มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดย SPU AI CLUB คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ เปิดตัว “FloodAidSouth” นวัตกรรม AI สำหรับรวมศูนย์ข้อมูลช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ในแพลตฟอร์มเดียว พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์อุทกภัยที่รุนแรงและต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง ใช้งานง่าย และเชื่อมโยงทุกฝ่ายเข้าหากันอย่างเป็นระบบ
ผศ.ดร.เกรียงไกร สัจจะหฤทัย คณบดีคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของโครงการว่า มาจากความตั้งใจที่จะนำนวัตกรรมและความสามารถด้านเทคโนโลยีของนักศึกษามาช่วยแก้ไขปัญหาสังคมอย่างแท้จริง หลังจากเห็นสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ครั้งนี้รุนแรงกว่าหลายปีที่ผ่านมา “เมื่อเห็นข่าววิกฤต เราตั้งคำถามทันทีว่า SPU จะช่วยอะไรได้บ้าง จึงเริ่มจากการพูดคุยกับระบบ AI เพื่อหาแนวทางเบื้องต้น จนได้ไอเดียพัฒนาเว็บไซต์กลาง ที่รวมข้อมูลสำคัญสำหรับการช่วยเหลือไว้ในแพลตฟอร์มเดียว” ผศ.ดร.เกรียงไกร กล่าว
ผศ.ดร.เกรียงไกร อธิบายว่าเป้าหมายหลักของแพลตฟอร์มนี้คือการลดความสับสนของข้อมูลในช่วงเกิดภัยพิบัติ เนื่องจากข้อมูลต่าง ๆ กระจัดกระจายและอัปเดตไม่พร้อมกัน นักศึกษาชมรม AI CLUB จึงพัฒนาฟีเจอร์สำคัญ เช่น ระบบระบุตำแหน่งพื้นที่ประสบภัย จำนวนและประเภทผู้ประสบภัย จุดอพยพ เส้นทางปลอดภัย และรายการสิ่งของจำเป็นเร่งด่วน โดยใช้เทคโนโลยี Claude Code และ Lovable AI ที่ช่วยให้ระบบทำงานได้รวดเร็ว ใช้งานง่าย และเหมาะกับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือผู้ใช้งานที่ไม่ถนัดเทคโนโลยี

“ความท้าทายคือการออกแบบทุกอย่างให้ตอบโจทย์ผู้ใช้จริงในพื้นที่คับขัน ทั้งเรื่องสัญญาณ ความเร่งด่วน และปริมาณข้อมูลที่ต้องจัดการ นักศึกษาต้องช่วยกันดึงทั้งทักษะ AI และมุมมองความเป็นผู้ประกอบการมาประยุกต์ใช้ให้เกิดความยั่งยืน” ผศ.ดร.เกรียงไกร กล่าว พร้อมเน้นว่า การได้ทำงานกับสถานการณ์จริงทำให้นักศึกษาเห็นภาพการประยุกต์ใช้ AI ในการแก้ปัญหาได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงเข้าใจการวางแผนและการคิดระบบที่สามารถต่อยอดในระดับประเทศได้ในอนาคต
ผศ.ดร.เกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า เว็บไซต์กลางเช่นนี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการช่วยเหลือในภาวะวิกฤต เพราะช่วยสร้าง “เอกภาพในการสื่อสาร” ระหว่างผู้ประสบภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้การประสานงานเป็นไปอย่างมีระบบ ลดการซ้ำซ้อน และส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่ต้องการได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
สำหรับทิศทางในอนาคต ผศ.ดร.เกรียงไกร เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมีแผนต่อยอด FloodAidSouth ให้กลายเป็น Urgent Platform ที่รองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินทุกรูปแบบ เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่สนับสนุนประเทศได้ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต โดยยังคงยึดแนวคิดการใช้เทคโนโลยี AI และพลังของนักศึกษามาสร้างประโยชน์ต่อสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป
มหาวิทยาลัยศรีปทุม ตอกย้ำความเป็น “Dynamic University” มุ่งผลักดันการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและทักษะดิจิทัลให้กับนักศึกษาทุกคณะอย่างต่อเนื่อง ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้ด้าน AI เข้าสู่ทั้งห้องเรียนและกิจกรรมเสริมศักยภาพนอกหลักสูตร หนึ่งในกำลังสำคัญคือ SPU AI CLUB ชมรมนักศึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์ของคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ด้าน Generative AI และ Automation Tools ผ่านเวิร์กชอปแบบลงมือปฏิบัติจริง พร้อมเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาได้ทดลองสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมตามแนวคิด “AI for Everyone” ช่วยเตรียมความพร้อมคนรุ่นใหม่ให้มีทั้ง Digital Mindset และทักษะแห่งอนาคตที่ตอบโจทย์โลกยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
สำหรับ แพลตฟอร์ม “FloodAidSouth” ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่ายเหมือนแอปเดลิเวอรี่ โดยมุ่งเน้นความรวดเร็ว แม่นยำ และเข้าถึงได้ในทุกสถานการณ์ ผู้พัฒนาออกแบบกระบวนการทำงานให้เป็นระบบชัดเจน ตั้งแต่ผู้ประสบภัย “ส่งคำขอความช่วยเหลือ” → เจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัคร “กดรับเคส” → เข้าปฏิบัติงานช่วยเหลือ → ปิดงานเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น เพื่อให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาจำกัด

ฟีเจอร์หลักของแพลตฟอร์ม “FloodAidSouth” ประกอบด้วย
1. ระบบแจ้งขอความช่วยเหลือ (Cases)
ระบบถูกออกแบบเพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถส่งคำขอได้อย่างรวดเร็วผ่านมือถือ โดยสามารถเลือกประเภทการช่วยเหลือ เช่น อาหาร เรือ การแพทย์ ผู้สูงอายุ เด็ก หรือสัตว์เลี้ยง พร้อมระบุระดับความเร่งด่วน อัปโหลดภาพสถานการณ์ และปักหมุดตำแหน่งบนแผนที่ ผู้ใช้ยังสามารถติดตามสถานะเคสแบบเรียลไทม์ ทำให้การแจ้งเหตุเป็นระบบและลดการคลาดเคลื่อนในภาวะวิกฤต
2. แผนที่แสดงสถานการณ์ (Map View)
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้เห็นภาพรวมสถานการณ์ในพื้นที่น้ำท่วมแบบชัดเจน โดยแสดงตำแหน่งผู้ขอความช่วยเหลือ ศูนย์อพยพ จุดปลอดภัย และจุดเสี่ยง เช่น ถนนปิด น้ำท่วมสูง หรือพื้นที่ที่อันตรายต่อไฟฟ้า การใช้สีของ Marker ทำให้มองเห็นระดับความเร่งด่วนได้ทันที ช่วยในการวางแผนช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ศูนย์อพยพ (Safe Zones)
FloodAidSouth รวบรวมข้อมูลศูนย์อพยพทั้งหมดในพื้นที่ ทั้งชื่อสถานที่ ความจุ จำนวนผู้พักพิงปัจจุบัน และตำแหน่งบนแผนที่ ผู้ใช้สามารถกดนำทางไปยังศูนย์อพยพผ่าน Google Maps ได้ ทำให้ผู้ประสบภัยและหน่วยงานสามารถตัดสินใจเลือกจุดปลอดภัยได้อย่างเหมาะสม
4. เบอร์โทรฉุกเฉิน (Emergency Contacts)
ฟีเจอร์นี้รวบรวมเบอร์สำคัญของหน่วยงานช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น ตำรวจ แพทย์ หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย และหน่วยงานราชการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถกดโทรได้ทันทีโดยไม่ต้องค้นหาเอง ช่วยลดเวลาในการประสานงานและเป็นประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์ตึงเครียด
5. ระบบแชทเรียลไทม์ (Real-time Chat)
เป็นช่องทางสื่อสารโดยตรงระหว่างผู้ประสบภัยและอาสาสมัคร รองรับการส่งข้อความและแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความใหม่ ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจสถานการณ์ตรงกัน ลดความผิดพลาด และทำให้การช่วยเหลือดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว
6. ระบบแจ้งเตือน (Notifications)
ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีอาสาสมัครรับเคส การเปลี่ยนสถานะการช่วยเหลือ หรือประกาศด่วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ทุกฝ่ายรับรู้ข้อมูลล่าสุดพร้อมกันและตอบสนองได้ทันที
7. ฟีเจอร์ค้นหาเคสใกล้ฉัน (Nearby Cases สำหรับอาสาสมัคร)
ระบบจะใช้ GPS เพื่อค้นหาผู้ต้องการความช่วยเหลือในระยะ 50 กิโลเมตร โดยเรียงลำดับตามระดับความเร่งด่วนและระยะทาง ช่วยให้อาสาสมัครสามารถเลือกเคสที่สามารถเข้าถึงได้เร็วที่สุด ลดเวลา และเพิ่มโอกาสช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์
8. ระบบรายงานสถานการณ์อันตราย (Hazard Reports)
ประชาชนและอาสาสมัครสามารถช่วยกันรายงานพื้นที่เสี่ยง เช่น ถนนปิด น้ำท่วมสูง กระแสไฟฟ้าอันตราย หรือพื้นที่เข้าถึงยาก ระบบจะรวบรวมข้อมูลเหล่านี้เพื่อช่วยให้หน่วยงานวางแผนการช่วยเหลือได้แม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น
#SPU #SPUAIClub #FloodAidSouth #น้ำท่วมภาคใต้ #มหาวิทยาลัยศรีปทุม #ศรีปทุม #AI #GenerativeAI #SripatumUniversity










