PDPA เขย่าวงการ! กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกับงานบัญชีนิติวิทยาในประเทศไทย
เมื่อข้อมูลคือขุมทรัพย์ และการทุจริตซับซ้อนขึ้น นักบัญชียุคใหม่ ที่ทำงานด้านการสืบสวนต้องปรับตัวอย่างไรให้ทันกฎหมาย PDPA และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
ในยุคที่ข้อมูลมีค่ามหาศาล การทุจริตในองค์กรก็มีความซับซ้อนและแนบเนียนมากขึ้นตามไปด้วย “บัญชีนิติวิทยา” (Forensic Accounting) จึงกลายเป็นศาสตร์สำคัญที่ผสมผสานทักษะด้านบัญชี การตรวจสอบ และ การสืบสวน เพื่อค้นหาความจริงและหลักฐานการฉ้อโกง แต่การเข้ามาของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA ได้สร้างความท้าทายครั้งใหม่ให้กับวงการนี้ บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่า PDPA ส่งผลกระทบต่องานบัญชีนิติวิทยาอย่างไร และ นักบัญชียุคใหม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร
1. บัญชีนิติวิทยา : มากกว่าการตรวจสอบบัญชีแบบเดิม
บัญชีนิติวิทยาไม่ใช่แค่การตรวจงบการเงิน แต่เป็นการ “สืบสวนสอบสวน” ทางการเงินอย่างเข้มข้นเพื่อหาข้อพิรุธและรวบรวมหลักฐานที่สามารถใช้ในชั้นศาลได้ ขอบเขตงานจึงกว้างขวาง ตั้งแต่การตรวจสอบการทุจริตของพนักงาน การฟอกเงิน ไปจนถึงการประเมินความเสียหายทางธุรกิจ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับ “ข้อมูลส่วนบุคคล” จำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลพนักงาน ลูกค้า หรือคู่ค้า
2. PDPA กระทบต่อกระบวนการสืบสวนทางบัญชีอย่างไร?
PDPA กำหนดกรอบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างรัดกุม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทุกขั้นตอนของงานบัญชีนิติวิทยา:
- การเข้าถึงและรวบรวมข้อมูล: นักบัญชีไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างอิสระอีกต่อไป การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ อีเมล หรือเอกสารของพนักงานที่ต้องสงสัย ต้องมีฐานทางกฎหมายรองรับ (Lawful Basis) เช่น ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย
- การประมวลผลและวิเคราะห์: ในระหว่าง การสืบสวน ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการรั่วไหล และต้องประมวลผลข้อมูลเท่าที่จำเป็นต่อวัตถุประสงค์เท่านั้น
- การจัดเก็บและรักษาความปลอดภัย: หลักฐานที่รวบรวมได้ ซึ่งมักมีข้อมูลส่วนบุคคลปะปนอยู่ ต้องถูกจัดเก็บในที่ปลอดภัย มีการควบคุมการเข้าถึงอย่างเข้มงวด และมีกำหนดระยะเวลาการจัดเก็บที่ชัดเจน
- การรายงานผล: การนำเสนอรายงานผลการตรวจสอบ ต้องระมัดระวังไม่ให้มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกินความจำเป็น และต้องแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบตามสิทธิของเจ้าของข้อมูล
3. เทคโนโลยี AI, Big Data, Blockchain พลิกโฉมการสืบสวน
ความท้าทายมาพร้อมกับโอกาส เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักบัญชีนิติวิทยาในการรับมือกับข้อมูลปริมาณมหาศาลและการทุจริตที่ซับซ้อน:
- AI และ Big Data: เทคโนโลยี AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมจำนวนมหาศาล (Big Data) เพื่อหารูปแบบที่ผิดปกติ (Anomaly Detection) ได้รวดเร็วกว่ามนุษย์ ช่วยชี้เป้าความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ และลดเวลาใน การสืบสวน ลงได้อย่างมาก
- Blockchain: เทคโนโลยี Blockchain ช่วยสร้างเส้นทางของธุรกรรม (Audit Trail) ที่โปร่งใสและแก้ไขไม่ได้ ทำให้การตรวจสอบย้อนกลับทำได้ง่ายและน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในงานบัญชีนิติวิทยา
4. การเตรียมความพร้อมนักบัญชียุคใหม่สู่โลกดิจิทัล
จากความท้าทายทั้งหมดนี้ สถาบันการศึกษาจึงมีบทบาทสำคัญในการผลิตบัณฑิตให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง คณะบัญชี (ACC) มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) เป็นหนึ่งในสถาบันชั้นนำที่ตระหนักถึงความสำคัญนี้และได้พัฒนาหลักสูตรเพื่อสร้าง นักบัญชียุคใหม่ ที่มีทักษะรอบด้าน
หลักสูตรตั้งแต่ ปริญญาตรี ปริญญาโท ถึงปริญญาเอก ที่ ACC SPU ตอบโจทย์อย่างไร
ที่ ม.ศรีปทุม หลักสูตรบัญชีไม่ได้สอนแค่เดบิต-เครดิต แต่ได้บูรณาการความรู้ที่จำเป็นสำหรับอนาคตเข้าไปในทุกระดับการศึกษา:
- ความรู้ด้านกฎหมาย: มีการสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับ PDPA และกฎหมายดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจกรอบการทำงานที่ถูกต้อง
- ทักษะด้านเทคโนโลยี: สอนการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลสมัยใหม่, AI, และทำความเข้าใจเทคโนโลยี Blockchain เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในงานตรวจสอบและ การสืบสวน
- ทักษะการคิดวิเคราะห์: เน้นการเรียนรู้ผ่านกรณีศึกษาจริง (Case Study) เพื่อฝึกฝนทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
การเลือกศึกษาต่อในสถาบันที่ทันสมัยอย่างอย่าง คณะบัญชี ที่ SPU จึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคงในสายอาชีพบัญชีนิติวิทยาอย่างแน่นอนครับ
อาจารย์นันทวุฒิ นาคจินดา อาจารย์ประจำคณะบัญชี SPU