พี่มาแชร์! อยากโตในสาย “อาชีพบัญชี” ต้องพัฒนาตนเองยังไงให้ปังตั้งแต่ในรั้วโรงเรียน
ฮัลโหลน้องๆ ชาวมัธยมทุกคน! พี่เองนะ เป็นรุ่นพี่ที่กำลังเรียนอยู่ในคณะบัญชีนี่แหละ เข้าใจเลยว่าช่วงวัย 14-18 เนี่ย มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสุดๆ กำลังค้นหาตัวเอง กำลังคิดว่าเอ๊ะ… โตขึ้นเราอยากทำอะไรดีนะ? แล้วพี่ก็เชื่อว่าหนึ่งในอาชีพที่น้องๆ ต้องเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างก็คือ “นักบัญชี”
พอพูดถึง “นักบัญชี” ภาพในหัวของหลายคนอาจจะเป็นคนใส่แว่นหนาเตอะ นั่งจมอยู่กับกองเอกสารและตัวเลขยั้วเยี้ย น่าเบื่อสุดๆ ใช่ปะ? พี่บอกเลยว่า… ลบภาพนั้นทิ้งไปได้เลย! โลกของ อาชีพบัญชี ในยุคดิจิทัล 2024 มันไปไกลกว่านั้นเยอะมาก มันท้าทาย สนุก และเป็นสกิลที่โคตรสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเลยนะจะบอกให้!
วันนี้ในฐานะรุ่นพี่ เลยอยากจะมาแชร์แบบจัดเต็ม ไม่มีกั๊ก ว่าถ้าน้องๆ สนใจ หรือมองเห็นอนาคตตัวเองในสายงานนี้ เราจะพัฒนาตนเองอย่างไรให้พร้อมสำหรับการเติบโตในสายอาชีพบัญชีได้บ้าง เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ยังไงให้โปรไฟล์เราน่าสนใจกว่าใครๆ พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
Step 0: ปรับ Mindset ก่อน! ทำไม “บัญชี” ถึงไม่ใช่เรื่องของตัวเลขที่น่าเบื่อ?
ก่อนจะไปถึงเรื่องสกิลต่างๆ พี่อยากให้น้องๆ เข้าใจแก่นของมันก่อน การบัญชีไม่ใช่แค่การบวก ลบ คูณ หาร ตัวเลข แต่มันคือ “ภาษาของธุรกิจ (The Language of Business)” ต่างหาก!
คิดภาพตามนะ ทุกๆ การกระทำของบริษัท ไม่ว่าจะซื้อของ ขายของ จ้างคน จ่ายเงินเดือน ลงทุน ฯลฯ มันจะถูกบันทึกและแปลออกมาเป็น “ตัวเลข” ในรูปแบบของงบการเงิน ซึ่งนักบัญชีนี่แหละคือคนที่อ่านภาษานี้ออก! เราสามารถบอกได้ว่าบริษัทนี้สุขภาพการเงินดีมั้ย? กำลังโตหรือกำลังถอยหลัง? ควรลงทุนเพิ่มตรงไหน? หรือตรงไหนมีปัญหาที่ต้องรีบแก้?
เห็นมั้ย? มันคือการเป็น “นักสืบ” และ “ที่ปรึกษา” ทางการเงินขององค์กรเลยนะ ไม่ใช่แค่คนคีย์ข้อมูลเฉยๆ เมื่อไหร่ที่น้องๆ มองเห็นภาพนี้ การเรียนบัญชี จะสนุกและมีความหมายขึ้นอีกเยอะเลย
Step 1: ปูพื้นฐานให้แน่น! ทักษะที่ต้องมี (Hard Skills)
โอเค มาเข้าเรื่องจริงจังกันบ้าง Hard Skills คือทักษะเชิงเทคนิคที่จับต้องได้ สอนกันได้ วัดผลได้ ซึ่งสำหรับสายบัญชีแล้ว สิ่งที่น้องๆ ควรเริ่มโฟกัสตั้งแต่ตอนนี้เลยก็คือ…
1. วิชาการในห้องเรียน (อย่าเพิ่งเบ้ปาก!)
