กลยุทธ์บริหารธุรกิจท้องถิ่นสู่เวทีประเทศ: บทบาทของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจทวีความรุนแรง ธุรกิจท้องถิ่น (Local Business) หรือ SMEs ของไทยจำนวนมากมีศักยภาพซ่อนอยู่ แต่ยังขาดกลยุทธ์และองค์ความรู้สมัยใหม่ที่จะผลักดันตัวเองจากระดับท้องถิ่นก้าวสู่เวทีระดับประเทศ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้อาศัยเพียงแค่เงินทุน แต่ต้องอาศัย “คน” ที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ นี่คือจุดที่สถาบันการศึกษาเข้ามามีบทบาทสำคัญ และ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างนักบริหารรุ่นใหม่เพื่อยกระดับธุรกิจไทย
สารบัญ
1. ความท้าทายของธุรกิจท้องถิ่นในยุคดิจิทัล
ธุรกิจท้องถิ่นในประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันจากแบรนด์ใหญ่ที่มีสายป่านยาวกว่า, การปรับตัวให้ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปสู่โลกออนไลน์, การขาดความรู้ด้านการตลาดดิจิทัล, การบริหารจัดการสต็อกและโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อขยายกิจการ ปัญหาเหล่านี้เป็นกำแพงขนาดใหญ่ที่ทำให้ธุรกิจดีๆ หลายแห่งไม่สามารถเติบโตได้อย่างที่ควรจะเป็น การมีเพียงผลิตภัณฑ์ที่ดีอาจไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ต้องอาศัยการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมเข้ามาเสริมทัพ
2. กุญแจสำคัญ: การศึกษาด้านบริหารธุรกิจที่ทันสมัย
ทางออกของความท้าทายเหล่านี้อยู่ที่การสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารธุรกิจอย่างแท้จริง การศึกษาใน สาขาบริหารธุรกิจ ไม่ใช่แค่การเรียนทฤษฎีในตำรา แต่คือการเรียนรู้ที่จะวิเคราะห์ตลาด, วางแผนกลยุทธ์, บริหารการเงิน, เข้าใจกฎหมายธุรกิจ, และใช้เครื่องมือดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุด บัณฑิตที่จบจากสถาบันที่แข็งแกร่งอย่าง มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงเปรียบเสมือนฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่จะเข้าไปขับเคลื่อนและปฏิรูปธุรกิจท้องถิ่นให้พร้อมแข่งขันในสมรภูมิที่ใหญ่ขึ้น
3. คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ปั้นนักบริหารมืออาชีพได้อย่างไร?
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU’s School of Business Administration) โดดเด่นด้วยแนวทางการเรียนการสอนที่เน้น “เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง” ทำให้บัณฑิตที่จบไปมีความพร้อมใช้งานและสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยมีจุดแข็งสำคัญดังนี้:
- หลักสูตรที่ทันสมัยและตอบโจทย์จริง: หลักสูตรของคณะบริหารธุรกิจถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับโลกธุรกิจยุคใหม่ มีสาขาวิชาที่หลากหลาย เช่น การตลาดดิจิทัล, การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน, ธุรกิจระหว่างประเทศ และการเป็นผู้ประกอบการดิจิทัล ซึ่งล้วนเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการสเกลอัปธุรกิจ
- คณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากภาคธุรกิจ: นักศึกษาจะได้เรียนรู้จากอาจารย์ที่มีประสบการณ์ตรงในวงการธุรกิจ สามารถถ่ายทอดกรณีศึกษาจริง (Real Case Study) และให้คำปรึกษาที่นำไปปรับใช้ได้ทันที
- การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ: เน้นการทำโปรเจกต์จริง, การแข่งขันแผนธุรกิจ, การฝึกงานกับบริษัทชั้นนำ ทำให้นักศึกษาไม่เพียงแต่ “รู้” แต่ยัง “ทำเป็น” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการบริหาร
- คอนเนคชั่นและเครือข่ายที่แข็งแกร่ง: มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีเครือข่ายศิษย์เก่าและพันธมิตรทางธุรกิจที่กว้างขวาง เป็นโอกาสให้นักศึกษาได้สร้างคอนเนคชั่นและเรียนรู้จากรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ
4. กลยุทธ์ที่ “ใช่” สำหรับธุรกิจท้องถิ่นสู่เวทีประเทศ
บัณฑิตจาก คณะบริหารธุรกิจ จะถูกติดอาวุธด้วยชุดความรู้และกลยุทธ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อผลักดันธุรกิจท้องถิ่นได้ทันที ตัวอย่างเช่น:
-
การสร้างแบรนด์และเรื่องราว (Brand & Storytelling)
เปลี่ยนสินค้าท้องถิ่นธรรมดาให้มีเรื่องราวที่น่าจดจำ สร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่ม
-
การตลาดดิจิทัลเต็มรูปแบบ (Digital Marketing)
ใช้ Social Media, SEO, E-commerce Platform เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศด้วยต้นทุนที่ควบคุมได้ พร้อมวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อวางแผนการตลาดที่แม่นยำ
-
การบริหารการเงินและหาแหล่งทุน (Financial Management)
วางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ จัดทำแผนธุรกิจที่น่าเชื่อถือเพื่อนำเสนอต่อสถาบันการเงินหรือนักลงทุน ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานสำคัญของ สาขาบริหารธุรกิจ โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจดทะเบียนและพัฒนาธุรกิจได้จาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
การผสานกลยุทธ์เหล่านี้เข้าด้วยกัน จะสามารถปลดล็อกศักยภาพของธุรกิจท้องถิ่นให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นสร้างบัณฑิตให้มีความสามารถครบครัน (ดูรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมที่นี่)
สรุป: การยกระดับธุรกิจท้องถิ่นสู่เวทีประเทศเป็นภารกิจที่ท้าทายแต่ไม่ไกลเกินฝัน การลงทุนกับการศึกษาเพื่อสร้างนักบริหารที่มีคุณภาพคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด และ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตของวงการธุรกิจไทยให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน