บทบาทสำคัญของคณะกรรมการตรวจสอบ: ขับเคลื่อนความโปร่งใสทางภาษี
ในยุค CG + ESG
ในโลกธุรกิจที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก ประเด็นด้านความโปร่งใสไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นและความยั่งยืนให้กับองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ความโปร่งใสทางภาษี” ที่กลายเป็นหัวใจหลักของ การกำกับดูแลกิจการ ที่ดี ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเรื่องนี้
1. คณะกรรมการตรวจสอบ: ผู้พิทักษ์ธรรมาภิบาลขององค์กร
คณะกรรมการตรวจสอบคือหนึ่งในกลไกสำคัญที่สุดของ ธรรมาภิบาล (Good Governance) ในองค์กร ประกอบด้วยกรรมการอิสระที่มีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะด้าน บัญชี การเงิน และการบริหารความเสี่ยง บทบาทดั้งเดิมของพวกเขาคือการสอบทานความถูกต้องของรายงานทางการเงิน การกำกับดูแลระบบควบคุมภายใน และการทำงานของผู้ตรวจสอบบัญชี
อย่างไรก็ตาม ในยุคปัจจุบันที่แนวคิดเรื่อง CG + ESG (Corporate Governance, Environmental, Social, and Governance) เข้ามามีอิทธิพล บทบาทของคณะกรรมการตรวจสอบได้ขยายขอบเขตไปสู่การดูแลประเด็นที่ซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงนโยบายและความเสี่ยงด้านภาษี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของหลัก ความยั่งยืน ขององค์กร
2. ความโปร่งใสทางภาษีในบริบทสากล: มากกว่าแค่การจ่ายภาษี
ความโปร่งใสทางภาษี (Tax Transparency) ในปัจจุบันไม่ได้หมายถึงเพียงการเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายภาษี กลยุทธ์การวางแผนภาษี และจำนวนภาษีที่จ่ายในแต่ละประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ แนวคิดนี้ได้รับแรงผลักดันจากหน่วยงานระดับโลกอย่าง องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ผ่านโครงการ Base Erosion and Profit Shifting (BEPS) เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเทกำไรไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ
นักลงทุน สังคม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างคาดหวังให้บริษัทต่างๆ มีความรับผิดชอบและโปร่งใสในการจัดการภาษี เพราะมันสะท้อนถึง จริยธรรมในการดำเนินธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ ความยั่งยืน และ ธรรมาภิบาล
3. บทบาทเชิงรุกของคณะกรรมการตรวจสอบในการสร้างความโปร่งใสทางภาษี
คณะกรรมการตรวจสอบมีบทบาทโดยตรงในการกำกับดูแลและผลักดันให้เกิดความโปร่งใสทางภาษี ผ่านการดำเนินงานในมิติต่างๆ ดังนี้:
- การกำกับดูแลนโยบายและกลยุทธ์ภาษี: สอบทานและให้ความเห็นชอบต่อนโยบายภาษีขององค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับหลัก การกำกับดูแลกิจการ ที่ดี ไม่มุ่งเน้นการหลีกเลี่ยงภาษีที่เสี่ยงต่อชื่อเสียง
- การประเมินความเสี่ยงด้านภาษี: กำกับดูแลให้ฝ่ายบริหารมีการระบุและประเมินความเสี่ยงด้านภาษีที่อาจเกิดขึ้น ทั้งจากความเปลี่ยนแปลงของกฎหมายในประเทศต่างๆ และแรงกดดันจากสังคม
- การสอบทานการเปิดเผยข้อมูล: ดูแลให้บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลด้านภาษีอย่างเพียงพอและโปร่งใสในรายงานประจำปี หรือรายงานความยั่งยืน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- การสื่อสารกับผู้ตรวจสอบบัญชี: ทำงานร่วมกับผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก เพื่อให้มั่นใจว่าประเด็นสำคัญทางภาษีได้รับการตรวจสอบอย่างเหมาะสม
เสริมสร้างหลักการ CG + ESG ผ่านการศึกษาด้านบัญชี
การที่คณะกรรมการตรวจสอบจะปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น สมาชิกจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งในศาสตร์ บัญชี สมัยใหม่ ที่บูรณาการแนวคิดเรื่อง CG + ESG เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สถาบันการศึกษาชั้นนำอย่าง ม.ศรีปทุม (SPU) ให้ความสำคัญในการผลิตบัณฑิตตั้งแต่ระดับ ปริญญาตรี ไปจนถึง ปริญญาโท และ ปริญญาเอก
4. การศึกษาด้านบัญชีและการกำกับดูแลกิจการที่ ม.ศรีปทุม (SPU): สร้างบุคลากรแห่งอนาคต
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของโลกธุรกิจสมัยใหม่ คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม (ACC SPU) ได้พัฒนาหลักสูตรที่เข้มข้นและทันสมัยในทุกระดับการศึกษา ตั้งแต่ ปริญญาตรี, ปริญญาโท, จนถึง ปริญญาเอก โดยมุ่งเน้นการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้าน บัญชี ที่ไม่ได้มีแค่ความรู้ด้านตัวเลข แต่ยังเข้าใจในมิติของ การกำกับดูแลกิจการ และ ความยั่งยืน อย่างแท้จริง
หลักสูตรของ ม.ศรีปทุม ได้สอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับ ธรรมาภิบาล, การบริหารความเสี่ยง, และมาตรฐานรายงานทางการเงินระหว่างประเทศที่เชื่อมโยงกับประเด็นภาษีและ CG + ESG เพื่อให้นักศึกษาและบัณฑิตของ SPU มีความพร้อมที่จะก้าวเข้าไปเป็นบุคลากรคุณภาพ สามารถทำหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญอย่างคณะกรรมการตรวจสอบ หรือเป็นผู้บริหารที่เข้าใจความซับซ้อนของธุรกิจในบริบทสากลได้อย่างเต็มภาคภูมิ หากคุณสนใจที่จะพัฒนาความรู้ในด้านนี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หลักสูตรคณะบัญชี ม.ศรีปทุม
บทสรุป
คณะกรรมการตรวจสอบมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในการยกระดับความโปร่งใสทางภาษี ซึ่งเป็นเสาหลักของ การกำกับดูแลกิจการ และ ความยั่งยืน ในโลกยุคใหม่ การมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากสถาบันการศึกษาที่เข้าใจบริบทของธุรกิจสากลเช่น SPU จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรไทยสามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างมั่นคงและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: หน้าที่หลักของคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับภาษีมีอะไรบ้าง?
A1: หน้าที่หลักคือ 1) กำกับดูแลนโยบายและกลยุทธ์ทางภาษีขององค์กรให้สอดคล้องกับหลัก ธรรมาภิบาล 2) ประเมินและจัดการความเสี่ยงด้านภาษีที่อาจเกิดขึ้น 3) สอบทานความถูกต้องและเพียงพอของการเปิดเผยข้อมูลทางภาษีต่อสาธารณะ และ 4) ทำงานร่วมกับผู้ตรวจสอบบัญชีเพื่อให้แน่ใจว่าประเด็นภาษีสำคัญได้รับการตรวจสอบอย่างเหมาะสม
Q2: ความโปร่งใสทางภาษีเกี่ยวข้องกับหลักการ CG + ESG อย่างไร?
A2: เกี่ยวข้องโดยตรงครับ การจ่ายภาษีอย่างเป็นธรรมและโปร่งใสถือเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่อสังคม (Social) และเป็นหัวใจของ การกำกับดูแลกิจการ ที่ดี (Governance) ดังนั้น ความโปร่งใสทางภาษีจึงเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของประสิทธิภาพในการนำหลัก CG + ESG มาปฏิบัติในองค์กร ซึ่งส่งผลต่อ ความยั่งยืน ในระยะยาว
Q3: ทำไมการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอก ด้านบัญชีที่ ม.ศรีปทุม จึงมีความสำคัญต่อสายอาชีพนี้?
A3: เพราะการศึกษาในระดับสูงกว่า ปริญญาตรี โดยเฉพาะหลักสูตรของ ม.ศรีปทุม (SPU) จะเน้นการวิเคราะห์เชิงลึกในประเด็นที่ซับซ้อน เช่น การวางแผนภาษีระหว่างประเทศ, การบริหารความเสี่ยง, และการบูรณาการหลัก CG + ESG เข้ากับการรายงานทางการเงิน การมีความรู้ระดับ ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก จะช่วยให้คุณมีมุมมองเชิงกลยุทธ์และเป็นที่ต้องการขององค์กรชั้นนำที่มองหาผู้เชี่ยวชาญด้าน บัญชี และ การกำกับดูแลกิจการ อย่างแท้จริง
สนใจด้านการกำกับดูแลกิจการ ความโปร่งใสทางภาษี การประเมินความเสี่ยงด้านภาษี พบกันได้ที่คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม