ฮัลโหลลล~ น้อง ๆ และเพื่อน ๆ ชาว คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่น่ารักทุกคน! ใครกำลังแพลนจะเรียนภาษาญี่ปุ่น หรือเพิ่งเริ่มเรียนแล้วกำลังงง ๆ กับไวยากรณ์ วันนี้พี่ ๆ มีไกด์สุดปังมาฝาก นั่นก็คือเรื่องของ 助詞 (Joshi) หรือ “คำช่วย” หัวใจสำคัญของภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย!
🚀 助詞 (Joshi) คืออะไร? ทำไมต้องรู้จัก?
น้อง ๆ ลองนึกภาพตามนะคะ 助詞 (โจะชิ) ก็เหมือน “กาว” ที่เชื่อมคำต่าง ๆ ในประโยคภาษาญี่ปุ่นเข้าด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคำนาม คำกริยา มันจะทำหน้าที่บอกว่าคำที่อยู่ข้างหน้ามันน่ะ ทำหน้าที่อะไรในประโยค เป็นประธาน เป็นกรรม หรือเป็นสถานที่ บอกเลยว่าถ้าเข้าใจเรื่องนี้ การแต่งประโยคภาษาญี่ปุ่นจะกลายเป็นเรื่องกล้วย ๆ ไปเลย!
✨ ปาร์ตี้คำช่วยสุดปัง! ที่ชาว SPU ต้องรู้
มาทำความรู้จักกับเหล่าคำช่วยหน้าตาคุ้นเคยที่เจอบ่อยที่สุดกันดีกว่า!
1. は (wa) – พระเอก/นางเอกของเรื่อง
ทำหน้าที่ชี้หัวข้อของประโยค ว่าเรากำลังจะพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ อ่านว่า “วะ” นะ ไม่ใช่ “ฮะ”
ตัวอย่าง: わたしはがくせいです。(Watashi wa gakusei desu.)
คำแปล: ฉันคือนักศึกษา (หัวข้อที่กำลังพูดถึงคือ “ฉัน”)
2. が (ga) – ผู้ชี้เป้าตัวจริง
ใช้เน้นย้ำประธานของประโยค หรือใช้กับประโยคที่ปรากฏขึ้นมาครั้งแรก
ตัวอย่าง: ねこがいます。(Neko ga imasu.)
คำแปล: มีแมวอยู่ (เน้นว่าสิ่งที่มีอยู่คือ “แมว”)
3. を (o) – กรรมของฉัน
วางไว้หลังคำนามเพื่อบอกว่าคำนามนั้นเป็น “กรรม” ของประโยค (ถูกกระทำ) อ่านว่า “โอะ” นะคะ
ตัวอย่าง: ごはんをたべます。(Gohan o tabemasu.)
คำแปล: กินข้าว (“ข้าว” คือสิ่งที่ถูกกิน)
4. に (ni) – บอกเวลาและสถานที่
ใช้ชี้เป้าหมาย บอกตำแหน่ง หรือบอกเวลาที่เจาะจง
ตัวอย่าง: 7じにおきます。(Shichi-ji ni okimasu.)
คำแปล: ตื่นนอนตอน 7 โมง (บอกเวลาที่ชัดเจน)
5. で (de) – ทำที่ไหน? ใช้อะไร?
ใช้บอกสถานที่ที่เกิดการกระทำ หรือบอกวิธีการ/อุปกรณ์
ตัวอย่าง: がっこうでべんきょうします。(Gakkou de benkyoushimasu.)
คำแปล: เรียนหนังสือที่โรงเรียน (บอกสถานที่ที่ “เรียน”)
6. の (no) – แสดงความเป็นเจ้าของ
ใช้เชื่อมคำนาม 2 คำเข้าด้วยกัน เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ หรือขยายความ
ตัวอย่าง: わたしのほんです。(Watashi no hon desu.)
คำแปล: หนังสือของฉัน
🎓 สรุปและก้าวต่อไปที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
เป็นยังไงกันบ้างคะ? ไม่ยากเลยใช่ไหม! นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของคำช่วยในภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เป็นกลุ่มที่เจอบ่อยที่สุด การทำความเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้ให้แน่น จะเป็นบันไดขั้นสำคัญที่ทำให้น้อง ๆ เรียนภาษาญี่ปุ่นได้อย่างสนุกและมั่นใจมากขึ้น ที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เรามีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและหลักสูตรที่เข้มข้นรอให้น้อง ๆ มาค้นพบความสนุกของภาษาญี่ปุ่นอีกเพียบเลยค่ะ!
สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา สามารถ คลิกดูรายละเอียดหลักสูตรของคณะศิลปศาสตร์ SPU เพิ่มเติมได้เลย!
















