EN

AI กับบทบาทของภาษา Programming: ทักษะใหม่ที่ Developer คณะเทคโนโลยีสารสนเทศต้องมี

AI กับบทบาทของภาษา Programming: ทักษะใหม่ที่ Developer คณะเทคโนโลยีสารสนเทศต้องมี

AI กับบทบาทของภาษา Programming: ทักษะใหม่ที่ Developer คณะเทคโนโลยีสารสนเทศต้องมี

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว AI (Artificial Intelligence) ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ในนิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่เข้ามาปฏิวัติทุกวงการ รวมถึงโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับนักศึกษาและบุคลากรในสายงานไอที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Developer และผู้ที่สนใจในสาย DevOps  การทำความเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับบทบาทใหม่ของ AI จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง บทความนี้จะพาไปสำรวจว่า AI เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของ ภาษา Programming อย่างไร และทักษะใดบ้างที่นักพัฒนารุ่นใหม่ต้องมี โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ที่กำลังเตรียมพร้อมก้าวสู่โลกการทำงานจริง

1. ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนไปของ ภาษา Programming ในยุค AI

การมาถึงของ AI ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความต้องการของ ภาษา Programming บางภาษาได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในขณะที่บางภาษาอาจต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

Python: ภาษาแห่งยุค AI

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Python คือราชาในโลกของ AI และ Machine Learning ด้วยเหตุผลหลายประการ:

  • Ecosystem ที่แข็งแกร่ง: มีไลบรารีและเฟรมเวิร์กที่ทรงพลังมากมาย เช่น TensorFlow, PyTorch, Scikit-learn ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโมเดล AI ได้ง่ายและรวดเร็ว
  • Syntax ที่เรียบง่าย: โครงสร้างภาษาที่อ่านง่ายและไม่ซับซ้อน ทำให้เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโปรเจกต์ที่ซับซ้อน
  • Community ขนาดใหญ่: มีชุมชนนักพัฒนาทั่วโลกที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและแบ่งปันความรู้ ทำให้การแก้ปัญหาทำได้ง่ายขึ้น

ด้วยเหตุนี้ การมีความเชี่ยวชาญในภาษา Python จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับ Developer ที่ต้องการทำงานในสาย AI โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก เว็บไซต์ทางการของ Python

2. บทบาทใหม่ของ Developer ที่ต้องทำงานร่วมกับ AI

AI ไม่ได้เข้ามาเพื่อแทนที่ Developer แต่เข้ามาเป็น “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง เครื่องมืออย่าง GitHub Copilot, Amazon CodeWhisperer หรือ Tabnine สามารถช่วยเขียนโค้ด, แก้บั๊ก, และแนะนำแนวทางการเขียนที่ดีที่สุดได้ สิ่งนี้ทำให้บทบาทของ Developer เปลี่ยนไปจาก “ผู้เขียนโค้ด” (Code Writer) ไปสู่ “ผู้ออกแบบและควบคุม” (System Architect & AI Collaborator) มากขึ้น

ทักษะใหม่ที่ Developer ต้องมีคือ:

  • Prompt Engineering: ความสามารถในการตั้งคำถามและสั่งงาน AI ให้ได้ผลลัพธ์ (โค้ด) ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • Code Review & Validation: ทักษะการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของโค้ดที่ AI สร้างขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยและทำงานได้ตามที่ต้องการ
  • System Design: การมองภาพรวมของระบบและออกแบบสถาปัตยกรรมที่เหมาะสม โดยใช้ AI เป็นเครื่องมือในการสร้างส่วนประกอบย่อยๆ

3. AI ขับเคลื่อน DevOps และการเรียนการสอนในคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ

ในโลกของ DevOps คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ กำลังให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นแนวคิดที่ผสานการพัฒนา (Development) และการดำเนินงาน (Operations) เข้าด้วยกันเพื่อส่งมอบซอฟต์แวร์ที่รวดเร็วและมีคุณภาพ AI ได้เข้ามาเสริมศักยภาพของ DevOps ในหลายมิติ หรือที่เรียกว่า AIOps (AI for IT Operations) เช่น:

  • Automated Testing: AI สามารถสร้าง Test Case ที่ครอบคลุมและค้นหา Bug ที่ซับซ้อนได้โดยอัตโนมัติ
  • Predictive Monitoring: วิเคราะห์ Log และข้อมูลการทำงานของระบบเพื่อคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและแจ้งเตือนล่วงหน้า
  • Smart CI/CD Pipelines: ปรับปรุงกระบวนการ Continuous Integration/Continuous Deployment ให้ฉลาดขึ้น โดย AI สามารถตัดสินใจได้ว่าควร Deploy เวอร์ชั่นใหม่เมื่อใด หรือควร Rollback กลับไปเวอร์ชั่นเก่าหากพบปัญหา

การเรียนรู้หลักการเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักศึกษาใน คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้พร้อมสำหรับตำแหน่งงานสมัยใหม่ที่ต้องการทักษะทั้งด้านการพัฒนาและ DevOps

4. ทำไม มหาวิทยาลัยศรีปทุม ถึงพร้อมสำหรับยุค AI

มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) โดยเฉพาะคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ และได้ออกแบบหลักสูตรที่ทันสมัยเพื่อเตรียมนักศึกษาให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในยุค AI

  • หลักสูตรที่เน้นปฏิบัติ: เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง มีวิชาที่สอนเกี่ยวกับ AI, Machine Learning และ Data Science โดยใช้ ภาษา Programming ที่เป็นที่ต้องการของตลาดอย่าง Python
  • ส่งเสริมทักษะ DevOps: มีการสอดแทรกแนวคิดและเครื่องมือด้าน DevOps เข้าไปในรายวิชาต่างๆ เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ครบวงจร
  • ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม: มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีเครือข่ายความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ทำให้นักศึกษามีโอกาสได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงและเข้าร่วมโครงการสหกิจศึกษาที่ตอบโจทย์โลกการทำงาน

การเลือกสถาบันการศึกษาที่เข้าใจและพร้อมปรับตัวไปกับเทคโนโลยีจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่การเป็น Developer ที่ประสบความสำเร็จในอนาคต หากสนใจศึกษาเกี่ยวกับ ภาพรวมหลักสูตรไอทีที่น่าสนใจ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

5. คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q1: ถ้า AI เขียนโค้ดได้ เรายังต้องเรียน ภาษา Programming อยู่หรือไม่?

ตอบ: จำเป็นอย่างยิ่งครับ! AI เป็นเพียงเครื่องมือ การเข้าใจพื้นฐานของ ภาษา Programming, โครงสร้างข้อมูล และอัลกอริทึม ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ Developer สามารถสั่งงาน, ตรวจสอบ, แก้ไข และปรับปรุงโค้ดที่ AI สร้างขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้การเขียนโปรแกรมเปรียบเสมือนการเรียนรู้ไวยากรณ์เพื่อที่จะสนทนากับ AI ได้อย่างรู้เรื่อง

Q2: ภาษา Programming ใดดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นในสายงาน AI?

ตอบ: Python ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดและเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางสำหรับการเริ่มต้นในสาย AI และ Data Science เนื่องจากมีไลบรารีที่สนับสนุนอย่างครบครันและมีชุมชนผู้ใช้ที่ใหญ่มาก อย่างไรก็ตาม ภาษาอื่น ๆ เช่น R (สำหรับงานสถิติ) หรือ C++ (สำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง) ก็ยังมีความสำคัญในบางแวดวงเช่นกัน

Q3: คณะเทคโนโลยีสารสนเทศที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เตรียมความพร้อมนักศึกษาสำหรับ AI และ DevOps อย่างไร?

ตอบ: ที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เรามุ่งเน้นการสร้าง “นักปฏิบัติ” ผ่านหลักสูตรที่ทันสมัย มีการสอนพื้นฐานการเขียนโปรแกรมที่แข็งแกร่ง, วิชาเฉพาะทางด้าน AI/Machine Learning, และสอดแทรกความรู้ด้าน DevOps เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจกระบวนการทำงานจริงในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีการจัด Workshop และเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาให้ความรู้ เพื่อให้นักศึกษามีทักษะที่พร้อมใช้งานและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทันทีที่เรียนจบ

Most Popular

Categories