- คณิตศาสตร์: ไม่ต้องถึงขั้นเป็นเทพแคลคูลัสขนาดนั้น แต่พื้นฐานเลขแน่นๆ บวก ลบ คูณ หาร เปอร์เซ็นต์ สถิติเบื้องต้น คือสิ่งจำเป็นมาก มันช่วยฝึกกระบวนการคิดที่เป็นเหตุเป็นผล (Logical Thinking) ซึ่งเป็นหัวใจของนักบัญชีเลย
- ภาษาอังกฤษ: สำคัญมากกก! (ก.ไก่ล้านตัว) เพราะโลกธุรกิจมันเชื่อมกันหมดแล้ว ตำราดีๆ โปรแกรมบัญชี หรือการดีลงานกับบริษัทต่างชาติ ล้วนเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น ใครภาษาดีคือมีชัยไปกว่าครึ่งเลยนะ
- สังคมศึกษา (หมวดเศรษฐศาสตร์): การเข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น อุปสงค์ อุปทาน เงินเฟ้อ จะทำให้น้องๆ มองภาพรวมของธุรกิจและผลกระทบต่อตัวเลขในบัญชีได้กว้างขึ้น
2. สกิลด้านเทคโนโลยี (พระเอกของยุคนี้)
AI อาจจะมาแย่งงานบางอย่างไป แต่ AI ก็เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดของนักบัญชียุคใหม่ได้เหมือนกัน!
- Microsoft Excel: บอกเลยว่านี่คือเพื่อนซี้ของนักบัญชีทุกคน น้องๆ ไม่จำเป็นต้องรอเข้ามหาวิทยาลัย ลองเปิด YouTube แล้วเรียนรู้การใช้สูตรพื้นฐานอย่าง SUM, IF, VLOOKUP หรือการทำ PivotTable ง่ายๆ แค่นี้ก็ทำให้เราดูโปรขึ้นเยอะแล้ว
- โปรแกรมบัญชีออนไลน์: ในไทยตอนนี้มีโปรแกรมบัญชีสำหรับธุรกิจเล็กๆ ที่ใช้ง่ายเยอะมาก เช่น FlowAccount, PEAK Account ลองเข้าไปดูหน้าตาเว็บหรือศึกษาดูว่ามันทำงานยังไง จะช่วยให้เห็นภาพการทำงานจริงมากขึ้น
- Data Analytics & BI Tools: อันนี้อาจจะแอดวานซ์ขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าใครสนใจไปให้สุดทาง ลองศึกษาเกี่ยวกับเครื่องมืออย่าง Power BI หรือ Tableau ดู มันคือเครื่องมือที่เอาข้อมูลตัวเลขมหาศาลมาแสดงเป็นภาพ (Data Visualization) ที่เข้าใจง่าย ช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีมาก ใครทำเป็นคือเทพ!
Step 2: ขัดเกลาตัวเอง! ทักษะที่ต้องสร้าง (Soft Skills)
ถ้า Hard Skills คือ “สิ่งที่เรารู้” Soft Skills ก็คือ “วิธีที่เราทำงานร่วมกับคนอื่น” ซึ่งในสาย อาชีพบัญชี บอกเลยว่าสำคัญไม่แพ้กันเลย เพราะเราไม่ได้คุยแค่กับตัวเลข แต่เราต้องคุยกับคน!
1. การสื่อสาร (Communication)
ไม่ใช่แค่การพูดเก่ง แต่คือการสามารถอธิบายเรื่องการเงินที่ซับซ้อนให้คนที่ไม่มีพื้นฐานบัญชี (เช่น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบุคคล หรือเจ้าของบริษัท) เข้าใจได้ง่ายๆ ลองฝึกอธิบายเรื่องยากๆ ให้เพื่อนหรือพ่อแม่ฟังดูสิ!
2. การคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking)
นักบัญชีที่ดีจะไม่ใช่แค่บันทึกตัวเลขตามบิล แต่จะตั้งคำถามเสมอว่า “เอ๊ะ… ทำไมเดือนนี้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้สูงผิดปกติ?” “ตัวเลขนี้มันสมเหตุสมผลรึเปล่า?” การคิดวิเคราะห์แบบนี้จะช่วยจับความผิดพลาดและหาโอกาสในการปรับปรุงให้องค์กรได้
3. ความละเอียดรอบคอบ (Attention to Detail)
อันนี้คือสกิลคลาสสิกของนักบัญชีเลย แค่ใส่ตัวเลขผิดไปหนึ่งตัว หรือใส่จุดทศนิยมผิดตำแหน่ง ความหมายอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้ การฝึกเป็นคนช่างสังเกตและตรวจสอบงานของตัวเองซ้ำๆ เป็นนิสัยที่ดีมาก
4. ความซื่อสัตย์และจรรยาบรรณ (Integrity & Ethics)
หัวใจที่สำคัญที่สุด! นักบัญชีคือผู้กุมความลับทางการเงินของบริษัท ความน่าเชื่อถือคือสิ่งที่มีค่าที่สุด เราต้องซื่อสัตย์ต่อข้อมูลและหลักการ แม้จะมีแรงกดดันแค่ไหนก็ตาม
5. การปรับตัวและเรียนรู้ตลอดชีวิต (Adaptability & Lifelong Learning)
กฎหมายภาษีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทคโนโลยีใหม่ๆ ก็เข้ามาเรื่อยๆ เราไม่สามารถใช้ความรู้ที่เรียนจบมาไปได้ตลอดชีวิต ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ การติดตามข่าวสารในแวดวงธุรกิจและการเงินจะช่วยได้มาก
Step 3: สร้างโปรไฟล์ให้โดดเด่น! เริ่มได้เลย ไม่ต้องรอเข้ามหา’ลัย
น้องๆ อาจจะคิดว่า “แล้วเราเป็นแค่นักเรียน ม.ปลาย จะไปหาประสบการณ์จากไหน?” พี่บอกเลยว่ามีวิธี!
- เข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียน: ลองสมัครเป็นเหรัญญิกของห้อง ของสภานักเรียน หรือของชมรมต่างๆ การได้บริหารเงินจริงๆ แม้จะเป็นจำนวนไม่มาก จะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและเขียนลงในพอร์ตฟอลิโอได้ด้วย
- เข้าค่ายหรือ Open House: คณะบัญชีของมหาวิทยาลัยดังๆ ในไทย เช่น จุฬาฯ, ธรรมศาสตร์ มักจะจัดค่ายหรือเปิดบ้านให้น้องๆ ม.ปลาย ได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้จากรุ่นพี่ตัวจริง เป็นโอกาสที่ดีมากในการหาข้อมูลและสร้างแรงบันดาลใจ
- ลองทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง: ขายของออนไลน์ รับวาดรูป หรือทำอะไรก็ได้ที่สร้างรายได้ แล้วลองทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของตัวเองอย่างง่ายๆ ใน Excel นี่คือการเรียนรู้จากการลงมือทำที่ดีที่สุด!
- เรียนคอร์สออนไลน์: ปัจจุบันมีคอร์สออนไลน์ฟรีและราคาไม่แพงเยอะมาก ทั้งของไทยและต่างประเทศ ลองหาคอร์สเกี่ยวกับ Basic Accounting, Excel for Beginners หรือ Data Analytics เบื้องต้น เพื่อเสริมความรู้และเอา Certificate ไปใส่พอร์ตได้
Q&A พี่ตอบให้! ไขข้อข้องใจยอดฮิตเกี่ยวกับ “อาชีพบัญชี”
Q1: ไม่เก่งเลขแบบสุดๆ จะเรียนบัญชีได้มั้ยคะ/ครับ?
A: ได้แน่นอน! อย่างที่พี่บอกไป บัญชีใช้ “ตรรกะ” ของคณิตศาสตร์มากกว่าการคำนวณที่ซับซ้อน เราไม่ได้ต้องมานั่งแก้สมการดิฟเฟอเรนเชียลนะ (ฮ่าๆ) ขอแค่มีพื้นฐานบวก-ลบ-คูณ-หารแน่นๆ เข้าใจคอนเซปต์ของตัวเลข และที่สำคัญคือต้องมีความละเอียดรอบคอบ ถ้ามีตรงนี้ก็ไปต่อได้สบายมากครับ
Q2: เรียนบัญชีจบไปทำอะไรได้บ้างนอกจากเป็นนักบัญชีในบริษัท?
