“ใครรู้เท่าทันตน ผู้นั้นเป็นยอดนักธุรกิจ”
“บุคคลผู้รู้ตน เป็นผู้ประเสริฐที่สุด”
(พระไตรปิฎก เล่ม 1 ข้อ 40)
พระดำรัสข้อนี้เน้นว่า การรู้จักตนเองคือรากฐานของการพัฒนา ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ผู้ที่เข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน อารมณ์ ความคิด และแรงขับภายในของตนเอง จะสามารถปรับตัวได้ดี ตัดสินใจได้อย่างมีสติ และบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในโลกธุรกิจสมัยใหม่ “ผู้รู้เท่าทันตน” คือผู้ที่สามารถประเมินตนอย่างตรงไปตรงมา รับฟังความคิดเห็น ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และนำทีมด้วยความมั่นใจบนฐานของความจริง ไม่ใช่ความหลงผิด ผลที่ตามมาคือการเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือ และเป็นนักธุรกิจที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
“One Who Knows Oneself Is the Finest Leader in Business”
“One who truly knows oneself is the most excellent.”
(Tipiṭaka Vol. 1, No. 40)
This teaching emphasizes that self-knowledge is the foundation of genuine growth, both personally and professionally. Individuals who understand their strengths, weaknesses, emotions, thought patterns, and internal motivations are better equipped to adapt, make mindful decisions, and manage responsibilities effectively.
In the modern business world, those who “know themselves” are able to assess their abilities with honesty, remain open to feedback, and pursue continuous improvement. They lead teams with confidence grounded in reality rather than illusion. Such leaders earn trust, cultivate meaningful collaboration, and ultimately embody the qualities of a truly sustainable and successful business professional.
โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน
วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบูรณาการหลักธรรมทางพุทธศาสนาเข้ากับแนวคิดด้านการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ภายใต้ “โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ช่วยให้ผู้บริหาร นักศึกษา และสังคมทั่วไป ได้พัฒนาทัศนะที่ถูกต้อง และนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส และสมดุล สะท้อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสังคมแห่งอนาคต (University for Sustainable Society) ที่มุ่งส่งเสริมทั้ง การพัฒนาปัญญา คุณธรรม และความยั่งยืน ควบคู่กันไป สอดคล้องกับแนวทางของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีจริยธรรม และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเป็นธรรม
การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
การรู้จักตนเองคือองค์ประกอบสำคัญของทักษะชีวิตขั้นสูง (Life Skills) ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาเป็นบุคคลที่คิดเป็น แก้ปัญหาเป็น และพัฒนาตนอย่างต่อเนื่อง
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 4.7 — ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อทักษะชีวิตและการพัฒนาคุณธรรม
SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)
บุคลากรและผู้บริหารที่รู้จักตนเองทำงานได้อย่างมีสมดุล มีคุณภาพ และสร้างองค์ความรู้หรือแนวทางการทำงานที่ยั่งยืน
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 8.5 — พัฒนาศักยภาพแรงงาน ส่งเสริมการทำงานที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูง
SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions)
ผู้นำที่รู้จักตนเองย่อมบริหารงานด้วยความโปร่งใส ลดอคติ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล สร้างสถาบันที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 16.7 — ส่งเสริมการตัดสินใจที่มีส่วนร่วม เป็นธรรม และครอบคลุม
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “ธรรมะ” คือพลังแห่งปัญญาที่สามารถนำทางให้การบริหารจัดการดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน จึงมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของในการคิด การตัดสินใจ และการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กร สังคม และประเทศชาติไปสู่อนาคตที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสังคมยั่งยืนด้วยปัญญาและคุณธรรม”




