“ผู้มีธรรม ย่อมมั่นคงแม้อยู่ท่ามกลางเสียงนินทาและสรรเสริญ”
พระพุทธเจ้าตรัสว่า: “บุคคลผู้ตั้งมั่นในธรรม ย่อมไม่หวั่นไหวด้วยเสียงติ หรือยินดีเกินควรในเสียงชม”
(พระไตรปิฎก เล่ม 1 ข้อ 35)
ธรรมะข้อนี้สอนให้เรา ตั้งมั่นในธรรม และ รักษาความสงบภายใน
ไม่ว่าจะได้รับเสียงติเตียนหรือเสียงชื่นชมมากมาย ก็ไม่ให้ใจหวั่นไหว
การตั้งมั่นในธรรมช่วยให้เราเดินทางในเส้นทางที่ถูกต้อง ไม่หลงทางจากคำพูดภายนอกที่อาจมาทำให้เราเปลี่ยนแปลงตนเองโดยไม่จำเป็น
ในชีวิตการทำงานก็เช่นกัน การไม่ให้ความสำคัญกับเสียงภายนอกมากเกินไปทำให้เรามีความมั่นคงในการตัดสินใจ และสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างมั่นใจ
The Person Established in Dhamma Remains Stable Amidst Censure and Praise
The Buddha said: “The individual who is firmly established in the Dhamma is neither shaken by the sound of blame nor excessively delighted by the sound of praise.”
(Tipiṭaka Vol. 1, No. 35)
This principle of Dhamma instructs us to be steadfast in the Dhamma and to maintain inner tranquility. Whether receiving overwhelming criticism or profuse admiration, one’s mind should not be unsettled. Being established in the Dhamma helps us to remain on the correct path, preventing us from being distracted by external words that might unnecessarily compel us to change.
In professional life, similarly, avoiding undue fixation on external voices provides stability in decision-making and allows for confident, self-directed development.
โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน
วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบูรณาการหลักธรรมทางพุทธศาสนาเข้ากับแนวคิดด้านการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ภายใต้ “โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ช่วยให้ผู้บริหาร นักศึกษา และสังคมทั่วไป ได้พัฒนาทัศนะที่ถูกต้อง และนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส และสมดุล สะท้อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสังคมแห่งอนาคต (University for Sustainable Society) ที่มุ่งส่งเสริมทั้ง การพัฒนาปัญญา คุณธรรม และความยั่งยืน ควบคู่กันไป สอดคล้องกับแนวทางของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีจริยธรรม และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเป็นธรรม
การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being)
การรักษาความสงบภายในจากการตั้งมั่นในธรรมช่วยลดความเครียด และเสริมสร้างสุขภาพจิตที่มั่นคง
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 3.4 — การส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน
SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
การตั้งมั่นในธรรมช่วยให้ผู้เรียนไม่ถูกขัดขวางจากสิ่งรบกวนภายนอก ทำให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีสมาธิ
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 4.7 — การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและคุณค่าทางศีลธรรม
SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)
การไม่หวั่นไหวกับเสียงรอบข้างช่วยให้บุคคลและองค์กรมีความมั่นคงและความเสถียรในกระบวนการทำงาน
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 8.3 — การส่งเสริมผู้ประกอบการและนวัตกรรมในระบบเศรษฐกิจ
SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions)
การมีธรรมะในใจทำให้เราสามารถยืนหยัดในความยุติธรรมและความถูกต้องท่ามกลางความคิดเห็นและการตัดสินจากภายนอก
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 16.6 — การพัฒนาสถาบันที่โปร่งใส มีคุณธรรม และมีประสิทธิภาพ
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “ธรรมะ” คือพลังแห่งปัญญาที่สามารถนำทางให้การบริหารจัดการดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน จึงมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของในการคิด การตัดสินใจ และการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กร สังคม และประเทศชาติไปสู่อนาคตที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสังคมยั่งยืนด้วยปัญญาและคุณธรรม”#DhammaDrivenBusiness, #DrDhammaDriven, #DrVichitUon, #SPU, #SripatumUniversity, #WeCreateProfessionalsByProfessionals, #จากศาลาถึงบอร์ดรูม, #มหาวิทยาลัยศรีปทุม, #วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ, #สร้างมืออาชีพด้วยมืออาชีพ, #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง



