6 ระบบ Cloud Computing ยอดนิยมที่โปรแกรมเมอร์ต้องรู้จักในปี 2026: พลิกโฉมสายอาชีพสู่อนาคต
เจาะลึกแพลตฟอร์ม Cloud ที่กำลังครองตลาดและเป็นทักษะที่ขาดไม่ได้สำหรับโปรแกรมเมอร์ทุกคน อัปเดตล่าสุดเพื่อเตรียมความพร้อมให้ สายอาชีพ ของคุณก้าวกระโดดในปี 2026 และปีต่อๆ ไป
สารบัญ
- บทนำ: ทำไมจึงสำคัญต่อสายอาชีพโปรแกรมเมอร์?
- 1. Amazon Web Services (AWS): ผู้นำตลาด Cloud ที่ไม่มีใครเทียบ
- 2. Microsoft Azure: ยักษ์ใหญ่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
- 3. Google Cloud Platform (GCP): ดาวรุ่งด้าน Data และ AI
- 4. Alibaba Cloud: ประตูสู่ตลาดเอเชีย
- 5. Oracle Cloud Infrastructure (OCI): ม้ามืดแห่งวงการ Enterprise
- 6. DigitalOcean: ขวัญใจ Developer และ Startup
- ตารางเปรียบเทียบ 6 แพลตฟอร์ม Cloud Computing
- อนาคตของ Cloud Computing และทิศทางสายอาชีพของคุณ
- คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- บทสรุป: ก้าวแรกสู่การเป็น Cloud Developer
บทนำ: ทำไมจึงสำคัญต่อสายอาชีพโปรแกรมเมอร์?
ในทศวรรษที่ผ่านมา โลกของเทคโนโลยีได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และหนึ่งในตัวขับเคลื่อนสำคัญคือ Cloud Computing หรือการประมวลผลบนคลาวด์ จากเดิมที่องค์กรต้องลงทุนซื้อและบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ราคาแพง วันนี้พวกเขาสามารถ “เช่า” ทรัพยากรคอมพิวเตอร์มหาศาลจากผู้ให้บริการได้ตามต้องการผ่านอินเทอร์เน็ต การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ในระดับองค์กร แต่ยังพลิกโฉมวิธีการทำงานและทักษะที่จำเป็นสำหรับโปรแกรมเมอร์โดยสิ้นเชิง
สำหรับโปรแกรมเมอร์ การเข้าใจในระบบ Cloud Computing ไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ สายอาชีพ ที่ยั่งยืนและเติบโต เพราะแอปพลิเคชันสมัยใหม่ ตั้งแต่เว็บแอปพลิเคชัน, Mobile App, ระบบ IoT, ไปจนถึง AI/Machine Learning ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างและทำงานอยู่บนพื้นฐานของ Cloud ทั้งสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นหัวใจสำคัญของหลักการ GEO (Geo-Targeting Optimization) ที่ช่วยให้แอปพลิเคชันสามารถให้บริการผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยการวาง Infrastructure ไว้ใน Data Center ที่อยู่ใกล้กับผู้ใช้งานมากที่สุด สิ่งนี้เป็นไปได้เพราะผู้ให้บริการรายใหญ่มีเครือข่ายศูนย์ข้อมูลอยู่ทั่วทุกมุมโลก
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 6 ระบบ Cloud Computing ยอดนิยมที่โปรแกรมเมอร์ทุกคนควรรู้จักในปี 2025 เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความได้เปรียบใน สายอาชีพ ของคุณในยุคดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย Cloud อย่างเต็มรูปแบบ
1. Amazon Web Services (AWS): ผู้นำตลาด Cloud ที่ไม่มีใครเทียบ
หากพูดถึง Cloud Computing ชื่อแรกที่ทุกคนต้องนึกถึงคือ Amazon Web Services หรือ AWS ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดมาอย่างยาวนาน AWS มีบริการที่หลากหลายและครอบคลุมมากที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการทั้งหมด ตั้งแต่บริการพื้นฐานไปจนถึงบริการขั้นสูงที่ซับซ้อน ทำให้เป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับองค์กรทุกขนาด ตั้งแต่ Startup ไปจนถึงบริษัท Fortune 500
บริการสำคัญสำหรับโปรแกรมเมอร์บน AWS
- Compute:
Amazon EC2
(Virtual Servers),AWS Lambda
(Serverless Compute),Amazon ECS/EKS
(Containers) - Storage:
Amazon S3
(Object Storage),Amazon EBS
(Block Storage for EC2) - Databases:
Amazon RDS
(Relational Database),Amazon DynamoDB
(NoSQL Database) - Networking:
Amazon VPC
(Virtual Private Cloud),Route 53
(DNS) - AI/ML:
Amazon SageMaker
(Build, Train, and Deploy ML Models)
จุดแข็งของ AWS
ความน่าเชื่อถือ, ความหลากหลายของบริการ, Ecosystem ที่แข็งแกร่ง, และชุมชนผู้ใช้งานขนาดใหญ่ คือจุดแข็งที่ทำให้ AWS ยังคงเป็นผู้นำตลาด การมีเอกสารประกอบ, บทเรียน, และโซลูชันจาก Third-party มากมาย ทำให้การเริ่มต้นและแก้ไขปัญหาบน AWS ทำได้ง่ายกว่าคู่แข่ง
ผลกระทบต่อสายอาชีพ
ทักษะด้าน AWS เป็นที่ต้องการสูงมากในตลาดแรงงาน ตำแหน่งงานอย่าง AWS Solutions Architect, DevOps Engineer (with AWS), และ Cloud Engineer ล้วนต้องการความเข้าใจในบริการของ AWS อย่างลึกซึ้ง การมี Certificate ของ AWS จะช่วยเพิ่มมูลค่าและโอกาสใน สายอาชีพ ของคุณได้อย่างมหาศาล
2. Microsoft Azure: ยักษ์ใหญ่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
Microsoft Azure คือผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของ AWS ด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จุดแข็งที่สุดของ Azure คือการผนวกรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ที่องค์กรต่างๆ ใช้งานอยู่แล้ว เช่น Windows Server, Office 365, Active Directory ทำให้ Azure เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise) ที่ใช้เทคโนโลยีของ Microsoft เป็นหลัก
บริการสำคัญสำหรับโปรแกรมเมอร์บน Azure
- Compute:
Azure Virtual Machines
,Azure Functions
(Serverless),Azure Kubernetes Service (AKS)
- Storage:
Azure Blob Storage
,Azure Disk Storage
- Databases:
Azure SQL Database
,Azure Cosmos DB
(Multi-model NoSQL) - DevOps:
Azure DevOps
(เครื่องมือครบวงจรสำหรับ CI/CD) - Identity:
Azure Active Directory (AAD)
จุดแข็งของ Azure
การ Integration กับระบบ Enterprise ของ Microsoft, การรองรับ Hybrid Cloud ที่แข็งแกร่ง (ผ่าน Azure Arc), และการให้ความสำคัญกับนักพัฒนาสาย .NET ทำให้ Azure เป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังและเป็นมิตรกับองค์กรขนาดใหญ่ สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือที่คุ้นเคยซึ่งจะช่วยลด learning curve ได้อย่างมาก
ผลกระทบต่อสายอาชีพ
หากคุณทำงานในองค์กรที่ใช้เทคโนโลยีของ Microsoft เป็นหลัก การมีความรู้ด้าน Azure จะเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก ตำแหน่งงานในองค์กรเหล่านี้มักจะระบุทักษะ Azure เป็นคุณสมบัติหลัก โดยเฉพาะในตลาด Enterprise
3. Google Cloud Platform (GCP): ดาวรุ่งด้าน Data และ AI
Google Cloud Platform หรือ GCP เป็นผู้เล่นอันดับสามในตลาด แต่มีความโดดเด่นและเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้าน Big Data, Analytics, Machine Learning, และ Containers เนื่องจาก Google ได้นำเทคโนโลยีภายในที่ใช้ขับเคลื่อนบริการระดับโลกอย่าง Search, YouTube, และ Gmail มาเปิดให้บริการแก่บุคคลภายนอก
บริการสำคัญสำหรับโปรแกรมเมอร์บน GCP
- Compute:
Compute Engine
(VMs),Cloud Functions
(Serverless),Google Kubernetes Engine (GKE)
(ผู้นำด้าน Managed Kubernetes) - Storage:
Cloud Storage
,Persistent Disk
- Big Data & Analytics:
BigQuery
(Serverless Data Warehouse),Cloud Dataflow
,Dataproc
- AI/ML:
AI Platform
,TensorFlow
,AutoML
จุดแข็งของ GCP
GCP โดดเด่นที่สุดในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะบริการอย่าง BigQuery และ GKE ที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในตลาด นอกจากนี้ GCP ยังมีเครือข่ายระดับโลกที่มีประสิทธิภาพสูงและราคาที่แข่งขันได้ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของบริษัทที่เน้น Data-Driven และต้องการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด
ผลกระทบต่อสายอาชีพ และการเลือกใช้
สำหรับโปรแกรมเมอร์ที่สนใจใน สายอาชีพ ด้าน Data Science, Data Engineering, หรือ Machine Learning การมีความรู้ความสามารถใน GCP จะเป็นแต้มต่อที่สำคัญมาก ตำแหน่งงานเหล่านี้มักต้องการผู้ที่มีประสบการณ์กับ BigQuery, AI Platform หรือ GKE ดังนั้น การเลือกศึกษาของ GCP จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคตในสายข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์
4. Alibaba Cloud: ประตูสู่ตลาดเอเชีย
Alibaba Cloud หรือที่รู้จักในชื่อ Aliyun เป็นผู้นำตลาดในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แม้ในระดับโลกจะยังตามหลัง 3 ยักษ์ใหญ่ แต่ถ้าธุรกิจของคุณมีเป้าหมายที่ตลาดจีนหรือเอเชีย Alibaba Cloud คือตัวเลือกที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านตำแหน่งที่ตั้งของ Data Center และความเข้าใจในกฎระเบียบท้องถิ่น
บริการสำคัญสำหรับโปรแกรมเมอร์บน Alibaba Cloud
- Compute:
Elastic Compute Service (ECS)
,Function Compute
- Databases:
ApsaraDB for RDS
,PolarDB
- E-commerce Solutions: มีบริการที่ออกแบบมาเพื่อรองรับธุรกิจ E-commerce โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นจุดแข็งจากบริษัทแม่
- Content Delivery Network (CDN): มีเครือข่าย CDN ที่แข็งแกร่งมากในจีนและเอเชีย
จุดแข็งของ Alibaba Cloud
ความแข็งแกร่งในตลาดเอเชีย, โดยเฉพาะจีน, คือจุดขายหลัก การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับด้านข้อมูลของจีน (GEO-specific compliance) ทำให้เป็นตัวเลือกเดียวที่เหมาะสมสำหรับบริษัทต่างชาติที่ต้องการเจาะตลาดจีน นอกจากนี้ยังมีบริการที่น่าสนใจด้าน E-commerce และ Media อีกด้วย
ผลกระทบต่อสายอาชีพ
แม้จะไม่ได้เป็นที่ต้องการในระดับโลกเท่า AWS หรือ Azure แต่สำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ทำงานในบริษัทที่มีธุรกิจในจีนหรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทักษะด้าน Alibaba Cloud จะเป็นที่ต้องการอย่างมาก นี่คือโอกาสในการสร้างความแตกต่างและเชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ซึ่งสามารถส่งผลดีต่อ สายอาชีพ ในระยะยาวได้
5. Oracle Cloud Infrastructure (OCI): ม้ามืดแห่งวงการ Enterprise
Oracle เป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าแห่งวงการฐานข้อมูล แต่ในช่วงหลังได้รุกตลาด อย่างหนักหน่วงภายใต้ชื่อ Oracle Cloud Infrastructure (OCI) โดยชูจุดเด่นด้านประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและราคาที่ถูกกว่าสำหรับ Workload ระดับ Enterprise โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูล Oracle
บริการสำคัญสำหรับโปรแกรมเมอร์บน OCI
- Compute:
Bare Metal & VM Compute
,Oracle Container Engine for Kubernetes (OKE)
- Databases:
Autonomous Database
(จุดขายหลักที่สามารถจัดการตัวเองได้),Oracle Database Service
- High-Performance Computing (HPC): มีบริการที่เน้นประสิทธิภาพสูงสำหรับงานคำนวณที่ซับซ้อน
จุดแข็งของ OCI
ประสิทธิภาพและราคาที่น่าดึงดูดสำหรับ Workload ขนาดใหญ่, การเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการรัน Oracle Database, และโปรแกรม “Always Free” Tier ที่ให้ทรัพยากรค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทำให้ OCI เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการย้ายระบบ Oracle เดิมขึ้นสู่ Cloud
ผลกระทบต่อสายอาชีพ
สำหรับโปรแกรมเมอร์หรือ Database Administrator ที่ทำงานกับผลิตภัณฑ์ของ Oracle การเรียนรู้ OCI จะช่วยต่อยอด สายอาชีพ ได้โดยตรง เนื่องจากองค์กรที่เป็นลูกค้าของ Oracle จำนวนมากกำลังพิจารณาที่จะย้ายไปยัง OCI ความเชี่ยวชาญในแพลตฟอร์มนี้จึงเป็นที่ต้องการในกลุ่มลูกค้าดังกล่าว
6. DigitalOcean: ขวัญใจ Developer และ Startup
ในขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่มุ่งเน้นไปที่บริการที่ซับซ้อนและลูกค้าองค์กร DigitalOcean ได้สร้างจุดยืนที่แตกต่างโดยการเป็นแพลตฟอร์ม Cloud ที่ “เรียบง่าย” และ “เป็นมิตรกับนักพัฒนา” มากที่สุด พวกเขามุ่งเน้นไปที่บริการหลักๆ ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาและ Startup โดยมี UI ที่ใช้งานง่าย, ราคาที่โปร่งใสคาดเดาได้ และเอกสารประกอบที่ยอดเยี่ยม
บริการสำคัญสำหรับโปรแกรมเมอร์บน DigitalOcean
- Compute:
Droplets
(Virtual Machines ที่เข้าใจง่าย),App Platform
(PaaS ที่ใช้ง่าย),DigitalOcean Kubernetes
- Storage:
Spaces
(S3-compatible Object Storage),Volumes
(Block Storage) - Databases:
Managed Databases
(PostgreSQL, MySQL, Redis)
จุดแข็งของ DigitalOcean
ความเรียบง่ายคือหัวใจของ DigitalOcean การเริ่มต้นใช้งานทำได้รวดเร็ว, ราคาถูกและเข้าใจง่าย, และมี Community ที่แข็งแกร่งซึ่งผลิตบทความสอน (Tutorials) คุณภาพสูงออกมามากมาย ทำให้เป็นที่รักของนักพัฒนา, Freelancer, และ Startup ที่ต้องการความเร็วและความคล่องตัวโดยไม่ต้องเผชิญกับความซับซ้อนของ Cloud ขนาดใหญ่
ผลกระทบต่อสายอาชีพ
แม้ทักษะ DigitalOcean อาจไม่ถูกระบุใน Job Description ของบริษัทใหญ่ๆ แต่สำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ทำงานใน Startup, SMEs, หรือเป็น Freelancer ความสามารถในการ deploy และจัดการแอปพลิเคชันบน DigitalOcean ได้อย่างรวดเร็วถือเป็นทักษะที่มีค่าอย่างยิ่ง มันแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำงานแบบ Full-stack และความเข้าใจในกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การเขียนโค้ดไปจนถึงการนำขึ้นโปรดักชัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อ สายอาชีพ ที่เน้นความคล่องตัว
ตารางเปรียบเทียบ 6 แพลตฟอร์ม
แพลตฟอร์ม | จุดแข็งที่สุด | กลุ่มเป้าหมายหลัก | โมเดลราคา |
---|---|---|---|
AWS | บริการหลากหลายที่สุด, Ecosystem แข็งแกร่ง | ทุกขนาด (Startup ถึง Enterprise) | ซับซ้อน, จ่ายตามการใช้งานจริง |
Microsoft Azure | Integration กับ Microsoft, Hybrid Cloud | องค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise) | จ่ายตามการใช้งาน, มีส่วนลดสำหรับลูกค้า Microsoft |
GCP | Big Data, AI/ML, Kubernetes (GKE) | บริษัทที่เน้น Data-Driven, Tech Company | เป็นมิตรกับผู้ใช้, มีส่วนลดการใช้งานต่อเนื่อง |
Alibaba Cloud | ครองตลาดจีนและเอเชีย, โซลูชัน E-commerce | บริษัทที่ต้องการเจาะตลาดเอเชีย | จ่ายตามการใช้งาน |
Oracle Cloud (OCI) | ประสิทธิภาพสูง, ดีที่สุดสำหรับ Oracle DB | ลูกค้า Oracle เดิม, Enterprise Workload | ราคาแข่งขันได้, Free Tier ใจกว้าง |
DigitalOcean | เรียบง่าย, เป็นมิตรกับนักพัฒนา | นักพัฒนา, Startup, SMEs | โปร่งใส, ราคาคงที่รายเดือน |
อนาคตและทิศทางสายอาชีพของคุณ
โลกของ Cloud Computing ยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เทรนด์ที่กำลังมาแรงและจะส่งผลต่อ สายอาชีพ โปรแกรมเมอร์ในอนาคตอันใกล้ ได้แก่:
- Serverless Computing: การเขียนโค้ดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการเซิร์ฟเวอร์อีกต่อไป โปรแกรมเมอร์จะสามารถโฟกัสที่การสร้างฟีเจอร์ได้เต็มที่ (เช่น AWS Lambda, Azure Functions)
- AI/ML as a Service: ผู้ให้บริการ Cloud ทำให้การนำ AI/ML มาใช้ในแอปพลิเคชันเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก ผ่าน API และบริการสำเร็จรูป
- Multi-Cloud และ Hybrid Cloud: องค์กรต่างๆ จะไม่ผูกติดกับผู้ให้บริการรายเดียวอีกต่อไป แต่จะเลือกใช้บริการที่ดีที่สุดจากแต่ละค่าย (Multi-Cloud) หรือผสมผสานระหว่าง Public Cloud กับ Private Cloud (Hybrid) ทักษะในการทำงานข้ามแพลตฟอร์มจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- FinOps (Cloud Financial Operations): การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายบน Cloud จะกลายเป็นทักษะที่สำคัญ โปรแกรมเมอร์ต้องเรียนรู้ที่จะเขียนโค้ดและออกแบบระบบให้มีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายสูงสุด
การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตหมายถึงการเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง การเลือกเรียนรู้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับเป้าหมายใน สายอาชีพ ของคุณ และติดตามเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ คือกุญแจสู่ความสำเร็จในยุค Cloud-Native
ศึกษาเพิ่มเติม
สำหรับผู้ที่สนใจเจาะลึกเรื่อง DevOps ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการทำงานบน Cloud สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่:
เส้นทางสู่ DevOps Engineer ในปี 2025 (Internal Link)
และสำหรับข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดล่าสุดของวงการ Cloud Computing สามารถอ้างอิงจากรายงานที่น่าเชื่อถือได้จาก Gartner:
Gartner Says Worldwide IaaS Public Cloud Services Market Grew 30% in 2022 (External Link)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มเรียนรู้ Platform ตัวไหนก่อนดี?
A: สำหรับผู้เริ่มต้นจริงๆ DigitalOcean เป็นตัวเลือกที่ดีมากเพราะความเรียบง่ายและราคาถูก ทำให้เข้าใจคอนเซ็ปต์พื้นฐานได้ง่าย แต่หากมองถึงโอกาสใน สายอาชีพ ในระยะยาว การเริ่มต้นกับ AWS จะเป็นประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดสูงสุดและมีแหล่งข้อมูลให้เรียนรู้มากมาย AWS มี Free Tier ที่ให้คุณทดลองใช้บริการต่างๆ ได้ฟรีเป็นเวลา 12 เดือน ซึ่งเพียงพอสำหรับการเรียนรู้พื้นฐาน
Q2: จำเป็นต้องเรียนรู้ระบบทั้ง 6 แพลตฟอร์มเลยหรือไม่?
A: ไม่จำเป็นเลยครับ เป้าหมายคือการเลือกเชี่ยวชาญ (Specialize) ในแพลตฟอร์มหลัก 1-2 ตัว ที่สอดคล้องกับ สายอาชีพ และอุตสาหกรรมที่คุณสนใจ เช่น เชี่ยวชาญ AWS เป็นหลัก และมีความรู้พื้นฐานของ Azure หรือ GCP ติดตัวไว้เพื่อความยืดหยุ่น การเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ในแพลตฟอร์มเดียวมีค่ามากกว่าการเป็น “ผู้รู้” ทุกแพลตฟอร์มแบบผิวเผิน
Q3: การมีความรู้ด้าน Cloud Computing ส่งผลต่อเงินเดือนของโปรแกรมเมอร์มากน้อยแค่ไหน?
A: ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญมาก โปรแกรมเมอร์ที่มีทักษะด้าน Cloud โดยเฉพาะผู้ที่มี Certificate รับรอง สามารถคาดหวังเงินเดือนที่สูงกว่าโปรแกรมเมอร์ที่ไม่มีทักษะนี้ได้ 15-30% หรือมากกว่านั้น เนื่องจากทักษะนี้เป็นที่ต้องการสูงแต่ยังมีบุคลากรไม่เพียงพอ ทำให้บริษัทต่างๆ ยอมจ่ายค่าตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดคนที่มีความสามารถ การลงทุนเรียนรู้ด้านนี้จึงเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ใน สายอาชีพ ของคุณโดยตรง
บทสรุป: ก้าวแรกสู่การเป็น Cloud Developer
การเดินทางในโลกของ Cloud Computing อาจดูน่าเกรงขามในตอนแรก ด้วยบริการและศัพท์เทคนิคมากมาย แต่หัวใจสำคัญคือการเริ่มต้นทีละก้าว เลือกแพลตฟอร์มที่ตรงกับความสนใจและเป้าหมายใน สายอาชีพ ของคุณ เริ่มจากบริการพื้นฐานอย่าง Virtual Machine, Storage, และ Database จากนั้นค่อยๆ ขยายความรู้ไปสู่บริการที่ซับซ้อนขึ้น
ไม่ว่าคุณจะเลือก AWS, Azure, GCP หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ การลงทุนเวลาเพื่อเรียนรู้ทักษะด้าน Cloud ในวันนี้ คือการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคต และเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นใน สายอาชีพ โปรแกรมเมอร์