“ธรรมะคือกระจก ที่ส่องให้เราเห็นตัวเองชัดขึ้นทุกวัน”
พระพุทธเจ้าตรัสว่า: “บุคคลผู้เห็นธรรม ย่อมตรวจสอบตนเสมอ เห็นข้อบกพร่องและแก้ไขด้วยปัญญา”
(พระไตรปิฎก เล่ม 1 ข้อ 31)
ธรรมะคือกระจกที่สะท้อนภาพความเป็นจริงของเรา
เมื่อเรา เห็นธรรม เราจะสามารถมองเห็น ข้อบกพร่องของตัวเอง ได้อย่างชัดเจน และใช้ ปัญญา แก้ไขสิ่งเหล่านั้น
ในชีวิตและการทำงาน การตรวจสอบตนเองและปรับปรุงตัวตลอดเวลา คือวิธีการที่ช่วยให้เราเติบโตอย่างมีคุณค่า และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
Dhamma as the Mirror Reflecting Our Truest Self
The Buddha said: “The individual who perceives the Dhamma constantly examines themselves, recognizes their shortcomings, and rectifies them with wisdom.”
(Tipiṭaka Vol. 1, No. 31)
Dhamma serves as a mirror that reflects the reality of our current state. When we “see the Dhamma,” we gain the capacity to clearly discern our own deficiencies and shortcomings, and we utilize wisdom (Paññā) to address and amend them.
In both personal life and professional work, the process of continuous self-examination and self-improvement is the means by which we achieve valuable growth and create sustainable transformation.
โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน
วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบูรณาการหลักธรรมทางพุทธศาสนาเข้ากับแนวคิดด้านการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ภายใต้ “โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ช่วยให้ผู้บริหาร นักศึกษา และสังคมทั่วไป ได้พัฒนาทัศนะที่ถูกต้อง และนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส และสมดุล สะท้อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสังคมแห่งอนาคต (University for Sustainable Society) ที่มุ่งส่งเสริมทั้ง การพัฒนาปัญญา คุณธรรม และความยั่งยืน ควบคู่กันไป สอดคล้องกับแนวทางของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีจริยธรรม และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเป็นธรรม
การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being)
การตรวจสอบตัวเองอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเครียด และปรับความคิดให้สงบ ส่งเสริม สุขภาพจิตที่ดี
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 3.4 — การส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน
SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
การใช้ธรรมะเป็นเครื่องมือในการ ตรวจสอบตนเอง ช่วยพัฒนาความเข้าใจในตัวเองและทักษะในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 4.7 — การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและความเข้าใจในคุณค่าทางศีลธรรม
SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)
การตรวจสอบตนเองช่วยพัฒนา ประสิทธิภาพในการทำงาน และลดความผิดพลาดในการดำเนินงาน
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 8.6 — การลดอัตราการว่างงาน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน
SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions)
การใช้ ปัญญา แก้ไขข้อบกพร่อง ช่วยส่งเสริม สถาบันที่เข้มแข็ง และการบริหารที่โปร่งใส
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 16.6 — การสร้างสถาบันที่โปร่งใส มีคุณธรรม และมีประสิทธิภาพ
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “ธรรมะ” คือพลังแห่งปัญญาที่สามารถนำทางให้การบริหารจัดการดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน จึงมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของในการคิด การตัดสินใจ และการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กร สังคม และประเทศชาติไปสู่อนาคตที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสังคมยั่งยืนด้วยปัญญาและคุณธรรม”#DhammaDrivenBusiness, #DrDhammaDriven, #DrVichitUon, #SPU, #SripatumUniversity, #WeCreateProfessionalsByProfessionals, #จากศาลาถึงบอร์ดรูม, #มหาวิทยาลัยศรีปทุม, #วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ, #สร้างมืออาชีพด้วยมืออาชีพ, #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง



