แนวทางการพัฒนา Adaptability Skills สำหรับการบริหารทีม Hybrid Workplace ในคณะบริหารธุรกิจ

แนวทางการพัฒนา Adaptability Skills สำหรับการบริหารทีม Hybrid Workplace ในคณะบริหารธุรกิจ

ติดปีกทักษะ Adaptability: บริหารทีม Hybrid Workplace อย่างไรให้เวิร์ค! ฉบับคณะบริหารธุรกิจ

โลกหลังยุคโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การทำงานไปอย่างสิ้นเชิง รูปแบบ Hybrid Workplace ที่ผสมผสานการทำงานที่ออฟฟิศและทางไกล (Remote Work) ได้กลายเป็น New Normal ขององค์กรสมัยใหม่ แต่ความยืดหยุ่นนี้ก็มาพร้อมกับความท้าทายใหม่ๆ สำหรับผู้บริหารทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบัณฑิตและบุคลากรจาก คณะบริหารธุรกิจ ที่ต้องก้าวไปเป็นผู้นำในอนาคต ทักษะที่สำคัญที่สุดในการนำทางความเปลี่ยนแปลงนี้คือ ทักษะการปรับตัว (Adaptability Skills) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่หลักสูตรอย่าง สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ให้ความสำคัญ

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงแนวทางการพัฒนาทักษะการปรับตัว เพื่อบริหารทีมในยุค Hybrid Workplace ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยอ้างอิงถึงองค์ความรู้ที่จำเป็นสำหรับนักศึกษาและผู้ที่สนใจในแวดวงบริหารธุรกิจ

Adaptability Skills คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญในยุค Hybrid

Adaptability Skills หรือ ทักษะการปรับตัว ไม่ได้หมายถึงแค่การ “ทน” กับการเปลี่ยนแปลง แต่คือความสามารถในการ “ตอบสนอง” และ “เติบโต” ท่ามกลางสถานการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก:

  • ความยืดหยุ่นทางความคิด (Cognitive Flexibility): ความสามารถในการปรับเปลี่ยนมุมมอง วิธีคิด และละทิ้งความเชื่อเดิมๆ เพื่อเปิดรับแนวทางใหม่
  • ความยืดหยุ่นทางอารมณ์ (Emotional Resilience): ความสามารถในการจัดการกับความเครียด ความไม่แน่นอน และความผิดหวัง พร้อมลุกขึ้นสู้ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
  • ความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ (Learning Agility): ความปรารถนาที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานอยู่เสมอ

สำหรับผู้จัดการทีม Hybrid Workplace ทักษะนี้ยิ่งทวีความสำคัญ เพราะต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งการสื่อสารที่ซับซ้อนขึ้น การรักษาวัฒนธรรมองค์กร การสร้างความเท่าเทียมระหว่างพนักงานที่เข้าออฟฟิศและทำงานทางไกล และการใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย ซึ่งล้วนต้องการผู้นำที่พร้อมปรับตัวอยู่ตลอดเวลา

5 กลยุทธ์พัฒนาทักษะการปรับตัวสำหรับผู้นำในคณะบริหารธุรกิจ

การพัฒนาทักษะการปรับตัวไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ แต่เป็นสิ่งที่ฝึกฝนได้ โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่กำลังเตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงานจริง สามารถเริ่มต้นได้ด้วย 5 กลยุทธ์นี้

1. สร้าง Growth Mindset: มองทุกอุปสรรคคือโอกาส

เปลี่ยนมุมมองจาก “ฉันทำไม่ได้” เป็น “ฉันจะลองเรียนรู้ที่จะทำมันได้อย่างไร” ผู้นำที่มี Growth Mindset จะมองว่าความท้าทายคือบททดสอบที่ช่วยให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น และมองความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งเป็นทัศนคติที่สำคัญอย่างยิ่งในการบริหารทีม Hybrid ที่มักเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดเสมอ

2. ฝึกฝนการสื่อสารที่ยืดหยุ่นและเข้าอกเข้าใจ (Empathetic Communication)

ในทีม Hybrid การสื่อสารต้องชัดเจนและหลากหลายกว่าเดิม ผู้นำต้องปรับวิธีการสื่อสารให้เหมาะกับแต่ละช่องทาง (เช่น Email, Slack, Zoom) และที่สำคัญคือต้องมีความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) รับฟังปัญหาของทีมงานทั้งที่อยู่ต่อหน้าและผ่านหน้าจอ เพื่อสร้างความไว้วางใจและความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม

3. เป็นนักทดลองและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ (Tech-Savvy)

เครื่องมือดิจิทัลคือหัวใจของการทำงานแบบ Hybrid ผู้นำที่ปรับตัวได้ดีจะไม่กลัวเทคโนโลยี แต่จะเปิดใจทดลองใช้เครื่องมือใหม่ๆ ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันราบรื่นขึ้น เช่น โปรแกรมบริหารโปรเจกต์ (Asana, Trello) หรือแพลตฟอร์มสำหรับการระดมสมองออนไลน์ (Miro)

4. เปลี่ยนจากการควบคุม (Controlling) สู่การให้อำนาจ (Empowering)

การบริหารทีม Hybrid ไม่สามารถใช้การจับตาดูตลอดเวลาได้อีกต่อไป ผู้นำต้องปรับตัวโดยการสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ (Trust Culture) มอบหมายงานโดยเน้นที่ “ผลลัพธ์” (Result-Oriented) มากกว่า “ชั่วโมงการทำงาน” และให้อิสระแก่ทีมในการจัดการเวลาและวิธีการทำงานของตนเอง

5. เปิดรับฟีดแบคและเรียนรู้ตลอดชีวิต (Feedback & Lifelong Learning)

โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ผู้นำที่เก่งคือผู้ที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้ จงกล้าขอฟีดแบคจากทีมงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อนำมาปรับปรุงตัวเอง และแสวงหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ ดังที่ Harvard Business Review ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเรียนรู้และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การบริหารทีม Hybrid อย่างต่อเนื่อง

กรณีศึกษา: การประยุกต์ใช้ในหลักสูตร สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่

สถาบันการศึกษาชั้นนำอย่าง มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้เล็งเห็นความสำคัญของทักษะเหล่านี้ โดยใน คณะบริหารธุรกิจ โดยเฉพาะหลักสูตร สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ได้มีการออกแบบการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการสร้างบัณฑิตที่มี Adaptability Skills สูง

  • Project-Based Learning: ให้นักศึกษาได้ลงมือทำโปรเจกต์จริง ที่ต้องเผชิญกับปัญหาและการเปลี่ยนแปลงที่ต้องแก้ไขเฉพาะหน้า
  • การใช้เทคโนโลยีในการเรียน: ส่งเสริมการใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับการทำงานกลุ่มและการนำเสนอผลงาน เพื่อสร้างความคุ้นเคยเหมือนการทำงานจริง
  • วิชาที่เน้น Soft Skills: บูรณาการการสอนทักษะการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำเข้าไปในทุกรายวิชา

สิ่งเหล่านี้คือการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาจาก คณะบริหารธุรกิจ ไม่เพียงแต่มีความรู้ในตำรา แต่ยังมีทักษะที่พร้อมปรับตัวเข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่ที่ไม่มีอะไรแน่นอน

สรุป: ก้าวสู่การเป็นผู้นำที่พร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง

การบริหารทีม Hybrid Workplace ให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวของผู้นำเป็นสำคัญ Adaptability Skills จึงไม่ใช่แค่ “ทักษะเสริม” อีกต่อไป แต่เป็น “ทักษะหลัก” ที่ผู้นำทุกคนต้องมี การเริ่มต้นฝึกฝนตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะสำหรับบุคลากรในสายงานบริหารธุรกิจ จะเป็นใบเบิกทางสำคัญสู่อนาคตการทำงานที่ยั่งยืนและประสบความสำเร็จในทุกสถานการณ์

Q&A: คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q
เราจะวัดผลทักษะการปรับตัว (Adaptability) ของคนในทีมได้อย่างไร?

A: สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมหลายอย่าง เช่น ความเร็วในการเรียนรู้ระบบหรือโปรแกรมใหม่ๆ, การเสนอตัวเข้าร่วมโปรเจกต์ที่ไม่คุ้นเคย, การตอบสนองต่อฟีดแบคเชิงลบอย่างสร้างสรรค์, และความสามารถในการหาทางออกเมื่อแผนเดิมไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แทนที่จะรอคำสั่งเพียงอย่างเดียว

Q
ข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของผู้จัดการในการบริหารทีม Hybrid คืออะไร?

A: คือการมี “อคติจากความใกล้ชิด” (Proximity Bias) ซึ่งหมายถึงการให้ความสำคัญหรือประเมินผลงานของคนที่เข้าออฟฟิศดีกว่าคนที่ทำงานทางไกลโดยไม่รู้ตัว สิ่งนี้สร้างความไม่เท่าเทียมและทำลายขวัญกำลังใจของทีมได้ ผู้นำที่ปรับตัวได้ดีต้องตระหนักและสร้างมาตรฐานการประเมินผลงานที่วัดจากผลลัพธ์เป็นหลัก ไม่ใช่จากสถานที่ทำงาน

Q
หลักสูตรของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ช่วยพัฒนาทักษะนี้โดยตรงเลยหรือไม่?

A: ใช่ครับ โดยเฉพาะในหลักสูตรอย่าง สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง (Active Learning) การแก้ปัญหาจากกรณีศึกษาปัจจุบัน และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างบัณฑิตที่มีทักษะพร้อมปรับตัวและเป็นผู้นำในโลกธุรกิจยุคใหม่อย่างแท้จริง

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn

Most Popular

Categories