จากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผู้เรียนหลายๆคนเปลี่ยนความคิดและเพิ่มความต้องการที่หลากหลาย เพื่อให้ทันกับยุคสมัยใหม่ ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ได้เรียนเอง ปฏิบัติเอง ผ่านแหล่งความรู้และเทคโนโลยีที่หลากหลาย กระบวนการเหล่านี้จะหล่อหลอมให้ผู้เรียนได้เดินทางสู้เป้าหมาย และจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ของตนเอง คณะสหวิทยาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยศรีปทุม ถือเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่เป็นคณะทางเลือกใหม่สำหรับการเรียนรู้ “หลักสูตรยุคใหม่ อยากเรียนอะไรก็เรียนได้”
หากรู้สึกว่าเราเป็นคนที่มีความชอบที่หลากหลาย อยากจะเรียนรู้หลายๆศาสตร์ หรือใครอยากมีสกิลเทพๆ ในแบบฉบับของตัวเราเองในเวอร์ชั่นที่ไม่เหมือนใคร วันนี้ โค้ชย้ง หรือ อาจารย์ ดร.เกรียงไกร สัจจะหฤทัย ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และหัวหน้าสาขาวิชาสหวิทยาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยศรีปทุม จะมาถ่ายทอดแนวคิดสถานีแห่งความสำเร็จ หรือ 10 Stations สู่ความสำเร็จ แนวคิดการเรียนรูปแบบใหม่ที่เด็ดสุด ดีสุด! สำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ จะได้เข้าใจคณะใหม่ของเราอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
อาจารย์ ดร.ย้ง กล่าวว่า หากจะกล่าวถึงคณะสหวิทยาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในแบบเข้าใจง่ายๆ คงสรุปสั้นๆ ได้แบบนี้ครับ เลือกเรียนได้หลากหลาย ,เหมาะกับคนที่อยากมีทักษะ เก่งหลายๆ ด้าน ,ไม่มีสอบ แต่ลงมือทำใช้การสอบผ่าน Project ,มีโค้ชที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ,เน้นให้นักศึกษาได้ลงมือทำจริงตั้งแต่ต้น และสนับสนุนจนสำเร็จ
หรืออธิบายง่ายๆ คณะนี้เป็นคณะที่ดึงศักยภาพของเด็กๆ แต่ละบุคคลมาสร้างสรรค์ชิ้นงาน ผ่านรูปแบบการทำงานเป็นทีม เป็นการเรียนรู้ข้ามศาสตร์ การทำงานเรียนรู้ข้ามกลุ่ม ข้ามคณะเรียนรู้แบบก้าวกระโดดจากผู้ประกอบการ “เพราะผมเชื่อว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการลงมือทำและสร้างสรรค์ธุรกิจด้วยนวัตกรรม”
อาจารย์ ดร.ย้ง กล่าวต่อว่า สำหรับ 10 Stations จะพาเราสู่ความสำเร็จด้วยเส้นทางไหนบ้างนั้น จุดเริ่มต้นคือ วันหนึ่งผมคิดได้ว่าการศึกษาคือการเดินทางในรูปแบบหนึ่งพอมองออกไปหน้ามหาวิทยาลัยแล้วเกิดไอเดียของรถไฟฟ้าที่มีสถานีต่างๆ จึงได้ทดลองออกแบบหลักสูตรในรูปแบบสถานี ซึ่งกว่าจะมาเป็นสถานี ผมก็ต้องศึกษาข้อมูลแนวโน้มจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงความต้องการของสถานประกอบการและภาคอุตสาหกรรม จนตกผลึกออกมาเป็น 10 สถานี สำหรับการเรียนรู้
และแต่ละสถานีมีไอเดียเจ๋งๆอย่างไรบ้าง เริ่มที่ปีแรก เด็กสหวิทยาการฯ จะได้เรียนรู้ 3 สถานี เริ่มจากสถานีปล่อยไอเดียเน้นการคิดสร้างสรรค์ ตามด้วยสถานีเรื่องเล่า ที่เน้นการสื่อสารให้เฉียบคมยืนหนึ่งในทุกเวที ที่พิเศษคือให้ลองเลือกเรียนในรายวิชาที่ตัวเองสนใจด้วย และในทุกๆ ซัมเมอร์ตั้งแต่ปี1 เด็กของเราจะได้ไปเรียนรู้ ณ สถานประกอบการ ซึ่งเป็นการช่วยค้นหาตัวตนว่าสาขาอาชีพไหนเหมาะกับตัวเองที่สุด โดยเน้นเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ
จากนั้นพอขึ้นปี 2 จึงเรียนรู้ในสถานีการจัดการสมัยใหม่ ซึ่งเริ่มมีความท้าทายในความเป็นผู้นำ เน้นทักษะที่ตอบโจทย์ในศตวรรษที่ 21 พอถึงจุดนี้ก็ครึ่งทางแล้ว เด็กๆ ก็จะได้เลือกเรียนรู้งานในสถานประกอบการเดิม หรืออาจเป็นสถานประกอบการณ์ใหม่ตามที่เขาสนใจ เป็นการตอกย้ำความสามารถที่เพิ่มมากขึ้น
พอขึ้นปี 3 สถานีนี้จะเน้นให้เด็กๆ ได้เลือกเรียนเชิงลึกตามศาสตร์ที่สนใจจากทุกคณะทุกสาขาวิชา จนถึงสถานีสุดท้ายที่จะนำองค์ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ตลอดการเดินทางตลอด 9 สถานี มาประกอบร่างเป็นโครงงานนวัตกรรมสุดเจ๋ง เรียกว่าจบกันแบบหล่อๆ สวยๆ ทั้งยังมีสถานประกอบการมารอต้อนรับ หรือลุยทำธุรกิจของตัวเองได้เลย! ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเองก็มีทุนให้สร้างธุรกิจด้วย WOW ไหมล่ะครับ!
อาจารย์ดร.ย้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า การเรียนคณะนี้เตรียมพบกับโค้ชตัวจริง ที่พร้อมให้คำแนะนำดีๆกับทุกคน ที่นี่คณะเราดูแลทุกด้านเลยนะครับ เด็กคณะนี้อยู่กันเหมือนครอบครัว ไม่ว่ามีเรื่องอะไรเราก็จะคุยกันได้ ช่วยกันแก้ไขปัญหากันครับ เด็กๆ ก็จะสนิทกับโค้ชที่ปรึกษามาก ยิ่งในช่วงที่จะนำเสนอโครงงานนี่อยู่กันจนตึกปิดเลยครับ เรียกว่าดูแลกันอย่างดีเลยไม่ต้องห่วง และหากอยากประสบความสำเร็จต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนก่อน สิ่งสำคัญคือการตั้งเป้าหมายครับ เพราะความสำเร็จไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากเราไม่ได้กำหนดเป้าหมาย หากเรารู้ว่าปลายทางอยู่จุดไหน แล้วต้องเดินยังไงให้ไปถึงจุดนั้น แม้ระหว่างทางเราจะเจอหลายสิ่งไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว องค์กร เพื่อน ทีมงาน ซึ่งมีอุปสรรค ปัญหา รวมถึงโอกาสเข้ามามากมาย สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ส่งผลกับการไปถึงเป้าหมาย รวมถึงเป็นการเรียนรู้ หรือที่เรียกกันว่าประสบการณ์ครับ พอเราประสบความสำเร็จ หากมองย้อนดูผมว่าเราจะได้เห็นคุณค่าหลายๆ อย่างที่เพิ่มขึ้นมาครับ สำหรับสกิลเทพๆที่จะติดตัวเมื่อเราเรียนจบ เด็กของเราต้องคิดงานได้ สร้างสรรค์งานใหม่ๆ ได้ และสื่อสารอย่างมืออาชีพ ทั้งยังคล่องเรื่องเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรม เรียกว่าเป็นนักคิด นักแก้ปัญหา และเป็นผู้นำที่มีแนวคิดด้านนวัตกรรม
สุดท้าย อยากฝากไว้ว่า หากใครอยากแตกต่างก็ต้องเลือกเรียนในสิ่งที่แตกต่าง และต้องตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้เร็วที่สุดครับ ซึ่งคณะสหวิทยาการฯ คือทางหลักไม่ใช่ทางเลือก เพราะเราสอนแกนเหมือนกันทุกคนครับ แต่จะแตกต่างกันที่วิชาที่เด็กเลือกตามความถนัดของเขา และโครงงานซึ่งจะตอบโจทย์ความสามารถของแต่ละคน ที่นำไปใช้ได้จริงแถมเน้นให้สามารถสร้างรายได้ตั้งแต่เรียน ถ้าอ่านแล้วคิดว่าใช่ก็อย่ารอช้า สมัครเลย อาจารย์ยินดีต้อนรับทุกคนครับ.
https://www.spu.ac.th/fac/SITI/
