คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) เดินหน้าสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้จริงให้นักศึกษา ด้วยการเชิญ “ภูผา อมรกิจจา” ติวเตอร์–อินฟลูเอนเซอร์เพจ คนตื่นเรียน ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ขยับจากวิศวกรสู่เส้นทางธุรกิจ มาถ่ายทอดประสบการณ์ในหัวข้อ “ถอดสมการ Cambridge: Business + AI = ความกล้าคิดต่างของคนรุ่นใหม่” ด้วยสไตล์ตรงไปตรงมา เน้นการลงมือทำมากกว่าท่องจำ ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นแนวทางปฏิบัติได้จริงสำหรับนักศึกษาที่กำลังเริ่มต้นเส้นทางผู้ประกอบการ ณ บัวหลวงแกรนด์รูม อาคาร 1 เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568
ภูผา เล่าว่าเส้นทางของตัวเองเริ่มจาก “ไม่มีความรู้ธุรกิจเลย” ทุกอย่างเกิดจากการลองทำจริง และบทเรียนสำคัญที่สุดคือ ลูกค้าจะยอมจ่ายก็ต่อเมื่อคุณค่าที่ได้รับมากกว่าเงินที่เสียไป ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาหรูที่สะท้อนภาพลักษณ์หรือประสบการณ์ในชีวิตจริงที่ย้ำว่า “ชีวิตมีค่ามากกว่าเงิน” หลักคิดนี้จึงกลายเป็นรากฐานของโมเดลธุรกิจ—ผู้ประกอบการต้องส่งมอบคุณค่าที่มากพอให้ลูกค้าตัดสินใจ

ภูผาตั้งคำถามกับมายาคติของสตาร์ทอัพที่มักเริ่มจากออฟฟิศสวย ทีมใหญ่ หรือการพูดคำว่า AI เพื่อให้ดูทันสมัย ทั้งที่สิ่งเหล่านี้คือ “รายจ่าย” ไม่ใช่ “รายรับ” จุดเริ่มต้นที่แท้จริงคือการหาว่ารายได้จะมาจากไหนก่อน แล้วค่อยขยายทีหลัง เขาจึงเสนอสมการธุรกิจแบบเข้าใจง่ายว่า “ธุรกิจ = สินค้า/บริการ × ความสนใจ/การเข้าถึง” สินค้าที่ดีจะขายซ้ำได้ แต่ถ้าไม่มีใครรู้จักก็ไปไม่รอด ในทางกลับกัน ต่อให้ได้ความสนใจมหาศาล แต่สินค้าด้อยคุณภาพ ธุรกิจก็ไม่ยั่งยืน ดังนั้นเป้าหมายคือการเดินสองขาพร้อมกัน—ทำของให้ดี และทำให้คนรู้จักเรา

เมื่อมีคำถามว่า “ควรเริ่มจาก Product หรือ Attention ก่อน” เขาชี้ว่า Attention ที่สำคัญไม่ใช่แค่ความดังผิวเผิน แต่คือการเข้าถึงลูกค้าเพื่อเก็บ Insight ที่แท้จริง ถ้ายังไม่มีอะไรเลย เริ่มจากการพูดคุยกับลูกค้า เข้าใจปัญหา แล้วค่อยสร้าง Product ที่ตอบโจทย์ได้จริง เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะเริ่มจาก Attention หรือ Product จุดหมายต้องลงเอยที่การเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงในสนามนั้น
ในการสร้างการรับรู้ เขาแนะนำกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมา ทั้งการทักตรง การสร้างคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ การเข้าหาคนใหม่ด้วยความสุภาพ และการใช้โฆษณาออนไลน์อย่างมีเป้าหมาย สิ่งสำคัญคือการ “แตกต่างอย่างมีสาระ” เพื่อให้คนหยุดเพราะได้ประโยชน์ ไม่ใช่แค่เพราะไวรัลชั่ววูบ พร้อมกันนั้นการ “ให้ฟรี” อย่างมีทิศทาง เช่น ตัวอย่างงานหรือคอนเทนต์ความรู้ ก็สามารถปลดล็อกความสนใจและพาคนเข้าสู่การปิดการขายจริงได้
ภูผายังชี้ให้เห็นว่า คอนเทนต์สั้นอย่าง TikTok หรือ IG ช่วยให้คนเจอเราในวงกว้าง ขณะที่คอนเทนต์ยาวอย่าง YouTube หรือ Podcast สร้างความสัมพันธ์ลึกกว่า แต่ไม่ว่ารูปแบบไหน สิ่งที่เปลี่ยนผู้ชมให้เป็นแฟนไม่ใช่ยอดวิว แต่คือคุณค่าที่พวกเขาได้รับกลับไป หลักการเดียวกันนี้สะท้อนในทุกสิ่งที่ “ขายได้จริง”—นั่นคือความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ หรืออาหาร แก่นที่แท้จริงคือการรู้จริงและทำได้ดีกว่าคนอื่น

สำหรับ AI เขาย้ำชัดว่า อย่ามอง AI เป็นตัวสินค้าหลัก แต่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ “คูณผลลัพธ์” ให้สิ่งที่ทำอยู่ดีขึ้น เร็วขึ้น และคุ้มค่าขึ้น แก่นของธุรกิจไม่ใช่ AI แต่คือปัญหาที่แก้และผลลัพธ์ที่ส่งมอบให้ลูกค้า เช่นเดียวกับการลงทุนที่เขาเตือนว่าอย่าเพิ่งทุ่มเงินก้อนโต แต่ควรทดลองด้วยต้นทุนต่ำ พิสูจน์ความต้องการตลาดด้วยพรีเซลหรือการทดสอบเล็ก ๆ ก่อน แล้วค่อยขยายเมื่อรายได้ยืนยันว่าเวิร์กจริง
ช่วงถาม–ตอบ เขาเล่าถึงจุดเริ่มต้นการเป็นติวเตอร์ออนไลน์ในช่วงโควิด ที่เริ่มจากอุปกรณ์เท่าที่มี แต่ส่งมอบคุณค่าให้ผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง จนเกิดการบอกต่อและสร้างรายได้ สะท้อนหลักการเดิมที่ว่า “ให้คุณค่าก่อน รายได้ตามมา” และตอกย้ำว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากภาพลักษณ์ที่ดูดี แต่จากการลงมือทำ สกัด Insight จริง และสร้างคุณค่าจริงให้ลูกค้า
ทั้งหมดนี้เชื่อมตรงกับดีเอ็นเอของ SPU ที่เน้นการเรียนรู้จากของจริง ลงมือจริง และเตรียมพร้อมทักษะอนาคต เวทีนี้จึงไม่ใช่แค่การสร้างแรงบันดาลใจ แต่คือการส่งต่อ “เส้นทางไปต่อ” ที่นักศึกษาสามารถหยิบใช้ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการคุยกับลูกค้า การสร้าง MVP ต้นทุนต่ำ หรือการใช้ AI เป็นตัวคูณผลลัพธ์ เพื่อพิสูจน์ว่าความคิดต่างนั้นสามารถกลายเป็นธุรกิจที่ยืนได้จริงในโลกจริง



#คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ #มหาวิทยาลัยศรีปทุม #SPU #SPUSE #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง