อุตสาหกรรมเรือสำราญกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากธุรกิจท่องเที่ยวเชิงหรูหราที่มุ่งสร้างประสบการณ์บนเรือระดับพรีเมียม วันนี้โลกกำลังเรียกร้องให้ทุกองค์กรเดินหน้าไปพร้อมกับความยั่งยืน เทคโนโลยีสะอาด และระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่รับผิดชอบต่อทะเลและชุมชนมากกว่าเดิม บริษัทเรือสำราญระดับโลกต่างประกาศเป้าหมาย Net-Zero Cruise ลงทุนเทคโนโลยี Green Marina และออกแบบเรือพลังงานต่ำรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อโลก นี่ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่คือทิศทางที่กำลังกำหนดอนาคตอุตสาหกรรมทั้งระบบ
เพื่อเตรียมคนรุ่นใหม่ให้พร้อมกับอนาคตดังกล่าว สาขาวิชาการจัดการบริการธุรกิจเรือสำราญ วิทยาลัยการบิน การท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) จึงพัฒนาการเรียนรู้รูปแบบใหม่ผ่านกิจกรรม World Class Exclusive Experience ที่ไม่เพียงสอน “การบริการ” แต่เปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนเข้าใจโครงสร้าง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และความยั่งยืนของอุตสาหกรรมเรือสำราญยุคใหม่แบบครบมิติ
การเรียนรู้ครั้งนี้ถูกออกแบบให้เป็น Living Lab ที่นักศึกษาได้เข้าไปอยู่ในระบบจริงของ Marine Hospitality ตั้งแต่การจัดการเรือยอร์ช การบริหารทรัพยากรน้ำและของเสีย (Water & Waste Management) ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีท่าเรือ ไปจนถึงแนวคิด Green Marina ที่กำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานสากลของ Cruise 4.0 เมื่อนักศึกษาลงพื้นที่สำรวจระบบท่าเรือโอเชี่ยนมารีน่า ล่องเรือยอร์ช และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการทำงานจริง พวกเขาไม่ได้เพียงมองเห็นภาพของงานบริการ แต่เริ่มเข้าใจ “ระบบเศรษฐกิจทะเลยุคยั่งยืน” อย่างลึกซึ้ง
ควบคู่กันนั้น ทักษะด้าน Luxury Hospitality ก็ได้รับการยกระดับผ่านการฝึก Fine Dining, Wine Service และ Cocktail Workshop ซึ่งทำให้นักศึกษามองเห็นสมดุลใหม่ของอุตสาหกรรมว่า ความประณีตไม่สามารถแยกออกจากความรับผิดชอบ และความหรูหราที่แท้จริงต้องตั้งอยู่บนรากฐานของความยั่งยืน ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างความประทับใจ แต่เพื่อคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ที่นี่ นักศึกษาได้เข้าใจว่า บริการที่ดีต้องตั้งอยู่บนความรับผิดชอบ ความหรูหราที่แท้จริงต้องยั่งยืน และความเชี่ยวชาญต้องเกิดจากการสัมผัสประสบการณ์จริง ไม่ใช่เพียงการจำลองในห้องเรียน
ทั้งหมดนี้ทำให้นักศึกษาไม่ได้เพียงสะสมทักษะ แต่กำลังสร้างวิธีคิดและกรอบการทำงานแบบใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมเรือสำราญยุคหลัง 2030 ซึ่งให้ความสำคัญทั้งด้านประสบการณ์ผู้โดยสาร มาตรฐานสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
กิจกรรม Exclusive Experience ครั้งนี้จึงสอดคล้องโดยตรงกับ SDGs หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น SDG 4 คุณภาพการศึกษา, SDG 8 งานที่มีคุณค่า, SDG 12 การบริโภคอย่างรับผิดชอบ และ SDG 14 การอนุรักษ์ทะเล สะท้อนบทบาทของ SPU ที่ไม่เพียงผลิตบัณฑิต แต่กำลังปั้น “บุคลากรรุ่นใหม่ที่เข้าใจทิศทางโลก” พร้อมทำงานในอุตสาหกรรมเรือสำราญระดับสากลอย่างมั่นใจ
นี่คือความตั้งใจของ SPU ที่ชัดเจนสร้าง Talent ที่มีทั้งหัวใจแห่งการบริการ มุมมองแบบยั่งยืน และความสามารถในการปรับตัวสู่ระบบเศรษฐกิจทะเลยุคใหม่ เพื่อให้พวกเขากลายเป็นกำลังสำคัญของอุตสาหกรรมบริการระดับโลกในศตวรรษที่ 21
#SPU #SPUCATH #สาขาการจัดการบริการธุรกิจเรือสำราญ #มหาวิทยาลัยศรีปทุม #LuxuryHospitality #CruiseBusinessManagement #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง











