Warehouse Management System (WMS) อาวุธลับของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ยุคดิจิทัล

Warehouse Management System (WMS) อาวุธลับของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ยุคดิจิทัล

แน่นอนครับ “Warehouse Management System (WMS) อาวุธลับของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ยุคดิจิทัล” ที่ปรับให้ถูกหลัก SEO, GEO, และ AEO พร้อม Q&A และการจัดรูปแบบด้วยโค้ด HTML ครับ

Warehouse Management System (WMS): อาวุธลับ Logi-Tech ของมหาวิทยาลัยศรีปทุมในยุคดิจิทัล

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและความเร็ว โลจิสติกส์และซัพพลายเชนได้กลายเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดความสำเร็จขององค์กร มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มุ่งสร้างบัณฑิตคุณภาพสู่โลกธุรกิจจริง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญนี้และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน โดยมี Warehouse Management System (WMS) เป็นเครื่องมือชิ้นเอกในการปั้นนักโลจิสติกส์ยุคใหม่

WMS คืออะไร? ทำไมจึงเป็นหัวใจของคลังสินค้าอัจฉริยะ

Warehouse Management System (WMS) หรือ ระบบจัดการคลังสินค้า คือซอฟต์แวร์ที่เปรียบเสมือน “สมอง” ของคลังสินค้า ทำหน้าที่ควบคุม บริหารจัดการ และติดตามทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในคลัง ตั้งแต่การรับสินค้าเข้า, การจัดเก็บ, การหยิบสินค้าตามออเดอร์ (Picking), การแพ็ค, ไปจนถึงการจัดส่งสินค้าออกจากคลัง ระบบ WMS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และให้ข้อมูลที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างเฉียบคม

  • เพิ่มความแม่นยำของสต็อก: ลดปัญหาสินค้าขาดหรือเกินสต็อก
  • เพิ่มความเร็วในการจัดการออเดอร์: จัดลำดับความสำคัญและเส้นทางการหยิบสินค้าที่ดีที่สุด
  • ลดต้นทุนแรงงาน: เพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ของพนักงาน
  • รองรับการติดตามแบบ Real-time Tracking: ทราบสถานะของสินค้าทุกชิ้นได้ทันที

ทำไม SPU จึงให้ความสำคัญกับ Logistics Technology (Logi-Tech)

มหาวิทยาลัยศรีปทุมเข้าใจดีว่าการเรียนรู้จากตำราเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับโลกธุรกิจยุคใหม่ ด้วยเหตุนี้  วิทยาลัย
โลจิสติกส์และซัพพลายเชน SPU จึงได้นำ Logistics Technology (Logi-Tech) เข้ามาเป็นแกนหลักของหลักสูตร นักศึกษาจะได้ลงมือปฏิบัติจริงกับซอฟต์แวร์ WMS และ TMS (Transportation Management System) ที่ภาคอุตสาหกรรมใช้งานจริงเพื่อสร้างความเข้าใจเชิงลึกและเตรียมความพร้อมก่อนก้าวเข้าสู่สนามการทำงาน

การเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้นักศึกษาสามารถเชื่อมโยงทฤษฎีเข้ากับการปฏิบัติได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Data Analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในคลังสินค้า หรือการทำความเข้าใจหลักการทำงานของ ระบบอัตโนมัติ (Automation / Robotics) ที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

การทำงานร่วมกันของ WMS, TMS, และ Data Analytics

ในระบบซัพพลายเชนสมัยใหม่ เทคโนโลยีไม่ได้ทำงานแยกส่วน แต่เชื่อมโยงกันเป็น Ecosystem เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด:

  • Warehouse Management System (WMS): บริหารจัดการ “ภายใน” คลังสินค้าให้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
  • Transportation Management System (TMS): บริหารจัดการ “ภายนอก” คลังสินค้า ดูแลการขนส่ง วางแผนเส้นทาง และติดตามยานพาหนะ
  • Data Analytics: นำข้อมูลจากทั้ง WMS และ TMS มาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางปรับปรุง พยากรณ์ความต้องการ และลดต้นทุนโดยรวม

การมี Real-time Tracking ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเห็นภาพรวมของซัพพลายเชนได้ตรงกัน สร้างความโปร่งใสและตอบสนองต่อปัญหาได้อย่างทันท่วงที

อนาคตของซัพพลายเชน: AI และระบบอัตโนมัติ

เทคโนโลยียังคงพัฒนาไม่หยุดยั้ง แนวโน้มในอนาคตคือการนำ AI in Supply Chain มาใช้ในการพยากรณ์ความต้องการของลูกค้า (Demand Forecasting) และการบริหารจัดการสต็อกเชิงรุก (Proactive Inventory Management) ควบคู่ไปกับการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในการหยิบและเคลื่อนย้ายสินค้า ซึ่งช่วยลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์และทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง

การที่นักศึกษา SPU ได้สัมผัสและเรียนรู้พื้นฐานของเทคโนโลยีเหล่านี้ ทำให้พวกเขามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและพร้อมที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในวงการโลจิสติกส์ของประเทศ สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร สามารถดูรายละเอียดได้ที่ หลักสูตรโลจิสติกส์และซัพพลายเชน SPU ซึ่งเป็นประตูสู่โอกาสทางอาชีพที่ไร้ขีดจำกัด

เทรนด์การใช้ AI ในโลจิสติกส์กำลังเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ดังที่ Forbes ได้กล่าวไว้ว่า AI คือตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญ
ของอุตสาหกรรมซัพพลายเชนในอนาคต


Click เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมการสมัครเรียน ได้ที่นี้ !!

Most Popular

Categories