Social Commerce และ Omnichannel Marketing: แนวคิดใหม่ที่สาขาการตลาดดิจิทัล มหาวิทยาลัยศรีปทุมต้องรู้
เจาะลึก 2 เทรนด์การตลาดที่กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจ และเหตุผลที่บัณฑิตจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จะก้าวทันทุกการเปลี่ยนแปลง
สารบัญ
ในยุคที่โลกดิจิทัลหมุนเร็วจนตามแทบไม่ทัน พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป สองแนวคิดที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญและกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการคือ Social Commerce และ Omnichannel Marketing ซึ่งเป็นสิ่งที่นักศึกษา สาขาการตลาดดิจิทัล ของ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นนักการตลาดมืออาชีพที่ตลาดต้องการตัว
2. Omnichannel Marketing: ประสบการณ์ลูกค้าที่ไร้รอยต่อคือหัวใจ
หลายคนอาจสับสนระหว่าง Omnichannel กับ Multichannel Marketing ซึ่งความแตกต่างนั้นสำคัญมาก Multichannel คือการที่แบรนด์มีช่องทางสื่อสารกับลูกค้าหลายช่องทาง (เว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, ร้านค้า, Call Center) แต่ช่องทางเหล่านี้อาจทำงานแยกส่วนกัน ในขณะที่ Omnichannel Marketing คือการผสานทุกช่องทางให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ ต่อเนื่องและไร้รอยต่อ โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ตัวอย่างเช่น: ลูกค้าเห็นโฆษณารองเท้าบน Facebook (ช่องทางที่ 1) คลิกเข้าไปดูรายละเอียดและเพิ่มลงตะกร้าในเว็บไซต์ (ช่องทางที่ 2) แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ วันต่อมา ลูกค้าเดินผ่านหน้าร้าน (ช่องทางที่ 3) และได้รับแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ (ช่องทางที่ 4) ว่ามีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับรองเท้าที่อยู่ในตะกร้า ลูกค้าจึงตัดสินใจเข้าไปลองและซื้อที่ร้าน โดยพนักงานสามารถดึงข้อมูลตะกร้าสินค้าจากระบบออนไลน์มาทำรายการต่อได้ทันที นี่คือพลังของ Omnichannel ที่นักศึกษาจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จะได้เรียนรู้
3. ทำไม สาขาการตลาดดิจิทัล มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงเป็นคำตอบ?
ในขณะที่ทฤษฎีเป็นสิ่งสำคัญ การลงมือปฏิบัติจริงคือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง ที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เราเข้าใจดีว่าโลกการตลาดดิจิทัลเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หลักสูตรของ สาขาการตลาดดิจิทัล จึงถูกออกแบบมาให้ทันสมัยและตอบโจทย์อุตสาหกรรมอย่างแท้จริง
- เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง: นักศึกษาจะได้เรียนรู้จากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรพิเศษจากบริษัทชั้นนำ ที่นำกรณีศึกษาจริงและเครื่องมือที่ใช้ในปัจจุบันมาสอน
- เน้น Workshop และการลงมือทำ: ไม่ใช่แค่การนั่งฟังเลคเชอร์ แต่เป็นการฝึกวางแผนแคมเปญ Social Commerce, ออกแบบ Customer Journey Map สำหรับกลยุทธ์ Omnichannel และใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลจริง
- หลักสูตรที่อัปเดตเสมอ: มหาวิทยาลัยศรีปทุม ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงเนื้อหาการสอนให้สอดคล้องกับเทรนด์ล่าสุดเสมอ เพื่อให้บัณฑิตมีความรู้ที่สดใหม่และพร้อมทำงานทันที
ดังนั้น บัณฑิตจาก สาขาการตลาดดิจิทัล มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงไม่ได้มีแค่ใบปริญญา แต่มีทักษะและความเข้าใจในกลยุทธ์ที่ซับซ้อนอย่าง Social Commerce และ Omnichannel ติดตัวไปด้วย
4. อนาคตของนักการตลาดดิจิทัลจาก คณะบริหารธุรกิจ SPU
บัณฑิตที่เชี่ยวชาญในด้าน Social Commerce และ Omnichannel Marketing กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างสูง ตำแหน่งงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่ Digital Marketer เท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่สายงานเฉพาะทาง เช่น:
- Social Commerce Specialist
- E-commerce Manager
- Customer Experience (CX) Strategist
- Omnichannel Manager
- Digital Transformation Consultant
การเลือกเรียนที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคงและสดใสในสายอาชีพการตลาดดิจิทัลที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์ล่าสุด สามารถศึกษาได้จาก รายงานของ Meta for Business ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการค้าบนโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
1. Social Commerce คืออะไร? เปลี่ยนโซเชียลมีเดียให้เป็นหน้าร้าน
ลองจินตนาการว่าคุณกำลังไถ่ฟีด Instagram แล้วเจอเสื้อสวยๆ สักตัว แทนที่จะต้องกดลิงก์ออกไปหน้าเว็บไซต์อื่นเพื่อสั่งซื้อ คุณกลับสามารถกดดูรายละเอียด เลือกไซส์ และชำระเงินได้ทันทีภายในแอปฯ นั่นคือแก่นของ Social Commerce หรือ การผสมผสานระหว่าง Social Media และ E-commerce อย่างลงตัว ทำให้เส้นทางการตัดสินใจซื้อของลูกค้าสั้นลง ง่ายขึ้น และสะดวกสบายกว่าที่เคย
แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Facebook Shops, Instagram Shopping และ TikTok Shop คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำ Social Commerce มาใช้จริง ข้อดีของมันคือ:
การเข้าใจกลไกของ Social Commerce จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับนักการตลาดรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างความสำเร็จในยุคนี้