“ผู้รู้ ไม่ได้เอาชนะใคร แต่ชนะใจตนเอง”
พระพุทธเจ้าตรัสว่า: “ผู้ใดรู้แจ้งธรรมอันสงบด้วยตนเองแล้ว ผู้นั้นย่อมไม่หลงไปตามเสียงคำสรรเสริญ หรือคำติฉินนินทา”
(พระไตรปิฎก เล่ม 1 ข้อ 15)
ธรรมะข้อนี้สอนให้เห็นถึง พลังแห่งการรู้จักตนเองอย่างแท้จริง
ผู้ที่เข้าใจธรรม ย่อมเข้าใจใจของตน และไม่หวั่นไหวต่อเสียงจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นคำชม หรือคำติ เพราะเขาได้พบ “ความสงบ” ภายในใจ
ในทางการบริหารหรือการทำงาน ผู้ที่มีสติและรู้เท่าทันใจตนเอง จะสามารถตัดสินใจด้วยปัญญา ไม่ถูกอารมณ์นำ และไม่แสวงหาการยอมรับด้วยการเปรียบเทียบกับผู้อื่น ซึ่งเป็นพื้นฐานของภาวะผู้นำที่แท้จริง
The Knower Does Not Defeat Others, But Conquers Their Own Mind
The Buddha said: “One who has realized the tranquil Dhamma within themselves will not be misled by the sound of praise or the clamor of censure.”
(Tipiṭaka Vol. 1, No. 15)
This principle of Dhamma illustrates the power of genuine self-knowledge. The individual who comprehends the Dhamma understands their own mind and remains unwavering by external opinions, whether they be accolades or criticisms, because they have found “tranquility” within their heart.
In the sphere of management and professional work, those who possess mindfulness (Sati) and insight into their own minds can make decisions guided by wisdom (Paññā), remaining uninfluenced by emotion, and they do not seek validation through comparison with others. This is the foundation of authentic leadership.
โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน
วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบูรณาการหลักธรรมทางพุทธศาสนาเข้ากับแนวคิดด้านการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ภายใต้ “โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ช่วยให้ผู้บริหาร นักศึกษา และสังคมทั่วไป ได้พัฒนาทัศนะที่ถูกต้อง และนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส และสมดุล สะท้อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสังคมแห่งอนาคต (University for Sustainable Society) ที่มุ่งส่งเสริมทั้ง การพัฒนาปัญญา คุณธรรม และความยั่งยืน ควบคู่กันไป สอดคล้องกับแนวทางของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีจริยธรรม และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเป็นธรรม
การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being)
การรู้จักและยอมรับตนเอง ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และส่งเสริมสุขภาพจิตที่สมดุล
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 3.4 — การส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีในทุกช่วงวัย
SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
ธรรมะข้อนี้ส่งเสริมการเรียนรู้ภายใน (Inner Learning) เพื่อให้เกิด ปัญญาและความเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 4.7 — การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและคุณค่าทางจริยธรรม
SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)
ผู้นำหรือบุคลากรที่มีสติและความมั่นคงทางใจสามารถสร้างบรรยากาศการทำงานที่สงบ มีประสิทธิภาพ และมีจริยธรรม
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 8.3 — การส่งเสริมเศรษฐกิจที่มีคุณค่าและมีความรับผิดชอบ
SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions)
ผู้ที่รู้จักชนะใจตนเองย่อมเป็นผู้มีจิตสันติ ไม่ยึดติดกับอำนาจหรือการเอาชนะ ส่งผลให้เกิด องค์กรที่โปร่งใส มีความยุติธรรม และสังคมที่สงบสุข
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 16.6 — การสร้างสถาบันที่มีธรรมาภิบาลและความโปร่งใส
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “ธรรมะ” คือพลังแห่งปัญญาที่สามารถนำทางให้การบริหารจัดการดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน จึงมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของในการคิด การตัดสินใจ และการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กร สังคม และประเทศชาติไปสู่อนาคตที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสังคมยั่งยืนด้วยปัญญาและคุณธรรม”#DhammaDrivenBusiness, #DrDhammaDriven, #DrVichitUon, #SPU, #SripatumUniversity, #WeCreateProfessionalsByProfessionals, #จากศาลาถึงบอร์ดรูม, #มหาวิทยาลัยศรีปทุม, #วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ, #สร้างมืออาชีพด้วยมืออาชีพ, #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง



