5 เทคนิคบริหารเงินเดือนแนวธุรกิจสมัยใหม่จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

5 เทคนิคบริหารเงินเดือนแนวธุรกิจสมัยใหม่จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

เปลี่ยนเงินเดือนให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่ง ด้วยหลักการบริหารจัดการที่เฉียบคม ประยุกต์ความรู้จาก สาขาบริหารธุรกิจ สู่การเงินส่วนบุคคลที่แข็งแกร่ง

ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นและการแข่งขันทางเศรษฐกิจรุนแรง การได้รับเงินเดือนในแต่ละเดือนอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความมั่นคงอีกต่อไป แต่กุญแจสำคัญอยู่ที่ “การบริหารจัดการ” เงินก้อนนั้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก 5 เทคนิคการบริหารเงินเดือนสไตล์นักธุรกิจ ที่กลั่นกรองจากองค์ความรู้ของ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็น CEO ของชีวิตการเงินตัวเอง


1. มองเงินเดือนเป็น ‘กระแสเงินสดเข้า’ (Cash Inflow) ของบริษัทชีวิต

ในโลกธุรกิจ “กระแสเงินสด” คือเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงองค์กร หากเรามองชีวิตของเราเป็น “บริษัท” เงินเดือนก็คือ รายรับ หรือ Cash Inflow ก้อนสำคัญที่สุด ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ คือต้นทุนและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Operating Expenses) ส่วนเงินที่เหลือเก็บออมและลงทุนก็คือ “กำไรสุทธิ” (Net Profit) ที่จะนำไปต่อยอดให้บริษัทเติบโต

แนวคิดนี้ซึ่งเป็นพื้นฐานของ สาขาบริหารธุรกิจ ช่วยเปลี่ยนมุมมองจากการเป็นแค่ “ผู้รับเงินเดือน” ไปสู่การเป็น “ผู้จัดการกระแสเงินสด” ทำให้เราใส่ใจกับการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายส่วนตัวมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทชีวิตของเรามีกำไรและสภาพคล่องที่ดีในทุกๆ เดือน

2. จัดทำงบประมาณส่วนบุคคล (Personal Budgeting) แบบมืออาชีพ

ไม่มีบริษัทไหนประสบความสำเร็จได้โดยไม่มีการวางแผนงบประมาณที่ชัดเจน การเงินส่วนบุคคลก็เช่นกัน หลักการที่ได้รับความนิยมคือ กฎ 50/30/20 ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและทรงพลัง:

  • 50% สำหรับรายจ่ายจำเป็น (Needs): ค่าที่พัก, ค่าเดินทาง, ค่าอาหาร, บิลต่างๆ ที่เลี่ยงไม่ได้
  • 30% สำหรับความต้องการ (Wants): ชอปปิง, ท่องเที่ยว, งานอดิเรก, ความบันเทิง
  • 20% สำหรับเป้าหมายทางการเงิน (Financial Goals): การออม, การลงทุน, การชำระหนี้

การมีวินัยในการทำตามงบประมาณ คือทักษะสำคัญที่นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ ต้องฝึกฝน เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากร (เงิน) ถูกจัดสรรไปในทางที่สร้างประโยชน์สูงสุด

3. กระจายความเสี่ยงแบบ Portfolio การลงทุน

ทักษะสำคัญจากคณะบริหารธุรกิจ ที่ใช้ได้จริง

“อย่าใส่ไข่ทุกฟองไว้ในตะกร้าใบเดียว” คือคำกล่าวสุดคลาสสิกในโลกการลงทุน ใน มหาวิทยาลัยศรีปทุม นักศึกษาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสร้าง Portfolio ที่สมดุลเพื่อกระจายความเสี่ยง เราสามารถนำหลักการนี้มาปรับใช้กับเงินออมของเราได้ โดยไม่เก็บเงินทั้งหมดไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำเพียงอย่างเดียว แต่ควรกระจายไปสู่สินทรัพย์ประเภทต่างๆ ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น:

  • ความเสี่ยงต่ำ: เงินฝากประจำ, สลากออมสิน, พันธบัตรรัฐบาล
  • ความเสี่ยงปานกลาง: กองทุนรวมดัชนี (Index Fund), กองทุนรวมผสม
  • ความเสี่ยงสูง: หุ้นรายตัว, คริปโทเคอร์เรนซี (ในสัดส่วนที่น้อย)
  • การลงทุนในตัวเอง: การเรียนคอร์สเสริมทักษะต่างๆ ก็ถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาวเช่นกัน

4. ตั้ง KPI ให้กับเป้าหมายทางการเงิน ไม่ใช่แค่ฝันลอยๆ

ในโลกธุรกิจ เราใช้ Key Performance Indicators (KPIs) เพื่อวัดผลความสำเร็จ การตั้งเป้าหมายทางการเงินก็ควรเป็นเช่นนั้น แทนที่จะพูดว่า “อยากรวย” หรือ “อยากมีเงินเก็บเยอะๆ” ให้เปลี่ยนเป็นเป้าหมายที่วัดผลได้ตามหลัก SMART Goal:

  • S (Specific): เฉพาะเจาะจง – “เก็บเงินดาวน์บ้าน”
  • M (Measurable): วัดผลได้ – “จำนวน 500,000 บาท”
  • A (Achievable): ทำได้จริง – “จากการเก็บเงินเดือนละ 15,000 บาท และโบนัส”
  • R (Relevant): สอดคล้องกับเป้าหมายชีวิต – “เพื่อสร้างครอบครัว”
  • T (Time-bound): มีกรอบเวลา – “ภายใน 3 ปี”

การตั้งเป้าหมายแบบนี้ทำให้เรามีทิศทางที่ชัดเจนและสามารถติดตามความคืบหน้าได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นทักษะการบริหารจัดการที่สำคัญที่ปลูกฝังใน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

สนใจเรียนรู้หลักการบริหารจัดการที่ทันสมัยและนำไปใช้ได้จริงใช่ไหม? คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดหลักสูตรสาขาบริหารธุรกิจ และเริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จกับเรา!

5. Audit การเงินส่วนตัวเป็นประจำ เพื่อการพัฒนาที่ไม่สิ้นสุด

บริษัทที่ดีจะมีการตรวจสอบ (Audit) งบการเงินและผลการดำเนินงานเป็นประจำ เพื่อหาจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุง การเงินส่วนบุคคลก็ควรทำเช่นกัน! กำหนดวัน “Audit Day” ของตัวเอง อาจจะเป็นทุกสิ้นเดือนหรือทุกไตรมาส เพื่อทบทวนสิ่งเหล่านี้:

  • รายจ่ายในเดือนที่ผ่านมาเป็นไปตามงบประมาณหรือไม่?
  • มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่สามารถลดได้อีก?
  • การลงทุนให้ผลตอบแทนเป็นอย่างไร? ต้องปรับพอร์ตหรือไม่?
  • เป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้มีความคืบหน้าแค่ไหน?

การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เราปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงทีและไม่หลุดออกจากเส้นทางสู่ความสำเร็จทางการเงิน

บทสรุป: สร้างความมั่งคั่งด้วยความรู้จากคณะบริหารธุรกิจ

การบริหารเงินเดือนไม่ใช่แค่เรื่องของการประหยัด แต่คือการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ การนำหลักการจาก สาขาบริหารธุรกิจ มาปรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นการมองภาพรวมแบบกระแสเงินสด การวางแผนงบประมาณ การกระจายความเสี่ยง การตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ และการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ จะเปลี่ยนเงินเดือนของคุณให้กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างความมั่นคงและความมั่งคั่งในระยะยาว ความรู้เหล่านี้คือสิ่งที่บัณฑิตจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้รับติดตัวไป เพื่อพร้อมเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จทั้งในองค์กรและในชีวิตส่วนตัว

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn

Most Popular

Categories