“ผู้ใดเข้าถึงธรรม ย่อมรู้จักตนเองอย่างแท้จริง”
พระพุทธเจ้าตรัสว่า: “บุคคลผู้มีปัญญา เมื่อพิจารณาตนด้วยธรรมแล้ว ย่อมรู้จักตนตามความเป็นจริง ไม่หลงตน ไม่ดูถูกผู้อื่น”
(พระไตรปิฎก เล่ม 1 ข้อ 29)
ธรรมะข้อนี้สอนให้เรารู้จัก “มองตนด้วยธรรม” ไม่ใช่เพียงการรู้ข้อดีของตน แต่คือการ เข้าใจทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างเที่ยงตรง
ผู้ที่เข้าถึงธรรมย่อมมีปัญญาเห็นตนตามความเป็นจริง จึงไม่หลงในความสำเร็จ และไม่ดูแคลนผู้อื่น
ในทางบริหารจัดการหรือการทำงาน การรู้จักตนอย่างแท้จริงคือพื้นฐานของ ภาวะผู้นำเชิงสติ (Mindful Leadership)
ที่ช่วยให้เราพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเคารพและสมดุล
One Who Attains Dhamma Truly Knows Themselves
The Buddha said: “When a person of wisdom reflects upon themselves by means of the Dhamma, they truly know themselves as they are; they are neither deluded about themselves nor disparage others.”
(Tipiṭaka Vol. 1, No. 29)
This principle of Dhamma teaches us to “view oneself through the lens of Dhamma” meaning not just knowing one’s virtues, but achieving an accurate and impartial understanding of both strengths and weaknesses.
An individual who realizes the Dhamma possesses the wisdom to see themselves realistically. Consequently, they are neither blinded by their own success nor prone to contempt for others.
In the context of management and professional work, genuine self-knowledge forms the essential foundation of Mindful Leadership. This quality facilitates continuous personal development and enables individuals to interact with others with respect and balance.
โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน
วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบูรณาการหลักธรรมทางพุทธศาสนาเข้ากับแนวคิดด้านการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ภายใต้ “โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ช่วยให้ผู้บริหาร นักศึกษา และสังคมทั่วไป ได้พัฒนาทัศนะที่ถูกต้อง และนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส และสมดุล สะท้อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสังคมแห่งอนาคต (University for Sustainable Society) ที่มุ่งส่งเสริมทั้ง การพัฒนาปัญญา คุณธรรม และความยั่งยืน ควบคู่กันไป สอดคล้องกับแนวทางของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีจริยธรรม และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเป็นธรรม
การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being)
การพิจารณาตนอย่างมีสติช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด และสร้างสุขภาพจิตที่มั่นคง
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 3.4 — การส่งเสริมสุขภาวะทางจิตใจ
SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
การรู้จักตนเองด้วยปัญญาคือการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ที่นำไปสู่การเติบโตภายในและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 4.7 — ส่งเสริมการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและการพัฒนาคุณธรรม
SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)
ผู้ที่รู้จักตนย่อมเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนในทีม และสามารถพัฒนาองค์กรได้อย่างยั่งยืน
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 8.3 — การส่งเสริมศักยภาพของบุคคลและนวัตกรรมในการทำงาน
SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions)
ความเข้าใจตนเองนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างเคารพ เกื้อกูล และสร้างสังคมที่สงบสุข
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 16.7 — การสร้างสังคมที่มีส่วนร่วม เคารพความแตกต่าง และมีธรรมาภิบาล
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “ธรรมะ” คือพลังแห่งปัญญาที่สามารถนำทางให้การบริหารจัดการดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน จึงมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของในการคิด การตัดสินใจ และการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กร สังคม และประเทศชาติไปสู่อนาคตที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสังคมยั่งยืนด้วยปัญญาและคุณธรรม”#DhammaDrivenBusiness, #DrDhammaDriven, #DrVichitUon, #SPU, #SripatumUniversity, #WeCreateProfessionalsByProfessionals, #จากศาลาถึงบอร์ดรูม, #มหาวิทยาลัยศรีปทุม, #วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ, #สร้างมืออาชีพด้วยมืออาชีพ, #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง



