คอนนิจิวะ! 👋 น้องๆ ชาว คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนไปส่องเทรนด์ผู้บริโภคสุดปังจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่บอกเลยว่ารู้ก่อน มีโอกาสก่อน! แถมยังเป็นเวทีโชว์สกิลเทพๆ ของพวกเราชาวศิลปศาสตร์ได้อีกด้วยนะ พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
ประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวไทย แต่ยังเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ธุรกิจไทยอยากเข้าไปเจาะตลาดใจกลางเมือง! การเข้าใจพฤติกรรมและเทรนด์ใหม่ๆ ของผู้บริโภคจึงเป็นเหมือนกุญแจดอกสำคัญที่จะไขประตูสู่ความสำเร็จ และนี่คือโอกาสของเด็ก คณะศิลปศาสตร์ อย่างเราที่จะนำความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเต็มที่!
📊 4 เทรนด์ผู้บริโภคญี่ปุ่นร้อนแรง! ที่ธุรกิจไทยต้องเกาะติด
อัปเดตล่าสุดจากญี่ปุ่น เทรนด์ที่กำลังมาแรงและน่าสนใจมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!
1. 推し活 (Oshi-katsu): การใช้จ่ายเพื่อสิ่งที่รัก ❤️
ไม่ใช่แค่การสนับสนุนไอดอลหรือศิลปิน แต่ “โอชิ” หมายถึงทุกสิ่งที่เราชื่นชอบและพร้อมเปย์! ไม่ว่าจะเป็นตัวการ์ตูน ทีมกีฬา หรือแม้แต่แบรนด์สินค้า ธุรกิจไทยสามารถสร้างสรรค์สินค้าคอลเลคชันพิเศษ หรือจัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับ “โอชิ” เพื่อดึงดูดใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้
2. イミ消費 (Imi-shohi): บริโภคอย่างมีความหมาย ✨
คนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นมองหา “ความหมาย” มากกว่าแค่ “ราคา” พวกเขายอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) สนับสนุนชุมชน หรือมีเรื่องราว (Storytelling) ที่น่าสนใจ สินค้า OTOP หรือหัตถกรรมไทยที่มีสตอรี่ดีๆ นี่แหละใช่เลย!
3. レトロ (Retro): หวนคืนวันวาน 📼
กระแส Y2K และยุคเฮเซ (Heisei) กำลังกลับมาฮิต! ตั้งแต่แฟชั่น ดนตรี ไปจนถึงแพ็กเกจจิ้งสินค้า การนำเสนอบรรยากาศเก่าๆ ที่ชวนให้คิดถึง สามารถสร้างความประทับใจและกลายเป็นไวรัลได้ไม่ยาก
4. ウェルネス (Wellness): สุขภาพกายใจต้องมาก่อน 🧘
เทรนด์รักสุขภาพยังคงมาแรงต่อเนื่อง สินค้าและบริการที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด เช่น สปา อะโรมาเธอราปี อาหารเพื่อสุขภาพ หรือกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคญี่ปุ่นมองหาอย่างมาก
🚀 ทักษะจาก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม: อาวุธลับพิชิตตลาดญี่ปุ่น
แล้วพวกเราชาว คณะศิลปศาสตร์ SPU จะนำความรู้ไปปรับใช้กับเทรนด์เหล่านี้ได้ยังไง? บอกเลยว่าสกิลของเรานี่แหละคือ “อาวุธลับ” ชั้นดี!
- ทักษะภาษาญี่ปุ่น: เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ลึกซึ้งกว่า สามารถสื่อสาร สร้างคอนเทนต์การตลาดที่โดนใจ และเจรจาธุรกิจได้อย่างราบรื่น
- ความเข้าใจในวัฒนธรรม: รู้ว่าอะไรคือ “อินไซต์” ที่แท้จริง สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่เคารพและตอบโจทย์วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว เช่น การออกแบบแพ็กเกจจิ้ง หรือการสร้าง Storytelling ที่เชื่อมโยงกับเทรนด์ “Imi-shohi”
- ทักษะการสื่อสารและการเล่าเรื่อง: เปลี่ยนข้อมูลสินค้าธรรมดาๆ ให้กลายเป็นเรื่องราวที่น่าติดตาม สร้างแคมเปญการตลาดที่ทรงพลัง และทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ
เห็นไหมว่าการเรียนที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ไม่ได้ให้แค่ความรู้ในตำรา แต่ยังสอนให้เราคิดวิเคราะห์และประยุกต์ใช้ได้จริง! ใครอยากสกิลแน่นๆ แบบนี้ คลิกดูหลักสูตรของคณะศิลปศาสตร์ SPU ได้เลย!
สรุปได้ว่า… การเข้าใจเทรนด์ผู้บริโภคญี่ปุ่นคือ “โอกาส” และทักษะจาก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม คือ “เครื่องมือ” ที่จะทำให้เราคว้าโอกาสนั้นมาได้! มาใช้ความรู้ที่เรามีสร้างความแตกต่างและพุ่งทะยานสู่ความสำเร็จในตลาดโลกกันเถอะ! ✨
















