ถอดรหัส Work-Life Balance: กลยุทธ์บริหารทีมยุคใหม่ฉบับ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ในโลกธุรกิจที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว คำว่า “Work-Life Balance” ไม่ใช่แค่กระแส แต่คือหัวใจสำคัญที่กำหนดความสำเร็จขององค์กรและคุณภาพชีวิตของทีมงาน การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้กลายเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับผู้นำยุคใหม่ ที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยเฉพาะในสาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ เราไม่ได้มองสิ่งนี้เป็นเพียงทฤษฎี แต่คือทักษะจำเป็นที่บัณฑิตทุกคนต้องมีติดตัวเพื่อก้าวไปเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จและสร้างทีมที่ยั่งยืน
สารบัญ
1. ทำไม Work-Life Balance จึงสำคัญกว่าที่เคยในยุคดิจิทัล?
เทคโนโลยีทำให้เราทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน เส้นแบ่งระหว่าง “เวลาทำงาน” และ “เวลาส่วนตัว” เริ่มเลือนหายไป การเชื่อมต่อตลอด 24 ชั่วโมงนำไปสู่ภาวะหมดไฟ (Burnout) ความเครียดสะสม และส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและความผูกพันต่อองค์กร
องค์กรสมัยใหม่จึงตระหนักว่า การส่งเสริม Work-Life Balance ไม่ใช่แค่การดูแลพนักงาน แต่คือ การลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ (Talent Retention) เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผู้นำที่สำเร็จการศึกษาจาก คณะบริหารธุรกิจ ต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
2. กลยุทธ์จากสาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ เพื่อสร้างทีมที่สมดุลและทรงพลัง
การบริหารจัดการทีมในปัจจุบันต้องอาศัยมากกว่าแค่การสั่งงานและติดตามผล แต่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการเข้าใจมนุษย์ หลักสูตรของ สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงได้ออกแบบกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์โลกธุรกิจยุคใหม่ ดังนี้:
- การบริหารงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Management): ส่งเสริมรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย เช่น Hybrid Work หรือ Flexible Hours เพื่อให้ทีมงานสามารถจัดสรรเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวได้อย่างลงตัวที่สุด โดยเน้นการวัดผลจากผลลัพธ์ของงาน (Result-Oriented) ไม่ใช่จำนวนชั่วโมงที่นั่งในออฟฟิศ
- การสร้างความปลอดภัยทางใจ (Psychological Safety): ผู้นำต้องสร้างบรรยากาศที่ทีมงานกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าลองผิดลองถูก และกล้าพูดคุยเรื่องปัญหาส่วนตัวที่อาจกระทบต่องานโดยไม่กลัวว่าจะถูกตัดสิน สิ่งนี้ช่วยลดความเครียดและสร้างความไว้วางใจในทีม
- การใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด (Smart Technology Adoption): สอนให้รู้จักเลือกใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น ไม่ใช่ใช้เทคโนโลยีเพื่อควบคุมหรือติดตามทีมงานตลอดเวลา ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เน้นย้ำ
- การสื่อสารที่เน้นความเข้าอกเข้าใจ (Emphatic Communication): ผู้นำยุคใหม่ต้องมีทักษะการฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) และสื่อสารอย่างเข้าอกเข้าใจ เพื่อให้รับรู้ถึงความต้องการและปัญหาของทีมงานได้อย่างแท้จริง
“ผู้นำที่ยอดเยี่ยมในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้สร้างผู้ตาม แต่สร้างผู้นำคนต่อไป และการสอนให้พวกเขาบริหารชีวิตของตัวเองได้ คือบทเรียนแรกที่สำคัญที่สุด”
3. คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม สร้างผู้นำที่เข้าใจสมดุลชีวิตได้อย่างไร?
ที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) เราเชื่อว่าการสร้างผู้นำที่มีคุณภาพต้องเริ่มต้นจากการเรียนรู้ที่นำไปใช้ได้จริง คณะบริหารธุรกิจ ของเราจึงโดดเด่นด้วยแนวทางการสอนที่เน้นการลงมือทำและเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง:
- เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง: เราเชิญผู้บริหารและผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการสร้าง Work-Life Balance ในองค์กร มาแบ่งปันประสบการณ์และกลยุทธ์จริงให้นักศึกษาใน สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ได้เรียนรู้
- Case Study จากองค์กรชั้นนำ: นักศึกษาจะได้วิเคราะห์กรณีศึกษาจากบริษัทระดับโลกที่นำนโยบาย Work-Life Balance มาใช้จนประสบความสำเร็จ เพื่อทำความเข้าใจถึงข้อดี ความท้าทาย และแนวทางการปรับใช้
- Project-Based Learning: นักศึกษาจะได้ลงมือวางแผนและจำลองการสร้างนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่นสำหรับองค์กรสมมติ เพื่อฝึกฝนทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์และการบริหารจัดการคน
- เน้นทักษะรอบด้าน (Soft Skills): นอกเหนือจากความรู้ด้านบริหารธุรกิจ เรายังเน้นการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร, ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ), และการเป็นผู้นำที่เข้าอกเข้าใจ ซึ่งเป็นหัวใจของการบริหารทีมสมัยใหม่
บัณฑิตจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงไม่ได้มีแค่ความรู้ทางวิชาการ แต่ยังมี “หัวใจ” ของการเป็นผู้นำที่พร้อมจะสร้างทีมที่แข็งแกร่งและมีความสุขไปพร้อมกัน อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หลักสูตรคณะบริหารธุรกิจ เพื่อค้นพบเส้นทางสู่การเป็นผู้นำยุคใหม่
การศึกษาจาก Harvard Business Review ยืนยันว่าการทำงานล่วงเวลาเป็นเวลานานส่งผลเสียต่อทั้งพนักงานและบริษัทในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาการสอนของเราที่เน้นการทำงานอย่างชาญฉลาด (Work Smart) ไม่ใช่แค่ทำงานหนัก (Work Hard)
4. คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการบริหารทีมและ Work-Life Balance
Q1: การเรียนที่ สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ จะช่วยให้เป็นผู้จัดการที่ดีขึ้นได้อย่างไร?
หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างผู้จัดการและผู้นำยุคใหม่โดยเฉพาะ คุณจะได้เรียนรู้ทักษะการบริหารคนที่เน้นความเข้าใจ (Empathy) การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ (Data-Driven Decision) การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และ Work-Life Balance ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้จัดการในปัจจุบันและอนาคต
Q2: Work-Life Balance เหมาะกับทุกประเภทธุรกิจหรือไม่?
ใช่ครับ/ค่ะ หลักการของ Work-Life Balance สามารถปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ แต่อาจมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ธุรกิจ Tech Startup อาจเน้นความยืดหยุ่นของเวลาและสถานที่ทำงาน ในขณะที่ธุรกิจโรงงานอาจเน้นการจัดสรรกะการทำงานที่เหมาะสม การสร้างสวัสดิการที่ดี และการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพกายและใจของพนักงาน สิ่งสำคัญคือการค้นหารูปแบบที่เหมาะสมกับบริบทขององค์กรนั้นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม สอนให้นักศึกษารู้จักวิเคราะห์และปรับใช้
Q3: จบจากหลักสูตรนี้แล้ว สามารถประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง?
บัณฑิตจาก สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ มีเส้นทางอาชีพที่กว้างขวางมาก สามารถเป็นได้ทั้งผู้จัดการในองค์กร, ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาองค์กร (Organization Development), ที่ปรึกษาทางธุรกิจ, ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR Manager) ยุคใหม่, หรือแม้กระทั่งนำความรู้ไปต่อยอดเป็นผู้ประกอบการที่สามารถสร้างและบริหารทีมของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
การสร้างผู้นำที่เข้าใจทั้ง “งาน” และ “ชีวิต” คือภารกิจของเราที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงและสร้างอนาคตของโลกธุรกิจไปกับเรา