“ผู้ใดเห็นธรรม ย่อมไม่ถูกหลอกด้วยเปลือกนอก”
พระพุทธเจ้าตรัสว่า: “ผู้ใดรู้แจ้งธรรมแล้ว ย่อมไม่หลงติดอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก แต่เข้าถึงความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใน”
(พระไตรปิฎก เล่ม 1 ข้อ 27)
ธรรมะข้อนี้เตือนให้เราใช้ ปัญญาและสติ มองเห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง
ไม่หลงไปกับภาพลักษณ์ภายนอก แต่เข้าถึง คุณค่าแท้จริงที่อยู่เบื้องหลัง ทั้งในผู้คน องค์กร หรือแนวคิด
ในมุมของการบริหาร นี่คือหัวใจของ การมองเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ
เพราะผู้นำที่เห็น “ธรรม” จะสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของความจริงและคุณค่า ไม่ใช่ภาพลักษณ์หรือความนิยมชั่วคราว
One Who Perceives the Dhamma is Not Deceived by Appearance
The Buddha said: “One who has clearly understood the Dhamma does not cling to external forms, but attains the truth concealed within.”
(Tipiṭaka Vol. 1, No. 27)
This principle of Dhamma serves as a reminder to employ wisdom (Paññā) and mindfulness (Sati) to perceive things deeply. It urges us not to be misled by mere external appearances but to access the intrinsic value hidden beneath whether in people, organizations, or concepts.
From a management perspective, this is the core of prioritizing qualitative over quantitative assessment. A leader who “perceives the Dhamma” is able to make decisions based on truth and value, rather than ephemeral image or fleeting popularity.
โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน
วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบูรณาการหลักธรรมทางพุทธศาสนาเข้ากับแนวคิดด้านการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ภายใต้ “โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ช่วยให้ผู้บริหาร นักศึกษา และสังคมทั่วไป ได้พัฒนาทัศนะที่ถูกต้อง และนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส และสมดุล สะท้อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสังคมแห่งอนาคต (University for Sustainable Society) ที่มุ่งส่งเสริมทั้ง การพัฒนาปัญญา คุณธรรม และความยั่งยืน ควบคู่กันไป สอดคล้องกับแนวทางของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีจริยธรรม และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเป็นธรรม
การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
การมองเห็นคุณค่าแท้จริงคือแก่นของการเรียนรู้เชิงลึก ช่วยให้ผู้เรียนและผู้บริหารพัฒนาปัญญาและวิจารณญาณอย่างถูกต้อง
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 4.7 — การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและคุณธรรม
SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)
การตัดสินใจโดยมองคุณค่าภายใน มากกว่าภายนอก ช่วยให้องค์กรเติบโตอย่างมั่นคงและมีจริยธรรม
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 8.3 — การส่งเสริมผู้ประกอบการและนวัตกรรมที่ยั่งยืน
SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions)
ผู้ที่เห็นธรรมย่อมมีความเที่ยงธรรม โปร่งใส และยึดมั่นในหลักคุณธรรม
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 16.6 — การสร้างสถาบันที่มีคุณธรรมและความน่าเชื่อถือ
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “ธรรมะ” คือพลังแห่งปัญญาที่สามารถนำทางให้การบริหารจัดการดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน จึงมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของในการคิด การตัดสินใจ และการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กร สังคม และประเทศชาติไปสู่อนาคตที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสังคมยั่งยืนด้วยปัญญาและคุณธรรม”#DhammaDrivenBusiness, #DrDhammaDriven, #DrVichitUon, #SPU, #SripatumUniversity, #WeCreateProfessionalsByProfessionals, #จากศาลาถึงบอร์ดรูม, #มหาวิทยาลัยศรีปทุม, #วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ, #สร้างมืออาชีพด้วยมืออาชีพ, #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง



