กลยุทธ์การใช้ AI และ Chatbot เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานบริหารและการจัดการสมัยใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกธุรกิจในปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การนำ AI และ Chatbot เข้ามาประยุกต์ใช้ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จและความได้เปรียบในการแข่งขัน บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงกลยุทธ์ และความสำคัญของการเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ในหลักสูตรที่ทันสมัยอย่าง สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ของ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

1. AI และ Chatbot: อาวุธลับของนักบริหารยุคดิจิทัล

ในยุคที่ข้อมูลคือขุมทรัพย์มหาศาล ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และแชทบอท (Chatbot) ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับนักบริหารยุคใหม่ มันไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่ช่วยตอบคำถามลูกค้าแบบอัตโนมัติ แต่ยังเป็นสมองกลที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก คาดการณ์แนวโน้ม และลดภาระงานซ้ำซ้อน เพื่อให้ผู้บริหารมีเวลาโฟกัสกับการวางกลยุทธ์ที่สำคัญและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับองค์กร

• AI for Analysis: ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า พฤติกรรมการซื้อ และข้อมูลตลาด เพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น
• Chatbot for Service: ให้บริการลูกค้า ตอบคำถามพื้นฐาน และแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง สร้างความพึงพอใจและลดต้นทุนการดำเนินงาน
• Automation for Efficiency: จัดการงานเอกสาร การนัดหมาย หรือการรายงานผลแบบอัตโนมัติ ลดความผิดพลาดและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน

2. กลยุทธ์การประยุกต์ใช้ AI และ Chatbot ในงานบริหารจัดการ

การนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน ผู้บริหารที่เข้าใจหลักการทำงานและศักยภาพของ AI จะสามารถวางแผนและนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่บัณฑิตจาก สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ต้องมีติดตัว

การยกระดับประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience)

ใช้ Chatbot ในการต้อนรับลูกค้าบนเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย พร้อมให้ข้อมูลสินค้าและโปรโมชั่นเบื้องต้น จากนั้นส่งต่อข้อมูลให้ทีมขายเมื่อลูกค้ามีความสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ AI ยังสามารถวิเคราะห์ประวัติการซื้อเพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงใจ (Personalization) ได้อีกด้วย

การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายใน (Internal Operations)

พัฒนา Chatbot ภายในองค์กรเพื่อเป็นผู้ช่วยสำหรับพนักงาน เช่น ตอบคำถามด้าน HR, ช่วยจองห้องประชุม หรือเป็นศูนย์กลางความรู้ขององค์กร สิ่งนี้ช่วยลดภาระงานของแผนกสนับสนุนและทำให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ (Data-Driven Decisions)

ใช้เครื่องมือ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายจากทุกช่องทาง ประเมินความสำเร็จของแคมเปญการตลาด หรือแม้กระทั่งพยากรณ์ความต้องการสินค้าในอนาคต ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งล้ำค่าที่ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ไม่ใช่แค่ความรู้สึก

3. ทำไมต้องเรียนที่ สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม?

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเลือกสถาบันการศึกษาที่เข้าใจและก้าวทันเทรนด์โลกจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้ออกแบบหลักสูตร สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานโดยเฉพาะ

• หลักสูตรที่ทันสมัย: เน้นการเรียนรู้เครื่องมือดิจิทัล, การวิเคราะห์ข้อมูล, และการประยุกต์ใช้ AI และ Chatbot ในการบริหารจัดการจริง
• เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง: ได้เรียนรู้จากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรพิเศษจากวงการธุรกิจชั้นนำ ที่จะมาแบ่งปันกรณีศึกษาและเทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง
• สร้าง Connection: มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกงานและสร้างเครือข่ายกับบริษัทชั้นนำตั้งแต่ยังไม่จบการศึกษา
• พร้อมสำหรับอนาคต: บัณฑิตที่จบจากที่นี่ไม่ได้มีแค่ความรู้ทางทฤษฎี แต่มีทักษะปฏิบัติที่พร้อมทำงานได้ทันที เป็นที่ต้องการขององค์กรสมัยใหม่ที่กำลังมองหาผู้บริหารยุคดิจิทัล

4. เรียนรู้จากตัวจริง: สร้างนักบริหารยุคใหม่ที่ คณะบริหารธุรกิจ SPU

การศึกษาเรื่อง AI ไม่ใช่แค่การอ่านตำรา แต่คือการลงมือทำ ที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เรามุ่งเน้นการเรียนรู้ผ่านโปรเจกต์ (Project-based Learning) ให้นักศึกษาได้ลองสร้าง Chatbot ของตัวเอง, ทดลองใช้เครื่องมือ AI วิเคราะห์ข้อมูลตลาด, และวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจดิจิทัล เพื่อให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งและสามารถนำไปต่อยอดในอาชีพการงานได้จริง

ดังที่ Harvard Business Review ได้กล่าวไว้ว่า กลยุทธ์ AI ที่ประสบความสำเร็จนั้นเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจปัญหาทางธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่หลักสูตรของเราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การเรียนที่ สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ จึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคงในสายอาชีพผู้บริหาร