#SPULawaroundtheWorld : เหยียดหยามศาสนา ผิด ป.อาญา มาตรา 206
—————–
เท้าข้างหนึ่งอยู่บนพระพุทธรูป และยกมือขวาเลียนแบบพระพุทธรูป…ผิด ป.อาญา มาตรา 206 #เหยียดหยามศาสนา
เป็นคดีหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และได้ต่อสู้กันถึงศาลฎีกา จนมีคำพิพากษาศาลฎีกาออกมาในปี 2550 เกี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งจำเลยในคดีนี้ ได้กระทำความผิดโดย
“…แต่งกายเป็นภิกษุแล้วใช้เท้าข้างหนึ่งยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ โดยเท้าจำเลยอยู่บนส่วนหนึ่งของพระบาทพระพุทธรูปยกมือขวาขึ้นเลียนแบบพระพุทธรูป ส่วนใบหน้าของจำเลยแสดงท่าทางล้อเลียนถลึงตาอ้าปาก…” และได้มีหนังสือพิมพ์นำภาพถ่ายของผู้กระทำผิดมาเผยแพร่ต่อไป
ศาลฎีกาเห็นว่า พระพุทธรูปเป็นที่เคารพสักการะในทางศาสนาของประชาชนผู้นับถือศาสนาพุทธทั่วไป การกระทำของจำเลย นอกจากไม่เคารพพระพุทธรูปแล้ว ยังแสดงตนเสมอกับพระพุทธรูป จึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรและเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามพุทธศาสนา
ให้จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206
—————–
เท้าข้างหนึ่งอยู่บนพระพุทธรูป และยกมือขวาเลียนแบบพระพุทธรูป…ผิด ป.อาญา มาตรา 206 #เหยียดหยามศาสนา
เป็นคดีหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และได้ต่อสู้กันถึงศาลฎีกา จนมีคำพิพากษาศาลฎีกาออกมาในปี 2550 เกี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งจำเลยในคดีนี้ ได้กระทำความผิดโดย
“…แต่งกายเป็นภิกษุแล้วใช้เท้าข้างหนึ่งยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ โดยเท้าจำเลยอยู่บนส่วนหนึ่งของพระบาทพระพุทธรูปยกมือขวาขึ้นเลียนแบบพระพุทธรูป ส่วนใบหน้าของจำเลยแสดงท่าทางล้อเลียนถลึงตาอ้าปาก…” และได้มีหนังสือพิมพ์นำภาพถ่ายของผู้กระทำผิดมาเผยแพร่ต่อไป
ศาลฎีกาเห็นว่า พระพุทธรูปเป็นที่เคารพสักการะในทางศาสนาของประชาชนผู้นับถือศาสนาพุทธทั่วไป การกระทำของจำเลย นอกจากไม่เคารพพระพุทธรูปแล้ว ยังแสดงตนเสมอกับพระพุทธรูป จึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรและเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามพุทธศาสนา
ให้จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 “ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
อ่านเพิ่มเติม คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1807/2550