ถอดบทเรียน ‘China+1’ กับการเตรียมความพร้อมของสาขาธุรกิจระหว่างประเทศ ม.ศรีปทุม ในตลาดอาเซียน
ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กลยุทธ์ “China+1” ได้กลายเป็นเมกะเทรนด์ที่สั่นสะเทือนวงการธุรกิจและการลงทุนทั่วโลก บริษัทข้ามชาติต่างเร่งกระจายความเสี่ยงและย้ายฐานการผลิตออกจากจีน เพื่อมองหา “บ้านหลังที่สอง” ที่มีศักยภาพ และภูมิภาคอาเซียนก็คือจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ที่ได้รับความสนใจ ปรากฏการณ์นี้ได้สร้างทั้งโอกาสและความท้าทายครั้งใหญ่ และนั่นคือจุดที่สถาบันการศึกษาอย่าง มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยเฉพาะ คณะบริหารธุรกิจ ต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างบุคลากรคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ตลาดแรงงานแห่งอนาคต
สารบัญเนื้อหา
1. ทำความเข้าใจกลยุทธ์ ‘China+1’ และผลกระทบต่ออาเซียน
“China+1” ไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของบริษัทระดับโลก แนวคิดหลักคือ “ไม่ใส่ไข่ทุกฟองไว้ในตะกร้าใบเดียว” โดยนอกจากการมีฐานการผลิตหลักในประเทศจีนแล้ว บริษัทจะขยายการลงทุนไปยังประเทศที่สอง “บวกหนึ่ง” เพื่อลดการพึ่งพาจีนเพียงแห่งเดียว ปัจจัยเร่งที่ทำให้กลยุทธ์นี้ได้รับความนิยมมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า, การเพิ่มขึ้นของค่าแรงในจีน, ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และการหยุดชะงักของซัพพลายเชนในช่วงโควิด-19
ผลกระทบโดยตรงคือเม็ดเงินลงทุนมหาศาลที่ไหลเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียน ทำให้เกิดความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในด้านการค้าระหว่างประเทศ, โลจิสติกส์, กฎหมายธุรกิจ และความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคนี้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
2. ทำไมอาเซียนถึงเป็น “Plus One” ที่น่าจับตามอง?
ภูมิภาคอาเซียนมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกหันมาสนใจ:
- ที่ตั้งทางยุทธศาสตร์: เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อเส้นทางการค้าที่สำคัญของโลก
- ตลาดขนาดใหญ่: ประชากรรวมกันกว่า 660 ล้านคน พร้อมกำลังซื้อที่เติบโตต่อเนื่อง
- ข้อตกลงทางการค้า: มีกรอบความร่วมมืออย่างประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และ RCEP ที่ช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน
- ทรัพยากรและแรงงาน: มีความหลากหลายของทรัพยากรและแรงงานที่มีทักษะในราคาที่แข่งขันได้
ข้อมูลจาก World Bank ยังคงชี้ให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจระหว่างประเทศในตลาดอาเซียนพุ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
3. การเตรียมความพร้อมของ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ คณะบริหารธุรกิจ
ที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เราสอนให้นักศึกษาเป็น “ตัวจริง”
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้ออกแบบหลักสูตร สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ ให้ตอบรับกับเทรนด์ China+1 และความต้องการของตลาดอาเซียนโดยตรง ผ่านแนวทางการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการสร้างบัณฑิตที่พร้อมใช้งานได้ทันที:
- หลักสูตรที่ทันสมัยและลงลึก: เน้นวิชาที่จำเป็นต่อโลกธุรกิจปัจจุบัน เช่น การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระหว่างประเทศ, การตลาดดิจิทัลข้ามพรมแดน, กฎหมายการค้าระหว่างประเทศ และการเจรจาต่อรองทางธุรกิจในบริบทของความหลากหลายทางวัฒนธรรม
- เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง: คณาจารย์ผู้สอนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจระหว่างประเทศโดยตรง พร้อมถ่ายทอดกรณีศึกษาจริง (Real Case Studies) และจัดกิจกรรมดูงานในบริษัทชั้นนำ เพื่อให้นักศึกษาได้สัมผัสบรรยากาศการทำงานจริง
- เสริมสร้างทักษะดิจิทัลและภาษา: บูรณาการการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นในการทำธุรกิจ พร้อมเน้นทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ (Business English) ซึ่งเป็นภาษากลางในการทำงานระดับนานาชาติ
- เครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง: มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีความร่วมมือกับภาคเอกชนและองค์กรต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกงาน (Internship) และสร้างคอนเนคชันตั้งแต่ยังไม่จบการศึกษา ซึ่งเป็นประตูสู่การทำงานในอนาคต
4. ทักษะที่บัณฑิตต้องมีเพื่อพิชิตตลาดแรงงานยุคใหม่
บัณฑิตจาก สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จะได้รับการบ่มเพาะให้มีทักษะสำคัญ (Key Skills) ที่ตลาดแรงงานยุค China+1 ต้องการอย่างยิ่ง:
- ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability): เข้าใจและปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรม กฎระเบียบ และสภาวะตลาดที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศของอาเซียนได้
- ทักษะการวิเคราะห์ (Analytical Skills): สามารถวิเคราะห์ข้อมูลตลาด, ประเมินความเสี่ยง และมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างเฉียบคม
- การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม (Cross-Cultural Communication): สื่อสารและเจรจาต่อรองได้อย่างมีประสิทธิภาพกับคู่ค้าที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย
- ความเข้าใจด้านซัพพลายเชน (Supply Chain Literacy): มีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่น
โดยสรุป กลยุทธ์ China+1 ได้เปิดประตูแห่งโอกาสบานใหม่ให้กับภูมิภาคอาเซียน การเตรียมความพร้อมของบุคลากรจึงเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดย สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการปั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ ความรู้ และทักษะที่จำเป็น เพื่อก้าวไปคว้าโอกาสและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในเวทีโลกได้อย่างมั่นใจ