“คิดบวก – มองทุกปัญหาเป็นโอกาส”
พระพุทธเจ้าตรัสว่า: “ในทุกข์ย่อมมีทางออก”
(พระไตรปิฎก เล่ม 10 ข้อ 50)
การเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคในชีวิตเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญคือทัศนคติที่เรามีต่อปัญหาเหล่านั้น ผู้ที่มีความสามารถในการคิดบวกและมองทุกสถานการณ์เป็นโอกาส มักจะสามารถค้นพบหนทางแก้ไขและแนวทางใหม่ ๆ ที่คนอื่นมองข้าม การเปลี่ยนมุมมองจาก “ปัญหา” เป็น “บทเรียน” หรือ “โอกาสในการพัฒนา” จะช่วยให้เราไม่จมอยู่กับความท้อแท้ แต่กลับใช้สถานการณ์ที่ยากลำบากเป็นแรงผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้า
การคิดบวกไม่ได้หมายถึงการมองโลกในแง่ดีอย่างไม่สมจริง แต่คือการรับรู้ปัญหาอย่างมีสติ พร้อมทั้งค้นหาหนทางแก้ไขด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่น การมองทุกปัญหาเป็นโอกาสยังช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความยืดหยุ่นทางจิตใจ ทำให้เราสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยวิธีนี้ ความทุกข์หรือความท้าทายที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นอุปสรรค แต่กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ การเติบโต และความสำเร็จในที่สุด
Positive Thinking – Viewing Every Problem as an Opportunity
The Buddha said: “In suffering, there is always a way out.”
(Tipiṭaka Vol. 10, No. 50)
Encountering problems and obstacles in life is unavoidable. The crucial element, however, is the attitude we adopt towards these challenges. Individuals with the capacity for positive thinking and the ability to perceive every situation as an opportunity are often able to discover innovative solutions and new pathways overlooked by others. Changing one’s perspective from a “problem” to a “lesson” or an “opportunity for development” prevents despair and instead uses difficult circumstances as momentum to move forward.
Positive thinking does not imply an unrealistic optimism; rather, it is the mindful acknowledgment of a problem combined with a determined and focused search for solutions. Viewing every challenge as an opportunity also fosters creativity and mental resilience, enabling us to adapt and respond effectively to changing circumstances.
In this manner, the suffering or challenges encountered cease to be hindrances and become, instead, a powerful catalyst for learning, growth, and, ultimately, success.
โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน
วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบูรณาการหลักธรรมทางพุทธศาสนาเข้ากับแนวคิดด้านการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ภายใต้ “โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ช่วยให้ผู้บริหาร นักศึกษา และสังคมทั่วไป ได้พัฒนาทัศนะที่ถูกต้อง และนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส และสมดุล สะท้อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสังคมแห่งอนาคต (University for Sustainable Society) ที่มุ่งส่งเสริมทั้ง การพัฒนาปัญญา คุณธรรม และความยั่งยืน ควบคู่กันไป สอดคล้องกับแนวทางของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีจริยธรรม และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเป็นธรรม
การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being)
การคิดบวกและมองทุกปัญหาเป็นโอกาสช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี ลดความเครียด และสร้างความสมดุลทางอารมณ์
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 3.4 — การส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน
SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
การปรับมุมมองจากปัญหาเป็นบทเรียนช่วยพัฒนาการคิดเชิงสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ไขปัญหา
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 4.7 — การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและทักษะชีวิต
SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)
ทัศนคติที่คิดบวกช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหา
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 8.3 — การส่งเสริมความสามารถในการปรับตัวและนวัตกรรมในองค์กร
SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions)
การมองทุกสถานการณ์เป็นโอกาสช่วยให้การตัดสินใจในองค์กรและสังคมเป็นไปอย่างมีเหตุผลและรอบคอบ
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 16.6 — การพัฒนาสถาบันที่เข้มแข็ง โปร่งใส และมีธรรมาภิบาล
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “ธรรมะ” คือพลังแห่งปัญญาที่สามารถนำทางให้การบริหารจัดการดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน จึงมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของในการคิด การตัดสินใจ และการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กร สังคม และประเทศชาติไปสู่อนาคตที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสังคมยั่งยืนด้วยปัญญาและคุณธรรม”#DhammaDrivenBusiness, #DrDhammaDriven, #DrVichitUon, #SPU, #SripatumUniversity, #WeCreateProfessionalsByProfessionals, #จากศาลาถึงบอร์ดรูม, #มหาวิทยาลัยศรีปทุม, #วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ, #สร้างมืออาชีพด้วยมืออาชีพ, #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง



