : ตั้งแต่เด็กๆ ผมชอบดูหนังแปลงร่างของญี่ปุ่นมากๆ ครับ อย่างอุลตร้าแมน มาสไรเดอร์ หรือดูอนิเมะโชเน็นต่างๆ เช่นดราก้อนบอล โทริโกะและอื่นๆ อีกมากมายครับ ซึ่งภายในสิ่งบันเทิงเหล่านั้นสอดแทรกไปด้วยประเพณีวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่หลากหลาย ทำให้ผมเริ่มสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่นและอยากที่จะลองหาข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่ในโลกการ์ตูนเท่านั้น จึงส่งผลให้ผมเริ่มที่อยากเรียนรู้อยากเข้าใจความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้นครับ เลยตัดสินใจมาเรียนที่ SPU เพื่อเรียนด้านภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจังครับ พอเริ่มเรียนไปสักพักทำให้รู้ว่าภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่ภาษาที่ง่ายเลย แต่ในความไม่ง่ายนั้นมีความน่าสนใจ มีทั้งความสนุกและความท้าทายรอเราอยู่ครับ ภาษาญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เราชอบภาษาญี่ปุ่นและอยากศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ ครับ

แนะนำเพื่อนๆ
ที่อยากเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนหน่อยครับ
พี่ปุ๊ : การเตรียมตัวเป็นสิ่งสำคัญมาก เราควรวางแผนให้ดี ต้องหาความรู้และฝึกซ้อมอย่างจริงจังโดยต้องหาข้อมูลก่อนว่า เวลาสอบขอทุนจะต้องเจอคำถามประมาณไหน ควรตอบแบบไหนถึงจะดี กริยาท่าทางที่แสดงออกตอนสัมภาษณ์ควรจะเป็นอย่างไร จากนั้นฝึกซ้อมกับเพื่อนๆ ให้คุ้นชิน หากเราไม่มีการฝึกฝนมาก่อน ผลออกมาอาจไม่ดีเท่าที่ต้องการครับ หรือหากมีคนญี่ปุ่นที่รู้จัก ลองขอความช่วยเหลือจากเขาให้เป็นคู่ซ้อม จะได้ลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจในการตอบได้ บางครั้งจะมีคำถามที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้ ควรที่จะตั้งสติให้ดีและทำความเข้าใจคำถามนั้นและตอบด้วยความจริงใจและผลลัพธ์ที่ออกมาจะดีแน่นอนครับ

Passion การเรียนในมหาวิทยาลัยถึงน้องมัธยม

พี่ปุ๊ : สำหรับพี่ Passion ต่อเรื่องการเรียนในมหาวิทยาลัยคือไม่ยึดติดกับคำนี้มากจนเกินไปครับ ไม่ใช่แค่เรียนมหาวิทยาลัยเท่านั้น เรื่องอื่นๆ เราต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน แค่ลองหาเหตุผลให้มันว่าทำไมถึงต้องทำ ทำแล้วจะส่งผลอะไรต่อชีวิตเรา แล้วทำเป็นประจำสม่ำเสมอให้ติดจนชินเป็นนิสัยครับ แน่นอนว่ามันต้องมีจุดที่รู้สึกต่ำที่สุดบ้าง เครียดหรือผิดหวังไม่เป็นอย่างที่เราคิดไว้บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งสำคัญเลยคือ “ต้องไม่กดดันตัวเองมากเกินไป”
พี่กวาง : สิ่งแรกของพี่เลยคือ หาสิ่งที่เรารักและทำอยู่กับมันไปนานๆ เราต้องรู้เป้าหมายของตัวเองก่อนค่ะ ทั้งเป้าหมายระยะสั้นระยะยาว แล้วเริ่มว่าแผนจัดลำดับความสำคัญในแบบฉบับของตัวเองค่ะ เช่น ทบทวนบทเรียน ช่วงไหนจะรีแลกซ์ตัวเอง เรียกว่าตารางการดำเนินชีวิตนั้นเองค่ะ เพราะจะช่วยโฟกัสให้ถูกจุดที่เราควรทำจริงๆ ค่ะ ที่สำคัญเลยอยู่กับเพื่อนที่มีพลังบวกค่ะ เวลาเราเครียด หรือวิตกกังวล การได้แชร์ให้เพื่อนได้ฟังบ้าง ปัญหานั้นจะเบาลงไปค่ะ
พี่ซันนี่ : นอกจากเรื่องเรียนที่สำคัญแล้วสิ่งที่พี่มองว่าสำคัญรองลงมา ก็คือเรื่องของกิจกรรม เข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบอยู่ที่คนเยอะๆ แต่พี่มองว่าบางครั้งการที่เราได้ลองทำอะไรใหม่ๆ บ้าง นอกจากได้เจอเพื่อนใหม่แล้ว สิ่งใหม่ๆ มันก็ทำให้เราได้ไอเดียดีๆ หรือแรงบันดาลใจที่เราอาจจะคิดไม่ถึงก็ได้นะ