สร้างแผนการออมและลงทุนด้วยหลักการบริหารธุรกิจจากสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

สร้างแผนการออมและลงทุนสู่ความสำเร็จ ด้วยหลักการจากสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

1. มองตัวเองเป็น “บริษัท” จุดเริ่มต้นของการบริหารการเงินส่วนบุคคล

หัวใจสำคัญของการบริหารธุรกิจคือการทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ลองเปลี่ยนมุมมองว่าตัวคุณคือ “บริษัท ฉัน จำกัด” (Me, Inc.) ที่มีเป้าหมายคือความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว เงินเดือนหรือรายได้ของคุณก็คือ “รายรับ” ค่าใช้จ่ายต่างๆ คือ “ต้นทุน” และเงินออมคือ “กำไร” ที่จะนำไป “ลงทุนต่อยอด” เพื่อให้บริษัทของคุณเติบโต

เมื่อคุณเริ่มคิดแบบนี้ การตัดสินใจทางการเงินของคุณจะเปลี่ยนไป คุณจะเริ่มมองหา “โอกาส” ในการเพิ่มรายได้ มองหา “ช่องทาง” ในการลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น และวาง “กลยุทธ์” เพื่อให้กำไร (เงินออม) ของคุณงอกเงยสูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้คือทักษะพื้นฐานที่นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ ทุกคนต้องเรียนรู้

2. 4 ขั้นตอนสร้างแผนการเงิน ด้วยเครื่องมือจากคณะบริหารธุรกิจ

ต่อไปนี้คือ 4 เครื่องมือเชิงกลยุทธ์จากโลกธุรกิจ ที่คุณสามารถนำมาปรับใช้กับแผนการเงินส่วนตัวได้ทันที

2.1 วิเคราะห์สถานะการเงินด้วย SWOT Analysis

ก่อนจะวางแผนใดๆ เราต้องรู้สถานะปัจจุบันของ “บริษัท” เราเสียก่อน SWOT Analysis เป็นเครื่องมือคลาสสิกที่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองใน 4 มิติ

  • Strengths (จุดแข็ง): คุณมีทักษะอะไรที่สร้างรายได้? มีวินัยในการออมหรือไม่? มีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินหรือยัง?
  • Weaknesses (จุดอ่อน): มีหนี้สินเยอะไหม? ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือไม่? ขาดความรู้เรื่องการลงทุน?
  • Opportunities (โอกาส): มีโอกาสปรับขึ้นเงินเดือนหรือไม่? มีช่องทางหารายได้เสริมไหม? มีเทรนด์การลงทุนใหม่ๆ ที่น่าสนใจ?
  • Threats (อุปสรรค): ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ? ภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต? ความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ?

Tip: การทำ SWOT จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและสามารถวางแผนเพื่อเสริมจุดแข็ง ลดจุดอ่อน คว้าโอกาส และป้องกันความเสี่ยงได้อย่างตรงจุด

2.2 ตั้งเป้าหมายแบบ SMART Goals

บริษัทที่ไม่มีเป้าหมายก็เหมือนเรือที่ไร้หางเสือ การเงินส่วนบุคคลก็เช่นกัน หลักการตั้งเป้าหมายแบบ SMART ที่ใช้กันใน สาขาบริหารธุรกิจ จะช่วยให้เป้าหมายของคุณชัดเจนและสำเร็จได้จริง

  • S – Specific (เฉพาะเจาะจง): “จะเก็บเงินซื้อบ้าน” (ไม่ดี) vs “จะเก็บเงิน 500,000 บาทเพื่อเป็นเงินดาวน์บ้าน” (ดี)
  • M – Measurable (วัดผลได้): ตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขที่ชัดเจน
  • A – Achievable (ทำได้จริง): สอดคล้องกับรายได้และความสามารถในการออมของคุณ
  • R – Relevant (เกี่ยวข้อง): เป้าหมายนั้นสำคัญกับชีวิตคุณจริงๆ
  • T – Time-bound (มีกรอบเวลา): “จะเก็บเงินให้ได้ภายใน 3 ปี”

2.3 จัดการกระแสเงินสด (Cash Flow) และทำงบประมาณ

ไม่มีบริษัทไหนอยู่รอดได้ถ้ากระแสเงินสดติดลบ เช่นเดียวกับเรา การทำ “งบรับ-จ่าย” หรือ Budgeting คือการวางแผนการใช้เงินเพื่อให้มี “กำไร” (เงินออม) เหลือในทุกๆ เดือน ลองใช้กฎง่ายๆ อย่าง 50/30/20:

  • 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น: ค่าที่พัก, ค่าเดินทาง, ค่าอาหาร
  • 30% สำหรับความต้องการส่วนตัว: ช้อปปิ้ง, ท่องเที่ยว, สังสรรค์
  • 20% สำหรับการออมและลงทุน: หัวใจสำคัญสู่ความมั่งคั่ง!

2.4 บริหารความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุน (Diversification)

“อย่าใส่ไข่ทุกฟองไว้ในตะกร้าใบเดียว” คือกฎเหล็กของการลงทุน หลักการนี้สอนให้เรารู้จักกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้น, กองทุนรวม, อสังหาริมทรัพย์, ทองคำ เพื่อลดผลกระทบหากสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งมีมูลค่าลดลง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความรู้สำคัญที่ได้จากการเรียน คณะบริหารธุรกิจ ที่เน้นการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลและความเสี่ยง

สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม สร้างนักวางแผนตัวจริงได้อย่างไร?

ที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม หลักสูตรของ คณะบริหารธุรกิจ ไม่ได้สอนแค่ทฤษฎีในตำรา แต่เน้นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง (Learning by Doing) นักศึกษาจะได้ฝึกฝนทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ การวางแผน การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน และการบริหารจัดการ ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งในโลกธุรกิจและชีวิตส่วนตัว

การเรียนรู้จากกรณีศึกษาจริง (Case Study) และการทำโปรเจกต์ต่างๆ ทำให้นักศึกษาเข้าใจว่าทุกการตัดสินใจมีผลกระทบทางการเงินอย่างไร สิ่งนี้ช่วยบ่มเพาะวิธีคิดแบบ “เจ้าของกิจการ” ที่รอบคอบและมองการณ์ไกล ทำให้บัณฑิตที่จบจาก สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีความพร้อมไม่เพียงแค่การทำงานในองค์กร แต่ยังพร้อมที่จะบริหารจัดการ “บริษัทชีวิต” ของตัวเองให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย

การสร้างแผนการออมและลงทุนไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับทุกคน การนำหลักการบริหารจัดการจาก คณะบริหารธุรกิจ มาปรับใช้ จะช่วยให้คุณมีแผนการเงินที่เป็นระบบ มีเป้าหมายที่ชัดเจน และสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและมั่งคั่งให้กับตัวเอง ดังเช่นที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นสร้างบัณฑิตให้เป็นนักบริหารมืออาชีพในทุกมิติของชีวิต

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn

Most Popular

Categories