ไปยังไงมายังไงถึงได้มาอยู่ในรั้ววิศวะฯ SPU
ไทเกอร์ : แรกเริ่มเลยคิดแค่ว่าเราเรียนวิทย์-คณิต มาอยากจะเอาไปต่อยอดได้ ก็คิดไว้หลายคณะแต่สุดท้ายก็เลือกวิศวะไฟฟ้า เพราะเราชอบการคำนวณมากกว่าอ่านหนังสือท่องจำ แล้ววิศวะไฟฟ้าก็เป็นคณะที่น่าสนใจ มีงานรองรับ แล้วต่อยอดได้อีกมากในอนาคต

วิศวะฯ ม.ศรีปทุม เหมือน หรือ ต่าง กับที่อื่น
ไทเกอร์ : จากที่ลองคุยกับเพื่อนๆ ที่เรียนต่างมหาวิทยาลัยกัน แต่ละที่ก็มีข้อดีของตัวเอง แต่ที่เราเลือกเรียนที่นี่เพราะว่ามีห้องเรียนอุปกรณ์ที่พร้อม และอาจารย์ก็มีแต่เก่งๆ เป็นตัวจริงของสายนั้นๆ และที่สำคัญคือใกล้บ้านครับ

เรียนวิศวะฯ สไตล์ SPU เป็นอย่างไร
ไทเกอร์ : ที่คณะมีจัดกิจกรรมให้ไปร่วมดูการทำงานภายในโรงงานกับรุ่นพี่ ตอนอยู่ชั้นปีที่ 1 และผมยังเคยได้เป็นสมาชิกก่อตั้งชมรม SOS ของอาจารย์ในคณะ ได้ไปร่วมสัมมนา Starstem นอกมหาวิทยาลัยกับบุคคลภายนอก ได้เรียนรู้การทำงานของวิศวกรตั้งแต่พื้นฐานครบถ้วนผ่านประสบการณ์จริง และที่สำคัญอาจารย์และวิทยากรที่นี่ยังเป็นตัวจริงอีกด้วย รวมถึงการส่งเสริมให้นักศึกษาเรียนรู้หาประสบการณ์จริงจากนอกห้องเรียน มีการรับน้องสร้างความสนิทสนมใกล้ชิดระหว่างเพื่อนๆ และรุ่นพี่ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ได้เข้ามาเรียนวิศวะฯ ที่นี่ มีความ เปลี่ยนแปลง อย่างไร
ไทเกอร์ : ก็ตั้งแต่มาเข้าคณะนี้ ทำให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้นครับ เวลามีปัญหาเราจะไม่หนีปัญหาครับ เพิ่มความอดทนอีกต่างหาก สำหรับผมการได้เป็นวิศวกรเป็นความภูมิใจของพ่อแม่ ที่อยากเห็นเราเรียนจบ มีงานทำที่มั่นคง เลี้ยงตัวเองได้ ช่วยเหลือและพัฒนาสังคมให้ก้าวไกล อย่างอาชีพวิศวกรนี่ละครับ

ฝากเคล็ดลับให้น้องๆ ที่สนใจอยากมาเรียนสายวิศวะฯ
ไทเกอร์ : ข้อแรกเลยต้องมีความรับผิดชอบมากๆ สองคือต้องเป็นคนที่ปรับตัวกับสถานการณ์และผู้คนได้ดี สามมีความอดทนครับ เพราะทั้งงานหนักและเรียนหนักเลย 5555 แต่ถ้าเราไม่ได้ลุยไปคนเดียว ที่นี่มีเพื่อนๆที่คอยช่วยๆกันเรียนสนุกดี และอาจารย์ที่คอยช่วยสนับสนุนให้ไปจนถึงฝั่ง
“ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าเราอยากที่จะทำ ตั้งใจทำ แล้วก็ลงมือทำ”
#มหาวิทยาลัยศรีปทุม #SripatumUniversity #SPU #Dek64 #Dek65 #TCAS64 #GATPAT64 #ONET #portfolio #คณะวิศวกรรมศาสตร์ #วิศวกรรมไฟฟ้า