5 ธุรกิจสายกรีนยอดนิยมปี 2025 ที่นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุมควรจับตามอง

โลกกำลังเปลี่ยนไป เทรนด์ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Business) ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือทางรอด! สำหรับนักศึกษาที่มีวิสัยทัศน์จาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม การมองเห็นโอกาสในกระแสสีเขียวนี้ คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในอนาคต

กระแส ESG (Environmental, Social, and Governance) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจทั่วโลก ผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจในที่มาของสินค้าและบริการมากขึ้น และพร้อมสนับสนุนแบรนด์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่จะศึกษาและเตรียมความพร้อมเข้าสู่สมรภูมินี้ วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก 5 เทรนด์ธุรกิจสายกรีนที่น่าจับตามองในปี 2025 และปีต่อๆ ไป

1. ธุรกิจพลังงานสะอาดและโซลูชันการประหยัดพลังงาน (Clean Energy & Energy-Saving Solutions)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าพลังงานคือหัวใจของทุกธุรกิจ แต่ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ธุรกิจพลังงานสะอาดกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ไม่ว่าจะเป็นการรับติดตั้งโซลาร์เซลล์สำหรับบ้านและโรงงาน, ธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger), หรือการเป็นผู้ให้บริการตรวจสอบและให้คำปรึกษาด้านการประหยัดพลังงาน (Energy Audit) สำหรับองค์กรต่างๆ องค์ความรู้ด้านการเงินและการตลาดจาก คณะบริหารธุรกิจ จะช่วยให้สามารถวางโมเดลธุรกิจที่คุ้มค่าต่อการลงทุนและสร้างผลกำไรในระยะยาวได้

2. ธุรกิจเกษตรกรรมยั่งยืนและอาหารแห่งอนาคต (Sustainable Agriculture & Future Food)

เทรนด์สุขภาพและการใส่ใจในแหล่งที่มาของอาหาร ทำให้ธุรกิจเกษตรอินทรีย์, ฟาร์มแนวตั้ง (Vertical Farming) ในเมือง, และอาหาร Plant-based ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม สามารถนำความรู้ด้านซัพพลายเชนมาสร้างแพลตฟอร์มเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรกับผู้บริโภคโดยตรง (Farm-to-Table), พัฒนาแบรนด์อาหารออร์แกนิก, หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากโปรตีนทางเลือก ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีช่องว่างให้เติบโตอีกมหาศาล

3. ธุรกิจ Upcycling และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

จาก “ขยะ” สู่ “ของมีค่า” คือแนวคิดหลักของธุรกิจ Upcycling ที่เปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น แฟชั่นจากขวดพลาสติก, เฟอร์นิเจอร์จากไม้พาเลท, หรือการสร้างแพลตฟอร์มเช่า-ยืมสินค้าเพื่อลดการบริโภคที่ไม่จำเป็น โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนนี้ต้องการความคิดสร้างสรรค์ผนวกกับทักษะการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้เรียนรู้และฝึกฝน เพื่อสร้างธุรกิจที่ไม่เพียงสร้างกำไร แต่ยังช่วยลดปริมาณขยะให้กับโลกอีกด้วย

4. ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม (Ecotourism)

นักท่องเที่ยวยุคใหม่มองหาประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมายมากกว่าแค่การไปถ่ายรูปตามแลนด์มาร์ค ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เน้นการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ, เคารพวิถีชีวิตชุมชน, และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจึงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดทัวร์เดินป่า, โฮมสเตย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, หรือกิจกรรม Workshop เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น การบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคือศาสตร์ที่นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ สามารถนำไปต่อยอดได้อย่างดีเยี่ยม

5. ที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน: โอกาสทองของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ

เมื่อทุกองค์กรต้องปรับตัวเข้าสู่มาตรฐานความยั่งยืน จึงเกิดความต้องการ “ที่ปรึกษา” ที่มีความรู้ความเข้าใจในการวางกลยุทธ์ ESG, การจัดทำรายงานความยั่งยืน (Sustainability Report), การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์, และการสื่อสารการตลาดสีเขียว (Green Marketing) นี่คือโอกาสทองสำหรับบัณฑิตจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่จะใช้ความรู้ด้านการบริหารจัดการมาประยุกต์ใช้ในสายงานเฉพาะทางที่มีความต้องการสูงและให้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยม

อนาคตของโลกธุรกิจอยู่ในมือของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในความยั่งยืน และ มหาวิทยาลัยศรีปทุม พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างผู้นำทางธุรกิจที่จะเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น