A: โห เยอะมาก! ความรู้บัญชีมันเอาไปต่อยอดได้หลากหลายสุดๆ เลยน้องๆ
– ผู้สอบบัญชี (Auditor): ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของงบการเงินบริษัทอื่น เป็นอาชีพที่ท้าทายและรายได้ดีมาก
– ที่ปรึกษาทางภาษี (Tax Consultant): เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายภาษี ช่วยวางแผนภาษีให้บุคคลและองค์กร
– นักวิเคราะห์การเงิน/นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (Financial/Securities Analyst): ใช้ข้อมูลงบการเงินมาวิเคราะห์เพื่อแนะนำการลงทุน
– ผู้ประกอบการ/เจ้าของธุรกิจ: การรู้บัญชีคือแต้มต่อที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจเองเลยนะ!
– ทำงานในหน่วยงานราชการ: เช่น กรมสรรพากร, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Q3: อนาคตนักบัญชีจะโดน AI แย่งงานมั้ย? กำลังกังวลเลย
A: เป็นคำถามที่ดีมาก! ตอบแบบจริงจังเลยคือ AI จะเข้ามา “เปลี่ยน” รูปแบบการทำงาน แต่ไม่ได้มา “แทนที่” ทั้งหมด งานส่วนที่เป็นการบันทึกข้อมูลซ้ำๆ (Data Entry) อาจจะถูกแทนที่ด้วย AI จริง แต่งานที่ต้องใช้การวิเคราะห์ การตีความ การตัดสินใจ และการสื่อสารกับผู้บริหาร ซึ่งเป็น “คุณค่า” ที่แท้จริงของนักบัญชี ยังไงก็ยังต้องใช้คนอยู่ดี หน้าที่ของเราคือต้องพัฒนาตัวเองให้ทำงานร่วมกับ AI ได้ และขยับไปทำงานในส่วนที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูงมากขึ้นนั่นเอง
Q4: ต้องเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ตอน ม.ปลาย เลยเหรอ? เหมือนจะเร็วไป
A: ไม่เร็วไปเลย! การเตรียมตัวเร็วไม่ได้แปลว่าเราต้องเครียดนะ แต่มันคือการ “สำรวจ” ตัวเองและ “สะสม” ประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ไปเรื่อยๆ การที่น้องๆ เริ่มสนใจและหาข้อมูลตั้งแต่ตอนนี้ มันทำให้เรามีเวลาค้นพบว่าเราชอบสายนี้จริงๆ รึเปล่า และถ้าใช่ เราก็จะมีโปรไฟล์ที่น่าสนใจตอนยื่นเข้ามหาวิทยาลัย การเริ่มต้นเร็วกว่าคนอื่นหนึ่งก้าว มักจะทำให้เราไปได้ไกลกว่าเสมอครับ
บทสรุปส่งท้ายจากใจรุ่นพี่
เส้นทางสู่ อาชีพบัญชี ที่ประสบความสำเร็จ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการเรียนเก่งในห้องอย่างเดียว แต่มันคือการผสมผสานกันระหว่างความรู้ที่ถูกต้อง (Hard Skills) ทักษะการเข้าสังคมและการทำงาน (Soft Skills) และทัศนคติที่พร้อมจะเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ
อย่ามองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว น้องๆ สามารถเริ่มสร้างและพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้ตั้งแต่วันนี้เลยทีละเล็กทีละน้อย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจเรียนในห้อง การฝึกใช้ Excel การเข้าร่วมกิจกรรม หรือแม้แต่การลองทำบัญชีค่าขนมของตัวเอง ทุกอย่างคือประสบการณ์ที่มีค่าทั้งหมด
พี่หวังว่าบทความนี้จะเป็นเหมือนเข็มทิศเล็กๆ ที่ช่วยให้น้องๆ ที่สนใจสายงานบัญชีมองเห็นภาพอนาคตและแนวทางการเตรียมตัวที่ชัดเจนขึ้นนะ โลกของตัวเลขที่ไม่ได้มีแค่ตัวเลขกำลังรอน้องๆ อยู่ ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม คอมเมนต์ไว้ได้เลยนะ พี่ๆ พร้อมจะช่วยตอบเสมอ!
















