วันที่ 16 มกราคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และมหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) โดย ผศ.ดร.ชิษณุ อัมพรายน์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และ อาจารย์ชลัท พงษ์สุข อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ เดินหน้าขับเคลื่อน “โครงการการพัฒนาศูนย์ผลิตปุ๋ยชุมชนไม้ดอกไม้ประดับพึ่งพาตนเอง” สู่การใช้ประโยชน์จริงใน 2 พื้นที่ต้นแบบ คือ ตำบลโนนผึ้ง จ.อุบลราชธานี และตำบลเหมืองแก้ว จ.เชียงใหม่ โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ลงพื้นที่เยี่ยมชมผลสำเร็จของโครงการ
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศูนย์เรียนรู้ที่ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองในชุมชน ลดการพึ่งพาปุ๋ยเคมี ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน และเพิ่มความมั่นคงทางรายได้ให้แก่เกษตรกรไม้ดอกไม้ประดับ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพันธุ์พืชปลอดโรค การผลิตไม้ดอกปลอดภัยตามมาตรฐาน GAP ตลอดจนจัดการองค์ความรู้ด้านเกษตรปลอดภัยอย่างเป็นระบบ โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมจากเกษตรกร นักวิจัย หน่วยงานท้องถิ่น และภาคการศึกษา
โครงการนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) อย่างลึกซึ้ง ได้แก่:
SDG 1: No Poverty (1.4.3) สนับสนุนการเข้าถึงองค์ความรู้และปัจจัยการผลิตในระดับชุมชน
SDG 2: Zero Hunger (2.4.1, 2.5.1) พัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนและอนุรักษ์พันธุกรรมพืชปลอดโรค
SDG 4: Quality Education (4.3.4) ถ่ายทอดความรู้เกษตรปลอดภัยสู่นอกมหาวิทยาลัย
SDG 8: Decent Work and Economic Growth (8.3.1) เสริมรายได้และความสามารถในการประกอบอาชีพของเกษตรกร
SDG 9: Industry, Innovation and Infrastructure (9.4.1) ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานนวัตกรรมในชุมชนผ่านศูนย์เรียนรู้
SDG 11: Sustainable Cities and Communities (11.4.7) บูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อพัฒนาพื้นที่ชุมชนอย่างยั่งยืน
SDG 12: Responsible Consumption and Production (12.2.1) ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรับผิดชอบและลดการใช้ปุ๋ยเคมี
SDG 13: Climate Action (13.3.2) สร้างความตระหนักด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการจัดการเกษตรกรรม
SDG 15: Life on Land (15.2.5) ส่งเสริมแนวทางเกษตรอนุรักษ์ดินและความหลากหลายทางชีวภาพ
SDG 17: Partnerships for the Goals (17.2.5) ขับเคลื่อนโดยความร่วมมือระหว่างรัฐ มหาวิทยาลัย และชุมชน
ศูนย์ผลิตปุ๋ยชุมชนไม้ดอกไม้ประดับต้นแบบนี้ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางแห่งองค์ความรู้ แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และสร้างอนาคตใหม่ให้กับเกษตรกรไทยอย่างแท้จริง










