รู้ทัน AI โลจิสติกส์ เปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส

ในโลกปัจจุบันที่ Generative AI กลายเป็นคำที่ทุกคนคุ้นหู เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้ก้าวล้ำไปอย่างน่าทึ่ง เราสามารถสื่อสารกับ AI ด้วยภาษาธรรมชาติ และที่สำคัญคือ AI เข้าใจในสิ่งที่เราต้องการได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่เคยต้องใช้เวลานานในการทำงาน ตอนนี้ AI สามารถจัดการได้ในพริบตา และความสามารถของ AI ก็ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จาก “เด็กเล็ก” ที่เพิ่งเริ่มต้น ไม่นานจะกลายเป็น “หนุ่มสาว” ที่เก่งกาจและชาญฉลาด เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้นักศึกษารุ่นใหม่พัฒนาทักษะเพื่ออนาคต

AI ในวงการโลจิสติกส์: จาก Predictive สู่ Generative

ผศ.ดร.ธรินี มณีศรี คณบดีวิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม ชี้ให้เห็นว่า AI ไม่ใช่เรื่องใหม่ในแวดวงโลจิสติกส์และซัพพลายเชน เรามีการใช้งานเทคโนโลยี AI มานานแล้ว โดยเฉพาะในรูปแบบของ Predictive AI ที่ช่วยในการวิเคราะห์ พยากรณ์ และควบคุมระบบอัตโนมัติในสายการผลิต

แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ Generative AI ที่มีความสามารถเหนือกว่าเดิมมาก จากเดิมที่ต้องอาศัยการเขียนโค้ดเพื่อสั่งงานเครื่องจักร ปัจจุบัน AI สามารถรับรู้คำสั่งผ่านภาษาธรรมดา เข้าใจ และตอบสนองได้ทันที สำหรับสายงานโลจิสติกส์ ผศ.ดร.ธรินี มองว่านี่ไม่ใช่ “ผลกระทบ” แต่คือ “โอกาส” เพราะเป้าหมายหลักของการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนคือ การลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับความสามารถของ AI อย่างยิ่ง AI เข้ามาช่วยลดต้นทุน ลดเวลาในการทำงาน และเพิ่มความแม่นยำในกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

ยกตัวอย่างเช่น ผู้ประกอบการขนส่งในปัจจุบันเริ่มติดตั้ง กล้อง AI บนรถบรรทุก เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมคนขับ กล้องสามารถตรวจจับสีหน้า อาการง่วงนอน หรือภาวะไม่พร้อมขับขี่ได้ทันที ระบบจะแจ้งเตือนแบบ Real Time ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI: บริหาร “คน” คือหัวใจสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่แท้จริงขององค์กรโลจิสติกส์ในตอนนี้คือ “การเปลี่ยนผ่าน” หรือ AI Transformation ซึ่งคล้ายกับการทำ Digital Transformation ที่เคยผ่านมา แต่ครั้งนี้เราต้องตอบคำถามใหม่ว่า “จะเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่ยุค AI อย่างไร”

ผศ.ดร.ธรินี แนะนำให้เริ่มต้นจากการบริหาร “คน” ในองค์กร โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก:

  • กลุ่มคนรุ่นใหม่ (New Gen): กลุ่มนี้พร้อมเปิดรับเทคโนโลยี เติบโตมากับโลกดิจิทัล สามารถเรียนรู้และใช้งาน AI ได้อย่างรวดเร็ว ผู้บริหารควรมองคนกลุ่มนี้เป็น “Talent” และสนับสนุนให้เป็นตัวแทนขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
  • กลุ่มคนเก่ง (Top Performer): คนกลุ่มนี้อาจมีทัศนคติปิดกั้นต่อ AI ด้วยความรู้สึกว่าเทคโนโลยีจะมาแทนที่ตนเอง แต่ความจริงแล้ว AI ไม่สามารถแทนความเชี่ยวชาญของคนกลุ่มนี้ได้ แต่จะเข้ามาช่วยลดภาระ ให้พวกเขาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • กลุ่มวัยอาวุโส (Senior): กลุ่มนี้เปลี่ยนแปลงยากที่สุด เพราะมีระยะห่างกับเทคโนโลยีมากที่สุด แต่ยังต้องให้ความเคารพในประสบการณ์ วิธีที่ดีที่สุดคือการจัดคนเป็น “Buddy” คอยช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ค่อย ๆ ปรับตัวไปทีละขั้น พร้อมให้ AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยที่ไม่แทนที่

ดังนั้น ในมุมของผู้นำองค์กรในยุค AI ต้องสามารถบริหารจัดการคนทั้งสามกลุ่มนี้ได้อย่างสมดุล เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าไปด้วยกัน

โอกาสของคนรุ่นใหม่ในยุค AI: ทักษะที่ AI ทำไม่ได้

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังสนใจจะเข้าสู่อาชีพด้านโลจิสติกส์ ผศ.ดร.ธรินี ฝากไว้ว่า ในยุคของ AI สิ่งที่ง่าย ๆ AI สามารถทำแทนได้หมด ดังนั้น “มนุษย์” จำเป็นต้องมีทักษะที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์ วางแผน และการบริหารจัดการที่ AI ยังไม่สามารถทำได้

สายงานโลจิสติกส์นั้นมีความซับซ้อนในตัวเองอยู่แล้ว และเป็นสายงานที่ต้องการ “กำลังคนสมรรถนะสูง” จึงถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับคนรุ่นใหม่ หากสามารถเรียนรู้ที่จะนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถของตนเองและองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

เปิดใจเรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมกับ AI

ท้ายที่สุด ผศ.ดร.ธรินี อยากให้ทุกคนเปิดใจให้กับ AI อย่างแท้จริง เพราะตอนนี้ AI อาจยังอยู่ในวัยเด็ก (อายุประมาณ 0-4 ขวบ) แต่ไม่ช้าไม่นาน เขาจะเติบโตขึ้น ฉลาดขึ้น และรวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า เราจึงต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ

อย่าตื่นตระหนก แต่จงเรียนรู้และปรับตัว ทักษะที่ AI ไม่มี คือ “จิตใจของมนุษย์” หรือ Soft Skill ซึ่งยังคงเป็นข้อได้เปรียบของเราทุกคน จงใช้ AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่คู่แข่ง และเดินหน้าไปพร้อมกันในโลกแห่งอนาคต

#รู้ทันAI #โลจิสติกส์ยุคใหม่ #SPULogistics #AITransformation #วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน #SPU # มหาวิทยาลัยศรีปทุม #ศรีปทุม #AI

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn

Most Popular

Categories

News

Related Posts

SPU รวมพลังแห่งการให้! จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต ภายใต้โครงการ Gift for Give สร้างจิตสำนึกเพื่อสังคมที่ยั่งยืน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

อาจารย์วิศวะ SPU โชว์พลังวิจัย ยกระดับการสอนสู่อนาคต บนเวที ‘วิศวศึกษา ครั้งที่ 21’

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษาอย่างไม่หยุดยั้ง นำเสนอผลงานวิจัยด้านการเรียนการสอนและการพัฒนาทักษะแห่งอนาคต บนเวทีประชุมวิชาการระดับชาติ

เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ! นักศึกษาคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ SPU ร่วมกิจกรรมพัฒนา Soft Skills สร้างพลังทีมเพื่ออนาคตธุรกิจที่ยั่งยืน

เพราะโลกธุรกิจยุคใหม่ต้องการมากกว่าคนเก่ง คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงจัดกิจกรรม “พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม”