ในภาวะการระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ใครๆต่างกันกักตัวอยู่แต่ในบ้าน เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย แต่รู้ไหมว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ยังมีอีกหลายอาชีพที่ไม่สามารถปฏิเสธความเสี่ยงในการได้รับเชื้อได้เลย นั่นคืออาชีพหมอและพยาบาล รวมถึงผู้ให้บริการทางการสาธารณสุขด้านต่างๆ ที่ร่วมมือกันยับยั้งไม่ให้ประเทศไทยเกิดการระบาดไปมากกว่านี้
“พี่ TOP” ธีรภัทร ทองอุดม เด็กหนุ่มนักศึกษาธรรมดาๆ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์
ศรีปทุม ที่ได้นำความรู้จากการเขียนแบบ 3 มิติ ของตัวเองมาประยุกต์ใช้ผลิตหน้ากาก Face Shield เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลหลายๆแห่งได้ใช้ป้องกันตนเอง พี่แอดรับรองว่าถ้าเพื่อนๆได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเขาในครั้งนี้อาจจะเป็นจุดเล็กๆในการสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนเริ่มต้นการแบ่งปัน
“พี่ TOP” ธีรภัทร ทองอุดม เด็กหนุ่มนักศึกษาธรรมดาๆ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์
ศรีปทุม ที่ได้นำความรู้จากการเขียนแบบ 3 มิติ ของตัวเองมาประยุกต์ใช้ผลิตหน้ากาก Face Shield เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลหลายๆแห่งได้ใช้ป้องกันตนเอง พี่แอดรับรองว่าถ้าเพื่อนๆได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเขาในครั้งนี้อาจจะเป็นจุดเล็กๆในการสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนเริ่มต้นการแบ่งปัน
แนะนำตัวเองให้ชาว SPU
ได้รู้จักหน่อยครับ…
ได้รู้จักหน่อยครับ…
สวัสดีครับ ผมชื่อ ธีรภัทร ทองอุดม ชื่อเล่น TOP นะครับ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมยานยนต์ ปีที่ 4 แล้วครับ
จุดเริ่มต้นของการทำ Face shield คืออะไร
“ทำไมถึงอยากทำ”
และแรงบันดาลใจ คืออะไร…?
“ทำไมถึงอยากทำ”
และแรงบันดาลใจ คืออะไร…?
TOP : ถ้าพูดถึงจุดเริ่มต้นของการทำ Face shield ก่อนหน้านี้ผมได้เห็นข่าวในทีวี ใน Facebook และตามโซเชียลต่างๆครับ มีคนแชร์กันเยอะมาก เห็นว่าคุณหมอกับพยาบาลต้องมานั่งทำ Face shield กันเอง โดยใช้ฟองน้ำกับแผ่นหน้าปกใส (ที่เอาไว้ใส่ตอนเราทำรายงาน) ผมก็คิดในใจนะว่าทำไมพวกเขาต้องมานั่งทำอะไรพวกนี้อีก ทั้งๆที่งานของหมอกับพยาบาลก็หนักมากพออยู่แล้ว ผมก็เลยหาข้อมูล ว่าจะทำยังไงได้บ้างที่จะช่วยแบ่งเบาภาระไม่มากก็น้อยให้กับหมอและพยาบาล แล้วผมก็ได้ไปเจอโพสต์หนึ่งในกลุ่ม Facebook 3D Printer Thailand ที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ เขาได้มีการแจกไฟล์ Face shield ที่ทางต่างประเทศเขาออกแบบ โดยใช้เครื่อง 3D Printer ทำขึ้นมา มีหลากหลายแบบเลยครับ ผมก็ได้นำไฟล์มาลองปริ้นดูครับและก็ลองใช้งานดู สรุปมันใช้งานค่อนข้างยากต้องมานั่งเจาะรูเสียเวลาบางอันก็เปราะบางหักง่าย ผมก็เลยปิ๊ง Idea ขึ้นมา ลองใช้ทักษะการเขียนแบบด้วยโปรแกรม 3 มิติของตัวเองที่มีอยู่ ออกแบบขึ้นมา โดยเอาข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบที่เคยมีลองมาปรับเปลี่ยน จนได้แบบที่ดีใช้งานง่าย แต่อาจจะไม่ได้ดีที่สุดครับ เพราะมีเวลาน้อยมากๆ อยากจะรีบออกแบบแล้วผลิตแจกให้หมอและ พยาบาลได้ใช้เร็วๆครับ จึงเป็นที่มาของจุดเริ่มต้น และแรงบันดาลใจที่ทำ Face shield ขึ้นมาในครั้งนี้ครับ

ก่อนหน้านี้เคยร่วม CSR
ในลักษณะอื่นๆ มาก่อนไหม?
ในลักษณะอื่นๆ มาก่อนไหม?
TOP : อาจจะไม่ได้ร่วมแบบจริงจังเท่าไหร่นะครับ แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้น ก่อนหน้านี้ ผมเคยร่วมกิจกรรมออกแบบพวงกุญแจและนำมาขาย เพื่อที่จะนำเงินไปมอบให้กับสถานรับเลี้ยงเด็กพิการทางสมองครับ ตอนนั้นเป็นงานครบรอบ 47 ปี ของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ผมได้เงินจากการขายพวงกุญแจและการบริจาค จากพี่น้องชาว SPU มาประมาณหมื่นกว่าบาท นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการที่อยากจะทำอะไรเพื่อคนอื่นและเพื่อสังคมเลยครับ
ตอนนี้ทำหน้ากากไปแล้วกี่ชิ้น
และถ้าหากรุ่นพี่ รุ่นน้อง SPU อยากสมทบทุน
สามารถใช้ช่องทางไหนได้บ้าง?
และถ้าหากรุ่นพี่ รุ่นน้อง SPU อยากสมทบทุน
สามารถใช้ช่องทางไหนได้บ้าง?
TOP : ตอนนี้ผมทำไปแล้วประมาณ 120 ชิ้นครับ แจกไปแล้วทั้งหมด 6 โรงพยาบาล
มี รพ.ภูมิพล,รพ.ปทุมธานี,รพ.มิลเลียน,รพ.วิชัยยุทธ,รพ.เชียงใหม่,รพ.บางประกอก9 ต้องบอกว่าผมเองไม่ได้ตั้งเป้าเอาไว้นะครับว่าจะทำกี่ชิ้น หรือต้องทำไปถึงเมื่อไหร่ ผมคิดแค่ว่าผมจะทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะสุดกำลังของตัวเองครับ หรือโรคไวรัสโควิด – 19 จะหมดไปครับ
ในส่วนเรื่องทุนเริ่มแรกผมใช้ทุนของตัวเองครับพอหลังๆเริ่มไม่ไหวเพราะค่าวัสดุกับอุปกรณ์ค่อนข้างแพงมากครับ เลยตัดสินใจเปิดขอรับบริจาคครับ ส่วนใหญ่เงินที่ได้รับบริจาคมาก็ได้มาจาก เพื่อนๆพี่น้องญาติและก็อาจารย์ที่ SPU ครับ บางคนก็ช่วยอุดหนุนแล้วก็นำไปแจกให้กับ โรงพยาบาลต่างๆ โดยจะส่งรูปคุณหมอและพยาบาลใส่ Face shield ที่ผมทำมารีวิวให้ดูครับ (ลึกๆ เห็นแล้วแอบรู้สึกภูมิใจมากครับ) ส่วนตอนนี้ผมยังไม่ได้เปิดบัญชีแยกไว้สำหรับรับบริจาคโดยตรงนะครับเพราะตอนแรกไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจและสนับสนุนมากขนาดนี้ครับ ทางมหาลัยเองก็อยากจะช่วยจัดหาเครื่อง Print 3 มิติเพิ่มเติม เพื่อจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นได้อีก หากพี่น้องชาว SPU อยากช่วยบริจาค เดี๋ยวผมจะไปเปิดบัญชีแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะครับ สามารถ Update ความเคลื่อนไหวได้ทาง
Facebook : TopTheerapat Tongudom
มี รพ.ภูมิพล,รพ.ปทุมธานี,รพ.มิลเลียน,รพ.วิชัยยุทธ,รพ.เชียงใหม่,รพ.บางประกอก9 ต้องบอกว่าผมเองไม่ได้ตั้งเป้าเอาไว้นะครับว่าจะทำกี่ชิ้น หรือต้องทำไปถึงเมื่อไหร่ ผมคิดแค่ว่าผมจะทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะสุดกำลังของตัวเองครับ หรือโรคไวรัสโควิด – 19 จะหมดไปครับ
ในส่วนเรื่องทุนเริ่มแรกผมใช้ทุนของตัวเองครับพอหลังๆเริ่มไม่ไหวเพราะค่าวัสดุกับอุปกรณ์ค่อนข้างแพงมากครับ เลยตัดสินใจเปิดขอรับบริจาคครับ ส่วนใหญ่เงินที่ได้รับบริจาคมาก็ได้มาจาก เพื่อนๆพี่น้องญาติและก็อาจารย์ที่ SPU ครับ บางคนก็ช่วยอุดหนุนแล้วก็นำไปแจกให้กับ โรงพยาบาลต่างๆ โดยจะส่งรูปคุณหมอและพยาบาลใส่ Face shield ที่ผมทำมารีวิวให้ดูครับ (ลึกๆ เห็นแล้วแอบรู้สึกภูมิใจมากครับ) ส่วนตอนนี้ผมยังไม่ได้เปิดบัญชีแยกไว้สำหรับรับบริจาคโดยตรงนะครับเพราะตอนแรกไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจและสนับสนุนมากขนาดนี้ครับ ทางมหาลัยเองก็อยากจะช่วยจัดหาเครื่อง Print 3 มิติเพิ่มเติม เพื่อจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นได้อีก หากพี่น้องชาว SPU อยากช่วยบริจาค เดี๋ยวผมจะไปเปิดบัญชีแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะครับ สามารถ Update ความเคลื่อนไหวได้ทาง
Facebook : TopTheerapat Tongudom

“รูปจากพี่ๆพยาบาล”

“วิศวกรรมยานยนต์”
กับการประยุกต์ใช้
กับการประยุกต์ใช้
TOP : ใช่ครับ หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าเรียนวิศวกรรมยานยนต์ ผมไปทำหน้ากากเป็นได้ยังไง จริงๆแล้วในวิศวกรรมยานยนต์ มีวิชาที่เกี่ยวกับการเขียนแบบด้วยโปรแกรม 3 มิติที่มีอยู่ในหลักสูตรครับ ตรงนี้แหละที่ผมได้นำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ Face shield ด้วยครับ ถือว่าโชคดีมากๆที่เคยได้ใช้งานมาก่อน จึงพอมีทักษะพอสมควรครับ

ผลตอบรับจากสังคม และคนรอบข้าง
การแบ่งปันความดี บนโลก Social
การแบ่งปันความดี บนโลก Social
TOP : เสียงตอบรับทางสังคมดีมาก และตกใจมากด้วยครับ เพราะตอนแรกที่ผมเริ่มทำ ผมไม่ได้คิดถึงตรงนี้เลยนะครับ ว่าจะต้องมีคนเห็นหรือต้องมีคนมาชมครับ
เพื่อนๆใน Facebook ก็ช่วยกันสนับสนุนเต็มที่ครับ ช่วยกดแชร์ บางคนก็ช่วยบริจาคเงินให้ผมเป็นค่าแรงค่าวัสดุและก็ใช้ซ่อมเครื่อง 3D printer ด้วยครับ แล้วก็มีรุ่นพี่ที่มีเครื่อง 3D printer ก็ได้ขอไฟล์จากผมไปช่วยพิมพ์อีกแรงด้วยครับ โดยผมได้แจกไฟล์ของผมที่ออกแบบไว้ให้กับสมาชิกในกลุ่ม 3D Printer Thailand ได้ดาวโหลดไฟล์นำไปพิมพ์แจกกันด้วยครับ นี่เป็นสิ่งที่ดีๆ ที่ได้รับจากโลกที่ถูกเรียกว่า “โลกโซเซียล”
เพื่อนๆใน Facebook ก็ช่วยกันสนับสนุนเต็มที่ครับ ช่วยกดแชร์ บางคนก็ช่วยบริจาคเงินให้ผมเป็นค่าแรงค่าวัสดุและก็ใช้ซ่อมเครื่อง 3D printer ด้วยครับ แล้วก็มีรุ่นพี่ที่มีเครื่อง 3D printer ก็ได้ขอไฟล์จากผมไปช่วยพิมพ์อีกแรงด้วยครับ โดยผมได้แจกไฟล์ของผมที่ออกแบบไว้ให้กับสมาชิกในกลุ่ม 3D Printer Thailand ได้ดาวโหลดไฟล์นำไปพิมพ์แจกกันด้วยครับ นี่เป็นสิ่งที่ดีๆ ที่ได้รับจากโลกที่ถูกเรียกว่า “โลกโซเซียล”
