ฮัลโหล! น้องๆ ชาว คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ทุกคน! ใครที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วรู้สึกว่า “คันจิ” คือบอสใหญ่ที่ต้องฝ่าไปให้ได้บ้าง? ยกมือขึ้น! 🙋♀️ วันนี้พี่ๆ จะมาแชร์เทคนิคสุดคูลที่จะเปลี่ยนเรื่องปวดหัวให้กลายเป็นเรื่องสนุก ชวนให้เราอยากรู้จักคันจิมากขึ้น รับรองว่าอ่านจบแล้วจะอยากหยิบหนังสือขึ้นมาลุยต่อแน่นอน!
รู้จักคันจิ: ไม่ใช่แค่ตัวอักษร แต่คือภาพศิลปะ 🎨
ก่อนอื่นเรามาปรับ Mindset กันก่อน! คันจิไม่ได้เกิดมาเพื่อทรมานเรานะ (ฮ่าๆ) แต่มันมีที่มาจาก ‘ภาพวาด’ ในสมัยโบราณ ลองมองดูดีๆ สิ อย่างคำว่า 木 (ki) ที่แปลว่า ‘ต้นไม้’ ก็ดูเหมือนต้นไม้จริงๆ ใช่ไหมล่ะ? พอเรามองว่ามันคือศิลปะแขนงหนึ่ง การเรียนรู้ก็จะสนุกขึ้นเยอะเลย!
เทคนิคที่ 1: “นักเล่าเรื่อง” สร้างสตอรี่ให้คันจิ 📖
สมองของเราจดจำเรื่องราวได้ดีกว่าตัวอักษรแห้งๆ งั้นเรามาเปลี่ยนคันจิให้เป็นนิทานกัน!
- ตัวอย่าง:
- 木 (ki) คือ ต้นไม้ 1 ต้น
- 林 (hayashi) คือ ต้นไม้ 2 ต้นมารวมกัน กลายเป็น ‘ป่าละเมาะ’
- 森 (mori) คือ ต้นไม้ 3 ต้นมารวมกัน! โอ้โห ‘ป่าใหญ่’ เลยทีนี้!
เห็นไหม? แค่สร้างเรื่องราวสั้นๆ ก็จำได้ทั้งความหมายและภาพลักษณ์ของคันจิไปพร้อมกันเลย!
เทคนิคที่ 2: “นักสืบจิ๋ว” แยกส่วนประกอบ (Radicals) 🔍
เทคนิคสุดปังสำหรับเด็กคณะศิลปศาสตร์
คันจิส่วนใหญ่เกิดจากการรวมร่างของชิ้นส่วนเล็กๆ ที่เรียกว่า “บุชุ” (Radical) ซึ่งแต่ละชิ้นก็มีความหมายในตัวเองเหมือนกัน เหมือนเราเล่นเลโก้เลย!
- ตัวอย่าง: คำว่า 休 (yasumu) ที่แปลว่า ‘พักผ่อน’
- เกิดจาก 人 (hito) ที่แปลว่า ‘คน’
- รวมกับ 木 (ki) ที่แปลว่า ‘ต้นไม้’
- เรื่องราวคือ: “คน (+人) ไปพิงพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ (木)” ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!
เทคนิคนี้ช่วยให้เราเดาความหมายของคันจิที่ไม่เคยเห็นได้ด้วยนะ! ถ้าอยากรู้ว่าบุชุตัวไหนมีความหมายอะไร ลองเข้าไปดูได้ที่ Jisho.org แหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยมเลยล่ะ
จำแล้วต้องใช้! ประยุกต์คันจิในชีวิตจริงสไตล์เด็ก SPU 🚀
การเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการนำไปใช้จริง ที่ SPU เราสนับสนุนให้น้องๆ ได้ใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน ลองเอาคันจิที่เรียนมาไป…
- หาในมังงะหรืออนิเมะ: ลองดูสิว่าเจอคำที่เพิ่งเรียนไปบ้างไหม บริบทจะช่วยให้จำแม่นขึ้น!
- ใช้แอปพลิเคชันเกม: เปลี่ยนการท่องจำเป็นการเล่นเกมสนุกๆ มีแอปฯ ดีๆ เพียบเลย
- ตั้งเป้าหมายเล็กๆ: เช่น “วันนี้จะจำคันจิเกี่ยวกับสัตว์ให้ได้ 5 ตัว” พอทำสำเร็จแล้วภูมิใจสุดๆ
- คุยกับเพื่อนและอาจารย์: สภาพแวดล้อมที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นกันเองมากๆ สงสัยอะไรถามได้เลย!
Q&A ถามมา-ตอบไป เคลียร์ทุกข้อสงสัยเรื่องคันจิ 🙋♂️
Q1: จำเป็นต้องเรียนคันจิทุกตัวที่มีในโลกไหมคะ?
A: ไม่จำเป็นเลยจ้า! แค่จำคันจิที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน (常用漢字 – โจโยคันจิ) ประมาณ 2,000 กว่าตัวก็เพียงพอสำหรับการอ่านหนังสือพิมพ์หรือนิยายส่วนใหญ่แล้ว ค่อยๆ เรียนรู้ไปทีละนิด ไม่ต้องกดดันตัวเองนะ
Q2: มีแอปพลิเคชันแนะนำสำหรับฝึกคันจิไหมครับ?
A: มีเพียบเลย! แอปฯ ยอดนิยมก็เช่น Anki (สำหรับการทำ Flashcard), Kanji Study, หรือเกมอย่าง Kanji Drop ก็ช่วยให้การเรียนสนุกขึ้นเยอะ ลองโหลดมาเล่นดูได้เลย!
Q3: หลักสูตรของคณะศิลปศาสตร์ SPU ช่วยเรื่องการเรียนคันจิยังไงบ้างคะ?
A: หลักสูตรของเราถูกออกแบบมาอย่างเป็นระบบเลยค่ะ ที่ คณะศิลปศาสตร์ SPU เราจะเริ่มสอนจากคันจิพื้นฐานที่จำเป็นและค่อยๆ เพิ่มระดับความยาก พร้อมทั้งสอดแทรกกิจกรรมและแบบฝึกหัดที่สนุกสนาน ทำให้น้องๆ ไม่รู้สึกเบื่อและสามารถนำไปใช้ได้จริงอย่างมั่นใจค่ะ
การเรียนคันจิก็เหมือนการผจญภัย อาจจะมีอุปสรรคบ้าง แต่ถ้าเรามีเทคนิคและทัศนคติที่ดี มันจะกลายเป็นเรื่องที่สนุกและท้าทายสุดๆ พี่ๆ ที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนนะคะ สู้ๆ! ✨
















