กัปตันหมิว : สวัสดีทุกคนเลยนะคะ พี่ชื่อว่าหมิว ธิดาพร ไม้หอม เป็นหนึ่งในนักบาสหญิงของทีมชาติไทย และเป็นกัปตันทีมบาสของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งหมิวเองก็เรียนจบที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม ในทั้งระดับการศึกษาปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ และปริญญาโท สาขาวิชาการบริหารการศึกษา ค่ะ

กัปตันหมิว : ในรายการแข่งครั้งล่าสุดของพวกเราทีมสโมสรศรีปทุม คือ รายการแข่งขันบาสเกตบอล รายการ TOA WTBL 2020 หรือ TOA  Woman Thailand Basketball League ซึ่งเป็นการแข่งทีมบาสมืออาชีพหญิงของประเทศไทย ถือว่าเป็นทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ของประเทศเลยค่ะ มีสโมสรใหญ่ๆ มาร่วมกันแข่งขัน แล้วพวกเราสโมสรศรีปทุมก็คว้าแชมป์มาได้สำเร็จด้วยค่ะ ซึ่งในการแข่งครั้งนี้หมิวเล่นตำแหน่ง small forward และ shooting guard ค่ะ

กัปตันหมิว : ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนแข่งขัน ด้วยความที่ทีมของเราใช้เวลาเตรียมตัวได้น้อยมาก ประมาณ 2-3 เดือนเองนะเมื่อเทียบกับรายการแข่งขันที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้นักกีฬาทุกคนในทีมต้องแยกย้ายกันซ้อม และต้องมีวินัยในการฝึกซ้อมด้วยตนเอง จนมารวมทีมกันได้ 1-2 เดือน ก่อนแข่งขันค่ะ ซึ่งน้องๆ ในทีมนั้นมีวินัยในตนเองดีมากค่ะ

กัปตันหมิว : ด้วยความที่หมิวเป็นทั้งกัปตันและพี่ใหญ่ที่สุดของทุกคน ด้วยความที่การแข่งขันรอบนี้ถือว่าเป็นแมตช์ใหญ่ เวลาที่ทุกคนตื่นเต้นหรือตัวหมิวเองตื่นเต้น เพราะว่าตัวเราเองห่างสนามมาพอสมควร เพราะอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าซึ่งหนักถึงขนาดผ่าตัดเลยค่ะ ตอนนั้นพูดตรงๆ ว่าเราเสียใจไม่ทัน เพราะเราตั้งใจว่าเราจะไปแข่งซีเกมส์ปีหน้า หมิวเลยมีแต่เวลาวางแผนและเตรียมตัว อย่างที่บอกว่าหมิวไม่มีเวลาเสียใจเลย และหมิวเชื่อว่าความคิดของเรานี่แหละที่จะทำให้เราก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ได้ ถ้าเราเชื่อว่าเราทำได้มันก็ทำได้ ดังนั้นเมื่อลงแข่งขันรอบนี้หมิวเลยคิดว่าเราต้องมั่นใจ เพราะถ้าเราไม่มั่นใจน้องๆ ในทีมก็จะเสียกำลังใจ

กัปตันหมิว : เราเลยต้องสู้แม้ตอนแข่งจะหนักมาก เพราะเราไม่ได้ชนะหมด แต่มีแพ้ชนะสลับกัน ทำให้ทุกคนล้ามาก ๆ เพราะเป็นการแข่งขันที่มีระยะพักตัวสั้น หมิวนี่เข่าบวมเลยนะ รู้เลยว่าร่างกายเราพร้อมแค่ 70% ได้ แต่ด้วยความที่ใจเราไปเกินร้อย แล้วเรามีความเชื่อในตัวกันและกัน หมิวพูดเลยว่าหมิวเชื่อมั่นในทีมของตัวเอง เชื่อมั่นในตัวโค้ชของทีม และเชื่อมั่นในตัวเอง คือพอเราเป็นพี่เราเชื่อมั่นในตัวน้อง พอน้องๆ เห็นแบบนั้นน้องๆ ก็เชื่อมั่นในตัวเราด้วย พวกเราเลยไปด้วยกันได้ และคว้าความสำเร็จมาด้วยกันได้ เพราะเราเชื่อในกันและกันเสมอ

กัปตันหมิว : สิ่งสำคัญในการเล่นบาสสำหรับหมิวคือความทุ่มเท วินัย และการเชื่อมั่นในกันและกัน คือนอกสนามหมิวไม่รู้ แต่ในการซ้อมหรือลงสนามทุกคนต้องมีวินัย ต้องจริงจัง เพราะเรามีเวลาซ้อมกันวันละไม่กี่ตัวชั่วโมง ทุกคนจะต้องยอมสละเวลามารวมกันเพื่อฝึกซ้อมค่ะ

กัปตันหมิว : ด้วยความที่หมิวซ้อมบาสมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียน เราเลยต้องจัดเวลาให้ดีที่สุด คือหมิวจะไม่ขาดซ้อม เพราะถือว่าเรามีเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ได้ เราต้องมีเวลาซ้อมได้สิ ดังนั้นการจัดเวลาให้ลงตัวและวินัย นักกีฬาอย่างเราควรต้องทำให้ได้

กัปตันหมิว : มหาวิทยาลัยศรีปทุมถือว่าเปิดกว้างและให้โอกาสน้องๆ เด็กนักกีฬามากๆ ค่ะ อย่างน้องๆ ทุกคนก็ได้รับทุนนักกีฬาจากที่นี่ด้วย และมีอาจารย์หลายๆ ท่าน เช่นอาจารย์สุรศักดิ์ ทรัพย์เพิ่ม ผู้อำนวยการกลุ่มงานกิจการนักศึกษาและผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬา ม.ศรีปทุม ผู้คอยจัดเตรียมความพร้อมเช่น สถานที่ เวลาฝึกซ้อม การประสานงานแข่งขัน ให้น้องๆ มีสนามไว้พัฒนาตนเอง หรือชุดทีมที่พวกเราใส่อยู่ เรียกว่าซัพพอร์ตพวกเราอย่างเต็มที่เลยค่ะ

กัปตันหมิว : ถ้าน้องๆ คนไหนสนใจ เป็นสายเด็กกีฬา หมิวเองบอกเลยว่าโลกเราไปไกลมากๆ ใน youtube เอย โค้ชสอนพิเศษก็มี แค่น้องมีลูกบาสแล้วใจน้องรักด้านนี้ น้องสามารถฝึกได้เลย และหากน้องๆ คนไหนเป็นนักกีฬาของโรงเรียน พี่บอกเลย ม.ศรีปทุมยินดีต้อนรับเสมอ เรามีทั้งทุนการศึกษาซึ่งให้ตามความสามารถของเรา ที่นี่มีพี่ๆ คอยดูแล มีอาจารย์คอยซัพพอร์ตเต็มที่มากๆ ไม่ใช่แค่บาสนะ น้องๆ เข้ามาแล้วเลือกได้เลยว่าชอบเล่นกีฬาอะไร แล้วมาฝึกกันให้เต็มที่ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องติดทีมชาตินะ เพราะอย่างพี่หมิวเองก็ไม่ได้เป็นทีมชาติแต่แรก แต่พี่เข้ามาแล้วฝึกฝนจากที่ ม.ศรีปทุม แล้วต่อยอดจนติดทีมชาติค่ะ เพราะเราได้โอกาสจากที่นี่ พี่มองว่าโอกาสหาได้ยากนะ แต่ที่นี่ให้เราได้ ดังนั้นสายกีฬาใครสนใจมาลองดูกันเลย!

แล้วเราก็ได้รู้เคล็ดลับความสำเร็จของพี่หมิวกันแล้ว ว่าความเชื่อมั่นในทีมนี่แหละ ที่ทำให้พี่หมิวนำทีมบาสของตนในฐานะกัปตันไปคว้าแชมป์ในครั้งนี้ได้ ทั้งพี่หมิวเองยังให้คำแนะนำเด็กสายกีฬาเรื่องการเรียนต่อกันอีกด้วย ใครที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้แล้วมีความฝันแบบพี่หมิว อยากมาต่อยอดความฝันด้านกีฬา ก็ลงมือกันได้เลย เพราะที่ ม.ศรีปทุม I believe in you เสมอ