IoT, Cloud, และ AI: 3 ทักษะแห่งอนาคตที่ผู้ประกอบการต้องมี จากหลักสูตรคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ในโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การมีความเข้าใจในนวัตกรรมดิจิทัลไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ค้นพบว่าหลักสูตรจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เตรียมความพร้อมให้คุณก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่อย่างมั่นใจได้อย่างไร

โลกธุรกิจในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเสริมอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินงาน สร้างความได้เปรียบ และกำหนดทิศทางขององค์กร ผู้ประกอบการยุคใหม่จึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีสำคัญ 3 อย่าง ได้แก่ Internet of Things (IoT), Cloud Computing, และ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งเป็นสิ่งที่หลักสูตรของ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้เล็งเห็นความสำคัญและนำมาบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอน เพื่อสร้างบัณฑิตที่พร้อมสำหรับโลกธุรกิจแห่งอนาคต

1. IoT (Internet of Things): เชื่อมต่อทุกสิ่งเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ

IoT หรือ Internet of Things คือแนวคิดที่อุปกรณ์และสิ่งของต่างๆ รอบตัวเราถูกเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ สำหรับผู้ประกอบการ นี่คือขุมทรัพย์ของข้อมูลและโอกาสทางธุรกิจมหาศาล ลองนึกภาพตาม:

• ธุรกิจค้าปลีก: ใช้เซ็นเซอร์ IoT เพื่อนับจำนวนคนในร้าน วิเคราะห์พฤติกรรมการเดินของลูกค้า และส่งโปรโมชันส่วนบุคคลไปยังสมาร์ทโฟนของพวกเขาได้ทันที
• ธุรกิจโลจิสติกส์: ติดตั้ง GPS และเซ็นเซอร์บนรถขนส่ง เพื่อติดตามตำแหน่ง อุณหภูมิ และสถานะของสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ลดความเสียหายและเพิ่มประสิทธิภาพ
• ธุรกิจการเกษตร (Smart Farming): ใช้โดรนและเซ็นเซอร์ในดินเพื่อวิเคราะห์ความชื้นและสารอาหาร ทำให้สามารถให้น้ำและปุ๋ยได้อย่างแม่นยำ เพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน

การเข้าใจหลักการทำงานของ IoT จะช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นช่องทางในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด

2. Cloud Computing: พลังการประมวลผลไร้ขีดจำกัดสำหรับธุรกิจทุกขนาด

ในอดีต การจะเริ่มต้นธุรกิจที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงหมายถึงการลงทุนมหาศาลไปกับเซิร์ฟเวอร์และโครงสร้างพื้นฐาน แต่ Cloud Computing ได้เข้ามาทลายกำแพงนั้นลงอย่างสิ้นเชิง Cloud คือการให้บริการทรัพยากรคอมพิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูล, พลังการประมวลผล, หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ

ข้อดีสำหรับผู้ประกอบการคือ:

• ลดต้นทุน: จ่ายเท่าที่ใช้ ไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพง
• ยืดหยุ่นสูง: สามารถเพิ่มหรือลดขนาดทรัพยากรได้ตามการเติบโตของธุรกิจ
• เข้าถึงได้ทุกที่: ทำงานและเข้าถึงข้อมูลของบริษัทได้จากทุกที่ทั่วโลกที่มีอินเทอร์เน็ต

การมีความรู้ด้าน Cloud จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Startup และ SMEs ในปัจจุบัน องค์ความรู้เกี่ยวกับ Cloud Computing เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล

3. AI (Artificial Intelligence): ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการตัดสินใจที่เฉียบคม

AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือเทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถคิด วิเคราะห์ และเรียนรู้ได้คล้ายมนุษย์ AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจในหลากหลายมิติ:

• การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics): AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลเพื่อหาแนวโน้ม (Trend) และพฤติกรรมที่ซ่อนอยู่ ช่วยให้วางแผนการตลาดได้อย่างแม่นยำ
• การบริการลูกค้า: แชทบอท (Chatbot) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถตอบคำถามพื้นฐานของลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระงานของพนักงาน
• การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: AI สามารถทำนายช่วงเวลาที่เครื่องจักรอาจขัดข้อง (Predictive Maintenance) ช่วยให้วางแผนซ่อมบำรุงล่วงหน้าได้

ผู้ประกอบการที่สามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้ จะสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างเฉียบคมบนพื้นฐานของข้อมูลจริง สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้อย่างยั่งยืน

หลักสูตรคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม สร้างผู้ประกอบการยุคดิจิทัลอย่างไร?

ที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เราเข้าใจดีว่าความรู้ทางธุรกิจแบบดั้งเดิมเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป หลักสูตรของเราจึงถูกออกแบบมาเพื่อหลอมรวมองค์ความรู้ด้านการจัดการ การตลาด การเงิน เข้ากับทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่จำเป็นเหล่านี้อย่างลงตัว

การเลือกสถาบันการศึกษาที่ใช่ คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล และ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตของคุณ (ดูรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมที่นี่)