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ Covid-19 ในครั้งนี้
มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตเราบ้าง…
TOP : โห ได้เยอะเลยครับ ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี จากเหตุการณ์ Covid-19 ทำให้ผมรู้ว่าในยามที่เกิดวิกฤตมากขนาดนี้พี่น้องคนไทยไม่เคยทิ้งกันเลยจริงๆครับ หลายคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างที่ บางคนไม่ได้รู้จัก ไม่เคยพูดคุย ไม่เคยเจอหน้าก็ยังมาช่วยกันบริจาคเพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ผมรู้สึก ทำให้ได้เห็นเลยว่าจริงๆแล้วเราคนไทยรักกันมากขนาดไหนครับ ดีใจมากๆที่ทุกคนคอยช่วยเหลือกันครับ สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะด่ากัน โกรธกันแค่ไหนคนไทยก็ไม่เคยทิ้งกันไม่เคยหันหลังให้กันในยามวิกฤต มันทำให้ผมอยากจะเติบโตขึ้นไปในทางที่ดี และเหตุการณ์ในครั้งนี้มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมอยากจะทำอะไรดีๆอีกต่อๆไปด้วยนะครับ
ตอนนี้เราเรียน “ออนไลน์” อยู่
อยากให้พูดถึงการเรียน ออนไลน์ นิดนึง!
อยากให้พูดถึงการเรียน ออนไลน์ นิดนึง!
TOP : จริงๆแล้วตัวผมมองว่า ทุกๆที่คือห้องเรียน ทุกๆที่คือแหล่งเรียนรู้ สำหรับผมการที่ผมทำอะไรต่างๆนั้น มันก็คือการเรียนรู้อย่างหนึ่งนะครับ แต่ในสถานการณ์ในตอนนี้มันถูกบังคับให้เราจำเป็นต้องเรียนรู้ผ่าน ออนไลน์ มันก็เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับผมเหมือนกันนะ จากที่เคยเรียนในห้องเรียน ต้องมีการปฏิบัติเพราะผมเรียนวิศวกรรมยานยนต์ด้วย แต่นั่นแหละที่ผมบอกทุกสิ่งทุกอย่างมันคือการเรียนรู้อะไรใหม่ๆผมและทุกๆคนก็ต้องปรับและเรียนรู้ไปกับมัน และอีกอย่างนะครับ เวลาเรียนออนไลน์แบบนี้ ผมว่ามันก็สนุกไปอีกแบบเหมือนได้คุยโทรศัพท์กันอยู่ตลอดเลย ฮ่าๆ กล้าถามกล้าตอบ อาจารย์เองก็ดูน่ารักกว่าตอนที่สอนในห้องเรียนปกติอีกนะครับ (หัวเราะ)

แอดขอปรบมือดังๆให้กับความมุ่งมั่นของพี่ TOP ที่เป็นส่วนเล็กๆในการส่งต่อความห่วงใยจากเราชาว SPU ไปสู่ประเทศไทยในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ก็มีเรื่องดีๆให้ชื่นใจ ช่วงนี้ขอให้น้องๆทุกคน รักษาสุขภาพและร่วมกัน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” กันนะครับ แล้วเราจะผ่านไปด้วยกัน






