Demand Analysis: กุญแจสำคัญสู่การเลือกกลยุทธ์จัดซื้อ
และบริหารซัพพลายเออร์มืออาชีพ 🔑

เคยไหมครับ? สั่งของมาสต็อกจนล้นโกดัง แต่ของที่ลูกค้าอยากได้กลับหมดเกลี้ยง!  หรือบางทีก็ต้องจ่ายแพงเกินจำเป็นเพราะสั่งของกระชั้นชิดเกินไป… ปัญหาโลกแตกเหล่านี้แก้ได้ด้วย “Demand Analysis” ครับ!

1. “วิเคราะห์ความต้องการ” (Demand Analysis) คืออะไรกันแน่? 🤔

ว่ากันง่ายๆ การวิเคราะห์ความต้องการ (Demand Analysis) ก็คือการส่องกล้องมองอนาคตของธุรกิจเราครับ! ไม่ใช่การเดาสุ่มนะ แต่มันคือการใช้ข้อมูลในอดีต เช่น ยอดขายเก่าๆ, เทรนด์ตลาด, ฤดูกาล, หรือแม้แต่แผนการตลาดของเรา มาคาดการณ์ว่าลูกค้าจะต้องการสินค้าหรือบริการของเรามากน้อยแค่ไหน ในช่วงเวลาไหนบ้าง

นึกภาพตามนะครับ… ถ้าเราจะจัดปาร์ตี้ เราก็ต้องรู้ก่อนว่าจะมีแขกมากี่คน ชอบกินอะไรกัน เพื่อจะได้เตรียมอาหารได้
พอดีๆ การทำ Demand Analysis ก็เหมือนกันเลยครับ แค่เปลี่ยนจากปาร์ตี้มาเป็นธุรกิจของเรานั่นเอง

2. ทำไมการวิเคราะห์ความต้องการถึงเป็นหัวใจสำคัญ? ❤️

เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในสายพานซัพพลายเชนเลยครับ! ถ้าเราวิเคราะห์พลาด ก็เหมือนติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อๆ ไปก็ผิดหมด

• ป้องกันปัญหาสต็อกจม-ของขาด: ช่วยให้เรารู้ว่าควรสั่งวัตถุดิบคุณภาพเข้ามาตอนไหน และมากเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียพื้นที่เก็บของที่ไม่จำเป็น หรือเสียโอกาสขายเพราะของหมด
• บริหารเงินสดได้ดีขึ้น: พอเรารู้ล่วงหน้าว่าจะต้องใช้เงินซื้อของเท่าไหร่ ก็วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นเยอะ ลดปัญหาสภาพคล่องติดขัด
• เป็นรากฐานของกลยุทธ์จัดซื้อ: ข้อมูลจากการวิเคราะห์นี่แหละครับ ที่จะบอกเราว่าควรจะเลือกใช้กลยุทธ์แบบไหนกับซัพพลายเออร์เจ้าไหน

3. เชื่อมโยง Demand สู่กลยุทธ์การจัดซื้อขั้นเทพ 👍

เมื่อเรามีข้อมูลความต้องการในมือแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาโชว์สกิลการวางกลยุทธ์การจัดซื้อขั้นเทพกันแล้วครับ! เราสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันไปตามลักษณะของ Demand ได้เลย เช่น:

• ถ้า Demand สูงและคาดการณ์ได้แม่นยำ: เราอาจจะทำสัญญาระยะยาวกับซัพพลายเออร์ หรือใช้กลยุทธ์ รวมซื้อรวมขาย (Group Buying) กับพาร์ทเนอร์เพื่อ ลดต้นทุน / เพิ่มอำนาจต่อรอง ให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
• ถ้า Demand ผันผวนตามฤดูกาล: เราอาจจะเลือกทำสัญญาที่ยืดหยุ่นกว่า หรือหาซัพพลายเออร์สำรองไว้หลายๆ เจ้า เพื่อให้พร้อมรับมือกับช่วงพีคได้ทันท่วงที
• ถ้า Demand เป็นสินค้าเฉพาะทาง ไม่แน่นอน: กลยุทธ์การจัดซื้อแบบ “Just-in-Time” (สั่งเมื่อต้องการใช้) อาจจะเหมาะกว่า เพื่อไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงสต็อกบวม

เห็นไหมครับว่าการวิเคราะห์ความต้องการช่วยให้เราเลือกใช้กลยุทธ์ได้คมขึ้นเยอะ และทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างของเราสอดคล้องกับแผนธุรกิจโดยรวมนั่นเอง

4. ประโยชน์ที่จับต้องได้ของการทำ Demand Analysis 💰

การลงทุนลงแรงกับการวิเคราะห์ Demand ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแน่นอนครับ:

1. ลดต้นทุน / เพิ่มอำนาจต่อรอง: การวางแผนล่วงหน้าทำให้เรามีเวลาหาซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุดและต่อรองราคาได้มากขึ้น
2. ควบคุมคุณภาพ ลดของเสีย: สั่งของได้แม่นยำขึ้น ลดปัญหาสินค้าหมดอายุหรือตกรุ่นคาโกดัง
3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์: การสั่งซื้อที่สม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ ทำให้ซัพพลายเออร์ทำงานง่ายขึ้น และอยากจะทำธุรกิจกับเราไปนานๆ
4. ธุรกิจเดินหน้าไม่สะดุด: ลดความเสี่ยงที่กระบวนการผลิตหรือการบริการจะหยุดชะงักเพราะขาดวัตถุดิบ