ก้าวสู่ DevOps Engineer: เส้นทางสายอาชีพใหม่ของนักศึกษาสาย IT ด้วยทักษะ Programming และ AI
โลกเทคโนโลยีกำลังหมุนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง! จากที่เคยมีแค่ตำแหน่ง Developer ที่สร้างสรรค์โปรแกรม วันนี้เรามีอีกหนึ่งบทบาทสุดฮอตที่เปรียบเสมือน “กัปตัน” ผู้คุมเกมเบื้องหลังให้ทุกอย่างราบรื่น นั่นก็คือ DevOps Engineer เส้นทางอาชีพที่ผสมผสานทักษะการเขียนโปรแกรมเข้ากับความเข้าใจระบบ และในยุคนี้ยังเสริมทัพด้วยพลังของ AI อีกด้วย บทความนี้จะพาน้องๆ มัธยมไปรู้จักกับอาชีพแห่งอนาคตนี้ และชี้เป้าว่าการเริ่มต้นที่ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จะเป็นบันไดก้าวแรกที่มั่นคงได้อย่างไร
สารบัญน่ารู้
1. Developer กับ DevOps ต่างกันยังไงนะ?
ลองนึกภาพการสร้างบ้านนะ…
- Developer (นักพัฒนา): คือ “สถาปนิกและทีมช่างก่อสร้าง” คนที่ออกแบบและลงมือก่อร่างสร้างแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ขึ้นมาด้วย ภาษา Programming ต่างๆ พวกเขาคือผู้สร้างสรรค์ฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้เราได้ใช้งานกัน
- Operations (ทีมปฏิบัติการ): คือ “ทีมดูแลอาคาร” ที่คอยดูแลให้บ้าน (แอปพลิเคชัน) ของเราแข็งแรง, ปลอดภัย, และพร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ดูแลเซิร์ฟเวอร์, จัดการเน็ตเวิร์ก
ในอดีต สองทีมนี้มักจะทำงานแยกกัน ทำให้เกิดปัญหาการสื่อสารและงานล่าช้า แต่แล้ว DevOps ก็ถือกำเนิดขึ้น!
DevOps Engineer คือ “ผู้ประสานงานอัจฉริยะ” ที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างทีม Developer และ Operations พวกเขาใช้ทักษะการเขียนโค้ดและเครื่องมืออัตโนมัติต่างๆ เพื่อทำให้กระบวนการตั้งแต่ “สร้าง” ไปจนถึง “ส่งมอบและดูแล” แอปพลิเคชันนั้นรวดเร็ว, ราบรื่น, และมีประสิทธิภาพสูงสุด
2. ทำไม DevOps ถึงเป็นสายงานที่มาแรงสุดๆ?
ในยุคที่ทุกธุรกิจต้องพึ่งพาเทคโนโลยี ใครที่ปล่อยแอปหรืออัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้เร็วกว่าย่อมได้เปรียบ DevOps คือหัวใจสำคัญที่ทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้
- ความต้องการสูง: ทุกบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก (Google, Netflix, Amazon) ล้วนใช้หลักการ DevOps ทำให้ตำแหน่งนี้เป็นที่ต้องการอย่างมาก
- รายได้ดี: ด้วยทักษะที่หลากหลายและเป็นที่ต้องการ ทำให้ DevOps Engineer เป็นหนึ่งในอาชีพสายไอทีที่ค่าตอบแทนสูง
- ได้เรียนรู้ตลอดเวลา: เป็นสายงานที่ต้องอัปเดตเทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น Cloud, Container, หรือพลังของ AI ที่เข้ามาช่วยงาน
- สร้าง Impact ได้จริง: ได้เห็นผลงานของเราถูกปล่อยออกไปให้ผู้คนใช้งานอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพ
3. เส้นทางสู่ DevOps Engineer: ต้องมีสกิลอะไรบ้าง?
การจะเป็น DevOps Engineer ไม่ได้ยากเกินฝัน แต่ต้องมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและใจที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
พื้นฐานแน่นปึ้กด้วย ภาษา Programming และความเข้าใจระบบ
หัวใจสำคัญคือความสามารถในการ “สั่งงานคอมพิวเตอร์” ให้ทำงานซ้ำๆ แทนเราได้ ภาษา Programming ที่นิยมในสายงาน DevOps ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนเท่าการสร้างแอป แต่เน้นไปที่การทำ Automation (ระบบอัตโนมัติ) เช่น:
- Python: ภาษายอดนิยมที่ใช้ง่ายและมี Library รองรับงานหลากหลาย
- Go (Golang): ภาษาที่ถูกพัฒนาโดย Google ทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูง
- Bash Scripting: ภาษาสั่งการพื้นฐานสำหรับควบคุมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Linux ที่ DevOps ทุกคนต้องรู้จัก
นอกจากนี้ยังต้องมีความเข้าใจเรื่องระบบปฏิบัติการ (OS), เครือข่าย (Networking), และ Cloud Computing เช่น AWS หรือ Google Cloud ซึ่งเป็นเหมือนสนามเด็กเล่นของ DevOps ในยุคปัจจุบัน
พลังของ AI ที่จะมาเสริมทัพ DevOps
ตอนนี้ AI ไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้ DevOps ทำงานได้ฉลาดขึ้นและเร็วขึ้นมาก!
- AI for Monitoring: ใช้ AI วิเคราะห์และทำนายปัญหาของระบบได้ล่วงหน้าก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง
- AI-Powered Automation: AI ช่วยเขียนสคริปต์อัตโนมัติที่ซับซ้อน หรือแนะนำโค้ดที่ดีที่สุดให้
- AI in Security (DevSecOps): ช่วยสแกนหาช่องโหว่ความปลอดภัยในโค้ดได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
คนที่เป็น DevOps และมีความรู้ด้าน AI จึงเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมหาศาล!
4. เริ่มต้นที่ไหน? ก้าวแรกที่ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
การมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัยคือใบเบิกทางที่สำคัญที่สุด การเลือกเรียนในสถาบันที่เข้าใจเทรนด์ของโลกและพร้อมปรับหลักสูตรให้ทันสมัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ที่ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ (School of Information Technology) มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ไม่ได้สอนแค่ทฤษฎี แต่เน้นการลงมือทำจริง น้องๆ จะได้ปูพื้นฐาน ภาษา Programming ที่แข็งแกร่ง, เรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์, Cloud และที่สำคัญคือหลักสูตรที่ทันสมัยพร้อมรองรับเทรนด์เทคโนโลยีใหม่อย่าง DevOps และ AI
- เรียนกับตัวจริงในวงการผ่านโครงการสหกิจศึกษา
- มี Workshop และเครื่องมือที่ทันสมัยให้นักศึกษาได้ทดลองใช้
- สร้าง Connection กับเพื่อนๆ และรุ่นพี่ในวงการไอที
- ปูเส้นทางสู่การเป็น Developer, Data Scientist หรือ DevOps Engineer มืออาชีพ
การเลือกเรียนที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงเป็นเหมือนการติดจรวดให้ความฝันของน้องๆ พุ่งทะยานไปในโลกไอทีได้อย่างมั่นใจ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรได้ที่นี่: หลักสูตรคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ SPU.
5. Q&A ไขข้อข้องใจเส้นทาง DevOps
Q1: หนูไม่เก่งเลข ไม่ใช่เซียนโค้ด จะเป็น DevOps Engineer ได้ไหม?
A: ได้แน่นอน! หัวใจของ DevOps ไม่ใช่การเขียนอัลกอริทึมที่ซับซ้อน แต่เป็นการคิดอย่างเป็นระบบ, การแก้ปัญหา, และการเรียนรู้ที่จะใช้เครื่องมืออัตโนมัติต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ ทักษะ ภาษา Programming ที่ต้องใช้ก็เน้นไปที่การเขียนสคริปต์เพื่อทำงานซ้ำๆ มากกว่าการสร้างแอปพลิเคชันทั้งตัว ขอแค่มีใจรักและพร้อมเรียนรู้ก็ไปต่อได้สบายมาก
Q2: ระหว่าง DevOps กับ Software Developer ตำแหน่งไหนดีกว่ากัน?
A: ไม่มีตำแหน่งไหนดีกว่ากัน แต่มี “ความถนัด” ที่ต่างกัน ถ้าชอบการสร้างสรรค์, การออกแบบฟีเจอร์ใหม่ๆ, และการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยตรง ตำแหน่ง Developer อาจจะเหมาะกับคุณ แต่ถ้าคุณสนุกกับการมองภาพรวม, การทำให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น, การสร้างระบบอัตโนมัติ และการแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เส้นทาง DevOps ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและท้าทายสุดๆ
Q3: AI จะมาแย่งงาน DevOps ในอนาคตหรือเปล่า?
A: ตรงกันข้ามเลย! AI จะเข้ามาเป็น “ผู้ช่วย” ที่ทรงพลังที่สุดของ DevOps มากกว่า AI จะช่วยทำงานซ้ำซากที่น่าเบื่อ, ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลเพื่อหาจุดบกพร่อง และทำให้ DevOps Engineer มีเวลาไปโฟกัสกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการวางแผนเชิงกลยุทธ์มากขึ้น คนที่ใช้ AI เป็น ก็จะยิ่งเป็นที่ต้องการตัวในตลาดงานแห่งอนาคต
บทสรุป: อนาคตอยู่ในมือคุณ
เส้นทางสู่การเป็น DevOps Engineer คือหนึ่งในโอกาสที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับคนรุ่นใหม่สายไอที เป็นการผสมผสานทักษะด้าน ภาษา Programming, ความเข้าใจในระบบ, และการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI มาใช้ในการทำงานจริง หากน้องๆ คือคนหนึ่งที่มีความฝันอยากจะสร้างและควบคุมโลกดิจิทัล การเริ่มต้นปูพื้นฐานให้แน่นที่ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม คือก้าวที่สำคัญที่จะนำพาน้องๆ ไปสู่อาชีพแห่งอนาคตได้อย่างแน่นอน!
