มหาวิทยาลัยศรีปทุม ให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานการศึกษา จัดกิจกรรมโครงการอบรม เตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินงานประกันคุณภาพ : คลินิก SAR ประจำปีการศึกษา 2560
(วันที่ 3 ก.ค.61) ณ ห้องเธียรเตอร์รูม ชั้น 3 อาคาร 11 มหาวิทยาลัยศรีปทุม สำนักงานประกันคุณภาพ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จัดโครงการอบรม “เตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินงานประกันคุณภาพ : คลินิก SAR ประจำปีการศึกษา 2560” โดยมี รศ.กัลยาภรณ์ ปานมะเริง รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม ให้เกียรติเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ ให้กับคณะผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ ประจำคณะบริหารธุรกิจ,คณะบัญชี,วิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการและวิทยาลัยการบินและคมนาคม เพื่อเตรียมความพร้อมและดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาของคณะและหน่วยงานภายใน SPU ให้มีคุณภาพและมาตรฐานด้านการศึกษามากยิ่งขึ้น
รศ.กัลยาภรณ์ ปานมะเริง รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวต่อไปว่า มหาวิทยาลัยศรีปทุม ให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานการศึกษา ก็ด้วยเหตุผลและความจำเป็นของการประกันคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา เพราะภารกิจหลักที่สถาบันอุดมศึกษาจะต้องปฏิบัติมี 4 ประการ คือ การผลิตบัณฑิต การวิจัย การให้บริการทางวิชาการแก่สังคมและการทํานุบํารุงศิลปะและวัฒนธรรม การดําเนินการตามภารกิจทั้ง 4 ประการดังกล่าวมีความสําคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศทั้งระยะสั้นและระยะยาว ปัจจุบันมีปัจจัยภายในและภายนอกหลายประการที่ทําให้การประกันคุณภาพการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเป็นสิ่งจําเป็นที่จะต้องเร่งดําเนินการ
ปัจจัยดังกล่าว คือ คุณภาพของสถาบันอุดมศึกษาและบัณฑิตภายในประเทศที่มีแนวโน้มแตกต่างกันมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียแก่สังคมโดยรวมของประเทศในระยะยาว ,ความท้าทายของโลกาภิวัตน์ต่อการอุดมศึกษา ทั้งในประเด็นการบริการการศึกษาข้ามพรมแดนและการเคลื่อนย้ายนักศึกษาและบัณฑิต การประกอบอาชีพของบัณฑิตในอนาคต อันเป็นผลจากการรวมตัวของประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งทั้งสองประเด็นต้องการการรับประกันของคุณภาพการศึกษา
สถาบันอุดมศึกษามีความจําเป็นที่จะต้องสร้างความมั่นใจแก่สังคมว่าสามารถพัฒนาองค์ความรู้และผลิตบัณฑิต ตอบสนองต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล การพัฒนาภาคการผลิตจริงทั้งอุตสาหกรรมและบริการ การพัฒนาอาชีพ คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ระดับท้องถิ่นและชุมชน ,สถาบันอุดมศึกษาจะต้องให้ข้อมูลสาธารณะ (public information) ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนักศึกษาผู้จ้างงานผู้ปกครองรัฐบาลและประชาชนทั่วไป
สังคมต้องการระบบอุดมศึกษาที่เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วม(participation) มีความโปร่งใส (transparency) และมีความรับผิดชอบซึ่งตรวจสอบได้ (accountability) ตามหลักธรรมาภิบาลและพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 กําหนดให้สถานศึกษาทุกแห่งจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในรวมถึงให้มีสํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาทําหน้าที่ประเมินคุณภาพภายนอก โดยการประเมินผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
คณะกรรมการการอุดมศึกษาได้ประกาศใช้มาตรฐานการอุดมศึกษา เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2549เพื่อเป็นกลไกกํากับมาตรฐานระดับกระทรวง ระดับคณะกรรมการการอุดมศึกษา และระดับหน่วยงาน โดยทุกหน่วยงานระดับอุดมศึกษาจะได้ใช้เป็นกรอบการดําเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 และคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้ประกาศแนวทางการปฏิบัติตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2552 เพื่อให้การจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษาและเพื่อการประกันคุณภาพของบัณฑิตในแต่ละระดับคุณวุฒิและสาขาวิชา
กระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องมาตรฐานสถาบันอุดมศึกษา เมื่อวันที่24 เมษายน 2554 เพื่อเป็นกลไกส่งเสริมและกํากับให้สถาบันอุดมศึกษาจัดการศึกษาให้มีมาตรฐานตามประเภทหรือกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา 4 กลุ่ม รศ.กัลยาภรณ์ รองอธิการบดี SPU กล่าว