ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

ประกาศความเป็นส่วนตัว

PRIVACY POLICY

มหาวิทยาลัยศรีปทุม (“มหาวิทยาลัย”) ขอแจ้งให้ท่านทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวของมหาวิทยาลัย เนื่องจากประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่มหาวิทยาลัยจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

ประกาศความเป็นส่วนตัว สำหรับผู้ปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย

(Privacy Notice for Employees and Staff)

—————————————————————————————

มหาวิทยาลัยศรีปทุม (“มหาวิทยาลัย”) ขอแจ้งให้ท่านทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวของมหาวิทยาลัย เนื่องจากประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่มหาวิทยาลัยจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนั้นเพื่อเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มหาวิทยาลัยจึงได้จัดให้มีหนังสือฉบับนี้ขึ้นและมหาวิทยาลัยขอเรียนให้ท่านโปรดอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อทราบและเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รายละเอียดดังนี้

 

  1. 1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

มหาวิทยาลัยมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา เพื่อมุ่งให้ความรู้ ความชำนาญแก่ผู้ศึกษา สนองความต้องการโดยให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและสังคมของชาติ เน้นการปฏิบัติภารกิจของสถาบันอุดมศึกษาในด้านการเรียน การสอน การวิจัย การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ในการดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว มหาวิทยาลัยจะเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ตามวัตถุประสงค์และภายใต้ฐานดังต่อไปนี้

      (1)     ฐานสัญญา (Contract)

         เป็นการจำเป็นที่ท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่มหาวิทยาลัยเมื่อท่านได้ใช้บริการหรือติดต่อเกี่ยวกับข้อเสนอการให้บริการหรือเข้าทำสัญญากับมหาวิทยาลัย เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลเกี่ยวกับการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อให้มหาวิทยาลัยได้ติดต่อสื่อสารหรือเพื่อติดตามและแจ้งผลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่ท่านทราบ

      (2)     ฐานความยินยอม (Consent)

         กรณีจำเป็นเมื่อท่านให้ความยินยอมกับมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการออกแบบ หรือเพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับการศึกษา หรือการบริการเพื่อนำเสนอการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวกับการศึกษา  หรือเพื่อการบริหารจัดการภายใต้การดำเนินงานของมหาวิทยาลัย

      (3)     ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)

         กรณีจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการจัดการและการจัดทำรายงานที่จำเป็นภายในมหาวิทยาลัย การดูแลรักษาระบบเพื่อรักษามาตรฐานหรือการพัฒนาการบริการ การจัดการบริหารความเสี่ยงในมหาวิทยาลัย การควบคุมและการตรวจสอบภายใน ซึ่งมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย

      (4)     ฐานจดหมายเหตุ วิจัย หรือสถิติ (Historical Document, Research, or Statistics)

         มหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม

 

 

      (5)     ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest)

         กรณีจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อประโยชน์ในการระงับอันตรายเกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่านหรือบุคคลอื่น

      (6)     ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)

         กรณีจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบหมายให้แก่มหาวิทยาลัย

      (7)     ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation)

         กรณีมีความจำเป็นมหาวิทยาลัยอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต

      ข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยได้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์การใช้บริการ ประกอบกับฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรม (Lawful Basis for Processing) ในแต่ละกิจกรรม ดังนี้

วัตถุประสงค์

ฐานการประมวลผล

1)                             เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการเข้าทำสัญญาจ้างแรงงาน เป็นผู้ปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย

1.1)                          ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา

2)                             เพื่อบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคลและเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงาน เช่น ทำบัตรผู้ปฏิบัติงาน เก็บภาพจำลองลายนิ้วมือ ภาพจำลองใบหน้า เป็นต้น

2.1)                          ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา สำหรับเตรียมความพร้อมให้ท่านเข้าเป็นผู้ปฏิบัติงาน

2.2)                          ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามบทบัญญัติใดของกฎหมาย หรือทำตามคำสั่งของหน่วยงานใดของรัฐที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานใดที่บังคับใช้กฎหมาย

2.3)                          ฐานความยินยอม

3)                             เพื่อใช้ในการติดต่อประสานงานกับท่านหรือบุคคลที่สาม เช่น คู่สมรส บิดา มารดา บุตร รวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงานกรณีสิทธิและประโยชน์ของผู้ปฏิบัติงาน

3.1)                          ฐานความยินยอม

3.2)                          ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้ปฏิบัติงาน

4)                             เพื่อดำเนินการให้สิทธิประโยชน์ด้านสวัสดิการต่างๆ แก่ผู้ปฏิบัติงาน เช่น ประกันสังคม ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพกลุ่ม ฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพประจำปีเป็นต้น

4.1)                          ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการรักษาสิทธิประโยชน์และสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงาน

4.2)                          ฐานความยินยอม

4.3)                          ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการให้สิทธิและสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานตามที่ระบุในกฎหมาย

4.4)                          ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามบทบัญญัติใดของกฎหมาย หรือทำตามคำสั่งของหน่วยงานใดของรัฐที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานใดที่บังคับใช้กฎหมาย

5)                             เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างผู้ปฏิบัติงานและเงินอื่นใด เช่น เงินประจำตำแหน่ง เงินช่วยพิเศษ เป็นต้น

5.1)                          ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของบุคคลากรตามที่ระบุในสัญญา

5.2)                          ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการจ่ายเงินเดือนและเงินอื่นใดแก่ผู้ปฏิบัติงาน

6)                             เพื่อใช้รักษาสิทธิประโยชน์ และค่าตอบแทนอื่นใดของผู้ปฏิบัติงานที่พึงได้รับตามระเบียบ ซึ่งกำหนดโดยมหาวิทยาลัย

6.1)                          ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับรักษาสิทธิประโยชน์และค่าตอบแทนแก่ผู้ปฏิบัติงานตามระเบียบของมหาวิทยาลัย

6.2)                          ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย : เป็นสิ่งจำเป็นต่อมหาวิทยาลัย ในการปฏิบัติตามบทบัญญัติใดของกฎหมาย หรือทำตามคำสั่งของหน่วยงานใดของรัฐที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานใดที่บังคับใช้กฎหมาย

7)                             เพื่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และสนับสนุนส่งเสริมศักยภาพ ผู้ปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย เช่น อบรม สัมมนา ทุนการศึกษา ตำแหน่งทางวิชาการ รางวัลเกียรติยศ ดร.สุข รางวัลสสอท. SPU PSF เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นต้น

7.1)                          ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา สำหรับการพัฒนาผู้ปฏิบัติงานและการประเมินผลงาน

7.2)                          ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงาน

7.3)                          ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย : เป็นสิ่งจำเป็นต่อมหาวิทยาลัย ในการปฏิบัติตามบทบัญญัติใดของกฎหมาย หรือทำตามคำสั่งของหน่วยงานใดของรัฐที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานใดที่บังคับใช้กฎหมาย

8)                             เพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยงกรณีที่เกี่ยวกับข้อร้องเรียน หรือระเบียบวินัยและจรรยาบรรณ หรือข้อพิพาทและคดีความ

8.1)                          ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา

8.2)                          ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย : เป็นสิ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่มหาวิทยาลัย ในการปฏิบัติตามบทบัญญัติใดของกฎหมาย หรือทำตามคำสั่งของหนวยงานใดของรัฐที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานใดที่บังคับใช้กฎหมาย

8.3)                          ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการดำเนินการใดๆ เพื่อบริหารจัดการงานร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ

9)                             เพื่อการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคล เมื่อสิ้นสุดสภาพการเป็นผู้ปฏิบัติงาน

9.1)                          ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านหลังสิ้นสุดสภาพการเป็นผู้ปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัยตามที่ระบุในสัญญา

9.2)                          ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย : เป็นสิ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่มหาวิทยาลัย ในการปฏิบัติตามบทบัญญัติใดของกฎหมาย หรือทำตามคำสั่งของหน่วยงานใดของรัฐที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานใดที่บังคับใช้กฎหมาย

10) เพื่อใช้ดำเนินการด้านเอกสารหรือการขออนุญาต สำหรับผู้ปฏิบัติงานที่เป็นชาวต่างชาติ เช่น จัดทำใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) จัดทำวีซ่า (Visa) เป็นต้น

10.1) ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา

10.2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงาน

11) เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและดำเนินการเกี่ยวกับการจ้างงานผู้พิการ เช่น จัดทำรายงานที่จำเป็นเกี่ยวกับข้อมูลคนพิการ
เป็นต้น ตลอดจนเพื่อปฏิบัติตามระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ รวมถึงข้อกำหนดอื่นใดซึ่งมหาวิทยาลัยมีหน้าที่ผูกพันในการปฏิบัติตามกฎหมายสำหรับการจ้างงานผู้พิการ

11.1) ฐานสัญญา : เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา

11.2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมหาวิทยาลัย สำหรับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงาน

11.3) ฐานความยินยอม

 

      มหาวิทยาลัยอาจจะใช้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมมากกว่าหนึ่งฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมของมหาวิทยาลัยที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

  1. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมทางการตลาด

มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายนอกที่มหาวิทยาลัยมีข้อตกลงด้วย อาจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด โดยจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไปใช้ในการทำกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด ดังต่อไปนี้

      (1)     การทำกิจกรรมการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) มหาวิทยาลัยจะดำเนินกิจกรรมการตลาดแบบตรงเฉพาะกรณีที่ท่านให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งกับมหาวิทยาลัย ตามที่มหาวิทยาลัยได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลให้ทราบแล้ว ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ให้ไว้ได้ตลอดเวลา โดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของมหาวิทยาลัย

      (2)     การทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาด มหาวิทยาลัยจะดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการรับนักศึกษา เช่น กิจกรรมการเล่นเกม หรือกิจกรรมในช่องทาง Social Network กิจกรรมการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและบริการของมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยจะแจ้งให้ท่านทราบในกิจกรรมนี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยจะไม่นำข้อมูลไปทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) ยกเว้นท่านจะให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งเพื่อการทำการตลาดแบบตรง ตามที่มหาวิทยาลัยได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลให้ทราบแล้ว ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ให้ไว้ได้ตลอดเวลา โดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของมหาวิทยาลัย

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยจะทำการประมวลผล

3.1 ข้อมูลส่วนบุคคล

      (1)     ข้อมูลเฉพาะบุคคล : ชื่อ-นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด เพศ น้ำหนัก,ส่วนสูง, สถานะทางทหาร ,หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง (Passport No.) เลขที่ใบอนุญาตทำงาน (Work permit No.) หรือเอกสารราชการอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ สถานภาพ สัญชาติ

      (2)     ข้อมูลทางการเงิน : เลขที่บัญชีธนาคาร สถานภาพทางการเงิน

      (3)     ข้อมูลสำหรับการติดต่อ : ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ ID LINE

      (4)     ข้อมูลประวัติการศึกษา : ชื่อสถานศึกษาที่จบ วุฒิการศึกษาที่จบ คณะที่จบ สาขาวิชาที่จบ สาขาวิชาเชี่ยวชาญ วันที่เริ่มหรือวันที่จบจากสถาบันศึกษาเดิม ประเทศที่จบการศึกษา ผลการเรียน ผลการสอบภาษา ผลการสอบคอมพิวเตอร์ ประวัติการฝึกอบรม ดูงาน หรือฝึกงาน ,ความสามารถทางภาษา

      (5)     ข้อมูลประวัติการทำงาน : สถานที่ที่เคยทำงาน ตำแหน่งงาน เงินเดือนจากที่ทำงานเดิม สถานะวิชาชีพ เงินเดือนที่เคยได้รับ เหตุผลการลาออกจากที่ทำงานเดิม เหตุผลการพ้นสภาพการเป็นผู้ปฏิบัติงาน อายุการทำงาน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสังคม ภาระงานสอน ประวัติการทำงานในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

      (6)     ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการประเมินผล : วันที่เริ่มงาน วันครบกำหนดทดลองงาน จำนวนชั่วโมงทำงาน บันทึกการเข้าออกที่ทำงาน รายละเอียดการลารวมถึงสาเหตุ รหัสบุคลากร ตำแหน่ง แผนก สังกัด สายการบังคับบัญชา การประเมินผลการปฏิบัติงาน ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูลการลงโทษทางวินัย ใบลาออกจากการเป็นผู้ปฏิบัติงาน เหตุผลการลาออก ข้อมูลคำสั่งแต่งตั้ง

      (7)     ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์และค่าตอบแทน : ข้อมูลสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลที่ปรากฏในใบเสร็จรับเงินแสดงค่าใช้จ่าย (เบิกเงินกรณีเกิดอุบัติเหตุ) ข้อมูลการศึกษาของบุตรผู้ปฏิบัติงาน สำเนาสูติบัตรของบุตรผู้ปฏิบัติงาน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีขอลดค่าเล่าเรียน)

      (8)     ข้อมูลระบุทรัพย์สินของส่วนบุคคล : โฉนดที่ดิน หนังสือประกันของธนาคาร

      (9)     ข้อมูลอื่น ๆ : สถานะการกู้ยืมเงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต รูปภาพใบหน้า ข้อมูลบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง[1] ความสามารถพิเศษ

3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว[2]

      (1)     ข้อมูลส่วนตัว : ข้อมูลสุขภาพ กรุ๊ปเลือด ข้อมูลความพิการ

      (2)     ข้อมูลชีวภาพ : ภาพจำลองลายนิ้วมือ ภาพจำลองใบหน้า ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์

      ทั้งนี้มหาวิทยาลัยต้องขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว ตามหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมายกฎหมาย

 

  1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามแหล่งที่มา เมื่อ

      (1)     ท่านเข้าเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย (Cookies)

      (2)     ท่านให้ข้อมูลกับมหาวิทยาลัยผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

      (3)     ท่านให้ข้อมูลกับมหาวิทยาลัยผ่านการติดต่อสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์ของมหาวิทยาลัยหรือช่องทางปกติ

      (4)     ท่านให้ข้อมูลกับมหาวิทยาลัยผ่านเอกสารสัญญาจ้าง

      (5)     ท่านให้ข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุมหรือระบบ Sripatum Campus Management System (SCMS) ของมหาวิทยาลัย

 

  1. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 การเปิดเผย ส่ง หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล

      มหาวิทยาลัยอาจเปิดเผย ส่ง หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้กับบุคคลภายนอก และจะใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ดังนี้

      (1)     บริษัทในเครือ

      (2)     เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์

      (3)     บริษัทหรือที่ปรึกษาด้านการบริหารงานบุคคล

      (4)     หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

      (5)     ธนาคารคู่สัญญา

      (6)     หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยด้านการศึกษา เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานประกันสังคม กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นต้น

      (7)     หน่วยงานเอกชน เช่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย

      (8)     หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรใดที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดโดยกฎหมาย เช่น กรมบังคับคดี กรมสรรพากร สำนักงานอัยการ ศาล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมการกงสุล สถานทูต เป็นต้น

      (9)     บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ

      (10) ตัวแทน ผู้รับจ้างหรือผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการใดๆ แก่มหาวิทยาลัย เช่น
ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้พัฒนาระบบเว็บไซต์ ผู้รับจ้างดูแลการประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่าง ๆ เป็นต้น

      (11) โรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล

5.2 การเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

      ในกรณีที่มหาวิทยาลัยเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ มหาวิทยาลัยจะดำเนินการส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและมหาวิทยาลัยอาจขอความยินยอมจากท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศตามที่กฎหมายกำหนด

      บุคคลภายนอกที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากมหาวิทยาลัย จะต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้กับมหาวิทยาลัย

 

  1. สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังต่อไปนี้

      (1) สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม

         กรณีท่านให้ความยินยอมเพื่อให้มหาวิทยาลัย เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับมหาวิทยาลัย

      (2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

         ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอให้ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัย หรือขอให้มหาวิทยาลัยเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

      (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

         ท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

 

 

      (4) สิทธิในการขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

         ท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ตามที่กฎหมายกำหนด

      (5) สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

          ท่านมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ตามที่กฎหมายกำหนด

      (6) สิทธิในการขอรับ หรือขอให้ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

         ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่มหาวิทยาลัยสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านเข้าใจได้โดยทั่วไป ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานอัติโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้มหาวิทยาลัยส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่น หรือมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยได้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่นได้โดยตรงเว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

      (7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

         ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ ตามที่กฎหมายกำหนด

      (8)          สิทธิในการร้องเรียน

         ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการที่มหาวิทยาลัยดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

       

  1. ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับท่าน

กรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับมหาวิทยาลัย อาจส่งผลกระทบต่อความสะดวกของท่านในการเข้าถึงการให้บริการตามวัตถุประสงค์ของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

 

  1. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

มหาวิทยาลัยจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ตลอดระยะเวลาที่ท่านเป็นผู้ปฏิบัติงานนับแต่วันที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับมหาวิทยาลัยและภายในระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่สัญญาการเป็นผู้ปฏิบัติงานของท่านสิ้นสุดลง เว้นแต่ มหาวิทยาลัยอาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหากเห็นว่ายังมีความจำเป็นหรือกฎหมายกำหนดให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น

ทั้งนี้มหาวิทยาลัยจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาตามวัตถุประสงค์นั้น

 

  1. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงอันอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข สูญหาย หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย มหาวิทยาลัยจึงมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะกำหนดให้เข้าถึงได้เฉพาะที่มหาวิทยาลัยอนุญาตโดยปฏิบัติตามมาตรการการดูแลของมหาวิทยาลัยเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว

มหาวิทยาลัยอาจปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยจะประกาศให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยที่ www.spu.ac.th, www.chonburi.spu.ac.th, www.khonkaen.spu.ac.th

 

  1. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อ ได้ดังนี้

      (1)     ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : มหาวิทยาลัยศรีปทุม เลขที่ 2410/2 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

      (2)     เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : บุคคลหรือหน่วยงานของมหาวิทยาลัยที่ทำหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2561 1111, 0 2561 2222 หรือโทรสาร
0 2561 1720 หรือ E-mail : DPO@spu.ac.th

[1] ข้อมูลบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องกับท่านและท่านได้ให้ข้อมูลนั้นแก่มหาวิทยาลัย เช่น บิดา มารดา สามีหรือภรรยา บุตร พี่น้อง คู่สมรส (ข้อมูลที่เก็บ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล , วัน/เดือน/ปีเกิด , อาชีพ , สถานที่ทำงาน , ตำแหน่ง , รายได้ส่วนบุคคลต่อเดือน , หมายเลขโทรศัพท์ ) เป็นต้น ทั้งนี้ ท่านได้แจ้งให้บุคคลที่สามดังกล่าวทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้และได้ขอความยินยอมจากบุคคลที่สามดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวกับมหาวิทยาลัย

[2] ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรมข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด