Green Accounting: เทรนด์ใหม่ที่บัณฑิต ปริญญาตรีบัญชี-โท-เอก คณะบัญชี SPU ต้องรู้! พลิกโฉมธุรกิจไทยยุค ESG
ยุคนี้ใครไม่พูดเรื่อง ESG ถือว่าเอาต์! แต่มันไม่ใช่แค่ Buzzword สวยๆ อีกต่อไป เพราะตอนนี้มันกลายเป็น Game Changer ตัวจริงที่ภาคธุรกิจต้องปรับตัว และหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ก็คือ “Green Accounting” หรือการบัญชีสีเขียว ที่กำลังจะเปลี่ยนโลกของนักบัญชีไปตลอดกาล!
1. Green Accounting คืออะไร? ใช่แค่ปลูกต้นไม้แล้วมาลงบัญชีมั้ย?
บอกเลยว่า No! Green Accounting หรือ “การบัญชีเพื่อความยั่งยืน” (Sustainability Accounting) มันล้ำกว่านั้นเยอะ! มันคือการขยายขอบเขตของวิชาชีพบัญชีที่เราคุ้นเคย จากเดิมที่โฟกัสแค่ตัวเลขทางการเงิน (กำไร-ขาดทุน, สินทรัพย์-หนี้สิน) ไปสู่การวัดผลและรายงานข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเงิน (Non-financial Information) โดยเฉพาะมิติด้าน สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG นั่นเอง
พูดง่ายๆ คือการพยายาม “ตีราคา” ผลกระทบที่บริษัทมีต่อโลกใบนี้ ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ แล้วนำมาเปิดเผยอย่างโปร่งใส เช่น:
- ต้นทุนสิ่งแวดล้อม (Environmental Costs): ค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำเสีย, การจัดการของเสีย, ค่าปรับจากการปล่อยมลพิษเกินกำหนด
- สินทรัพย์สิ่งแวดล้อม (Environmental Assets): มูลค่าของเทคโนโลยีสะอาดที่บริษัทลงทุน, ที่ดินที่อนุรักษ์ไว้เป็นพื้นที่สีเขียว
- หนี้สินสิ่งแวดล้อม (Environmental Liabilities): ภาระผูกพันในอนาคตที่ต้องใช้ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมหลังสิ้นสุดโครงการ (เช่น เหมืองแร่)
2. ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่? ส่องเทรนด์บังคับใช้ ESG Reporting
โลกเปลี่ยน…การลงทุนก็เปลี่ยน! วันนี้นักลงทุนทั่วโลกไม่ได้มองแค่ว่าบริษัทไหนกำไรดีที่สุด แต่มองหาบริษัทที่เติบโตอย่างยั่งยืนด้วย นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Green Accounting กลายเป็นเมกะเทรนด์ที่ทุกคนต้องจับตา
สำหรับประเทศไทยเองก็ไม่ตกขบวน! สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ยกระดับการเปิดเผยข้อมูล ESG ให้เข้มข้นขึ้น โดยกำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูลตามแบบ 56-1 One Report ซึ่งรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรายงานประจำปีอย่างเป็นทางการ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ก.ล.ต.) นี่ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น “ข้อบังคับ” ที่ทำให้ทุกบริษัทต้องหันมาใส่ใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง และคนที่ต้องลงมือทำข้อมูลเหล่านี้ก็คือนักบัญชีนั่นเอง!
3. ความท้าทายที่ธุรกิจไทยต้องเจอเมื่อต้องใช้ Green Accounting
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ย่อมมาพร้อมกับความท้าทายที่ธุรกิจไทยและนักบัญชีต้องเผชิญหน้า ไม่ว่าจะเป็น:
- มาตรฐานที่หลากหลาย: ปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานการบัญชีสีเขียวที่เป็นหนึ่งเดียวทั่วโลก ทำให้เกิดความสับสนในการเลือกใช้และเปรียบเทียบข้อมูล (เช่น GRI, SASB, TCFD)
- การวัดผลและเก็บข้อมูล: “จะวัดมูลค่าความหลากหลายทางชีวภาพเป็นตัวเงินได้อย่างไร?” หรือ “จะเก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3 จากซัพพลายเออร์ยังไงให้แม่นยำ?” คำถามเหล่านี้คือความท้าทายสุดหินในการเก็บข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
ทักษะที่ขาดแคลน: ช่องว่างสำคัญของบัณฑิต ปริญญาตรีบัญชี สู่ระดับ ปริญญาโท และ ปริญญาเอก
นี่คือความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด! บุคลากรสายบัญชีส่วนใหญ่ยังคุ้นเคยกับการทำงานกับตัวเลขทางการเงินแบบเดิมๆ แต่ Green Accounting ต้องการทักษะใหม่ๆ ทั้งความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อม, การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), และความสามารถในการสื่อสารเรื่องราวที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย ทำให้นักบัญชีที่จบตั้งแต่ระดับ ปริญญาตรีบัญชี ไปจนถึงผู้ที่กำลังศึกษาต่อในระดับ ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก ต้องเร่งปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป
4. โอกาสทองของเด็กบัญชี! อัปสกิลยังไงให้เป็นที่ต้องการตัว
ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส! การมาถึงของ Green Accounting คือโอกาสครั้งสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในสายอาชีพนี้ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นในระดับ ปริญญาตรีบัญชี หรือกำลังทำวิจัยในระดับ ปริญญาเอก ก็ตาม นี่คือแนวทางอัปสกิลให้ปัง:
- เรียนรู้ข้ามศาสตร์: ศึกษาความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม, สังคมศาสตร์, และการพัฒนาที่ยั่งยืน
- เสริมทักษะด้านเทคโนโลยี: ฝึกใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics), Power BI, หรือแม้กระทั่งทำความเข้าใจเทคโนโลยี Blockchain ที่จะเข้ามาช่วยเรื่องความโปร่งใส
- ลงเรียนคอร์สเฉพาะทาง: หาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานการรายงานความยั่งยืนต่างๆ เช่น GRI Standards หรือหา Certificate ด้าน ESG
- ติดตามข่าวสาร: เทรนด์นี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก การติดตามข่าวจากองค์กรระดับโลกและในประเทศจะทำให้คุณนำหน้าคนอื่นเสมอ
สรุปได้ว่า Green Accounting ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือ “อนาคต” ของวิชาชีพบัญชี การปรับตัวและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ตั้งแต่วันนี้ คือการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับนักบัญชีทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในระดับไหนก็ตาม ถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนจากนักบันทึกตัวเลข มาเป็นนักสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับโลก!