ถอดรหัสความสำเร็จ! ทำไมคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ถึงปั้นนักบริหารยุคใหม่ด้วยแนวคิด Agile
ในโลกธุรกิจที่หมุนเร็วจนแทบตามไม่ทัน การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่คือสภาวะปกติที่ทุกองค์กรต้องเผชิญหน้า ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หรือวิกฤตการณ์ที่ไม่คาดฝัน การบริหารจัดการแบบดั้งเดิมที่เน้นแผนระยะยาวและขั้นตอนที่ตายตัวอาจไม่สามารถตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ได้อีกต่อไป นี่คือจุดที่แนวคิดการบริหารแบบ “Agile” เข้ามามีบทบาทสำคัญ และเป็นเหตุผลหลักที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) เลือกที่จะผสานปรัชญานี้เข้าเป็นแก่นของหลักสูตร เพื่อสร้างบัณฑิตที่พร้อมรับมือกับโลกแห่งความจริง
สารบัญเนื้อหา
Agile คืออะไร? ทำไมถึงไม่ใช่แค่เรื่องของโปรแกรมเมอร์
หลายคนอาจคุ้นเคยกับคำว่า Agile ในแวดวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ในปัจจุบัน แนวคิดนี้ได้ขยายขอบเขตมาสู่การบริหารจัดการองค์กรในทุกมิติ หัวใจของ Agile คือ “ความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว” แทนที่จะวางแผนใหญ่ครั้งเดียวแล้วทำตามไปจนจบ (Waterfall Model) การทำงานแบบ Agile จะแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อยๆ ที่เรียกว่า “Sprint” ซึ่งมีระยะเวลาสั้นๆ (เช่น 2-4 สัปดาห์) และในทุกๆ Sprint จะมีการส่งมอบงานที่ใช้งานได้จริง เพื่อรับ Feedback และนำไปปรับปรุงในรอบถัดไป
หลักการสำคัญของ Agile ประกอบด้วย:
- เน้นการทำงานร่วมกัน: ทีมงานและลูกค้าต้องสื่อสารกันอย่างใกล้ชิดตลอดโครงการ
- พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง: มองว่าการเปลี่ยนแปลงคือโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า
- ส่งมอบงานอย่างสม่ำเสมอ: สร้างคุณค่าให้ลูกค้าเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
- เรียนรู้และปรับปรุง: ทีมจะทบทวนการทำงานของตัวเองอยู่เสมอเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น
ด้วยแนวทางนี้ องค์กรจึงสามารถลดความเสี่ยงจากการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงใจตลาด สามารถปรับทิศทางได้ทันทีเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้บริหารในศตวรรษที่ 21 สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาหลักการดั้งเดิม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Agile Manifesto ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
เจาะลึกหลักสูตร! คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม กับการนำ Agile มาปรับใช้
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ไม่ได้สอน Agile แค่ในเชิงทฤษฎี แต่ได้ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ทั้งหมดให้สอดคล้องกับปรัชญานี้ โดยเฉพาะใน สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ที่เน้นการสร้าง “ผู้ประกอบการและนักบริหารมืออาชีพ” ผ่านการเรียนรู้แบบลงมือทำ (Learning by Doing)
การเรียนการสอนที่เน้น Project-Based Learning
นักศึกษาจะได้ทำงานกลุ่มในโครงการจริงตลอดหลักสูตร ซึ่งจำลองการทำงานแบบ Sprint ในโลกธุรกิจ พวกเขาต้องวางแผน, ลงมือทำ, นำเสนอผลงาน, รับฟีดแบ็กจากอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจากภาคอุตสาหกรรม แล้วนำกลับไปปรับปรุงแก้ไข กระบวนการนี้ทำให้นักศึกษาได้ฝึกฝนทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การทำงานเป็นทีม และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานแบบ Agile
เรียนรู้จากตัวจริง ประสบการณ์จริง
ทาง คณะบริหารธุรกิจ ได้เชิญวิทยากรและผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำที่ใช้ Agile จนประสบความสำเร็จ มาแบ่งปันกรณีศึกษาและจัด Workshop ให้นักศึกษาได้สัมผัสกับโจทย์ทางธุรกิจจริงๆ ทำให้นักศึกษาของ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ไม่เพียงเข้าใจทฤษฎี แต่ยังเห็นภาพการนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงอีกด้วย
บัณฑิต SPU ที่จบจากสาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ได้เปรียบอย่างไร?
การฝัง DNA ของ Agile เข้าไปในหลักสูตร ทำให้บัณฑิตจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีความพร้อมและโดดเด่นในตลาดแรงงานอย่างมาก พวกเขามีคุณสมบัติที่องค์กรยุคใหม่ต้องการ:
- มี Mindset ที่ยืดหยุ่น: ไม่ยึดติดกับแผนเดิมๆ พร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- แก้ปัญหาเก่ง: คุ้นเคยกับการเจอโจทย์ที่ไม่คาดคิดและสามารถหาทางออกได้อย่างสร้างสรรค์
- ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีเยี่ยม: เข้าใจพลวัตของทีมและสามารถสื่อสารเพื่อขับเคลื่อนโครงการไปข้างหน้าได้
- เป็นนักลงมือทำ: ไม่กลัวความล้มเหลว แต่มองว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้เพื่อไปสู่ความสำเร็จ
ทักษะเหล่านี้ทำให้บัณฑิตสามารถเป็นได้ทั้งผู้ประกอบการที่สร้างธุรกิจของตัวเองให้เติบโตในสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน หรือเป็นบุคลากรทรงคุณค่าที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรขนาดใหญ่ให้ก้าวทันโลกได้ การเลือกศึกษาต่อที่ สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ จึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่พร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เส้นทางสู่ความสำเร็จของนักศึกษาและศิษย์เก่า SPU เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: การบริหารแบบ Agile เหมาะสำหรับธุรกิจประเภทเทคโนโลยีเท่านั้นใช่หรือไม่?
A: ไม่ใช่เลยครับ ในอดีต Agile อาจเริ่มต้นในวงการซอฟต์แวร์ แต่ปัจจุบันได้ถูกนำไปปรับใช้ในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่การตลาด (Agile Marketing), การพัฒนาผลิตภัณฑ์, การบริหารทรัพยากรบุคคล (Agile HR) ไปจนถึงธุรกิจบริการและการผลิต เพราะหัวใจของมันคือการสร้างความคล่องตัวและตอบสนองลูกค้าได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องการ
Q2: หลักสูตรของ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร?
A: ความแตกต่างที่ชัดเจนคือการเน้น “การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง” ในสภาพแวดล้อมที่จำลองการทำงานแบบ Agile เราไม่ได้สอนแค่ทฤษฎีในตำรา แต่ให้นักศึกษาได้ “เป็น” นักบริหารที่คล่องตัว ผ่านโปรเจกต์จริง, Case Study จากบริษัทชั้นนำ, และการได้รับคำแนะนำจากตัวจริงในวงการ ทำให้บัณฑิตของเรามีทั้งความรู้และทักษะที่พร้อมใช้งานได้ทันทีเมื่อจบการศึกษา
Q3: หากไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่อง Agile มาก่อน จะสามารถเรียนในสาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ได้หรือไม่?
A: ได้อย่างแน่นอนครับ หลักสูตรถูกออกแบบมาสำหรับทุกคน โดยจะเริ่มปูพื้นฐานแนวคิด Agile และเครื่องมือต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้น และค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนผ่านการทำโปรเจกต์ในแต่ละชั้นปี อาจารย์ผู้สอนพร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ขอเพียงมีความมุ่งมั่นตั้งใจและพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็สามารถประสบความสำเร็จในหลักสูตรนี้ได้
สรุปได้ว่า การที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เลือกแนวทาง Agile มาเป็นแกนหลักใน สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ คือวิสัยทัศน์ที่มองขาดถึงความต้องการของโลกธุรกิจอนาคต เป็นการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาไม่ใช่แค่ “รู้” แต่ต้อง “ทำเป็น” และ “ปรับตัวได้” เพื่อก้าวไปเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง