“การยอมรับคือประตูสู่การเปลี่ยนแปลง”
พระพุทธเจ้าตรัสว่า: “ภิกษุทั้งหลายย่อมประกาศธรรมที่ตถาคตแสดงไว้ดีแล้ว ว่าเป็นธรรมอันบุคคลรู้ได้ด้วยตนเอง รู้ชัดด้วยปัญญาแล้ว ควรน้อมเข้ามาพิสูจน์ และพึงรู้ได้เฉพาะตน”
(พระไตรปิฎก เล่ม 1 ข้อ 7)
ธรรมะข้อนี้สอนให้เห็นว่า การยอมรับความจริงและความรู้ที่ได้ เป็นก้าวแรกสู่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง
เมื่อเรายอมรับความจริง เราจะเปิดใจเรียนรู้และปรับปรุงตนเองได้อย่างมีสติ
ในเชิงบริหาร การยอมรับข้อเท็จจริงช่วยให้องค์กรและบุคลากรปรับกลยุทธ์ ลดข้อผิดพลาด และพัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Acceptance as the Gateway to Transformation
The Buddha said: “Monks proclaim the Dhamma well-expounded by the Tathāgata, as Dhamma which is self-realized, clearly understood by wisdom, to be investigated, and to be known individually.”
(Tipiṭaka Vol. 1, No. 7)
This principle of Dhamma illustrates that accepting the truth and the knowledge one has gained is the first decisive step toward authentic transformation. When we accept reality, we open our minds to learning and can improve ourselves with mindfulness (Sati).
In the context of management, acknowledging facts allows organizations and personnel to effectively adjust strategies, minimize errors, and enhance working processes for greater efficiency.
โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน
วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบูรณาการหลักธรรมทางพุทธศาสนาเข้ากับแนวคิดด้านการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ ภายใต้ “โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ช่วยให้ผู้บริหาร นักศึกษา และสังคมทั่วไป ได้พัฒนาทัศนะที่ถูกต้อง และนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส และสมดุล สะท้อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสังคมแห่งอนาคต (University for Sustainable Society) ที่มุ่งส่งเสริมทั้ง การพัฒนาปัญญา คุณธรรม และความยั่งยืน ควบคู่กันไป สอดคล้องกับแนวทางของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีจริยธรรม และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเป็นธรรม
การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being)
การยอมรับช่วยลดความเครียดและความสับสนในชีวิต ส่งเสริมสุขภาพจิตและความสงบภายใน
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 3.4 — การส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี
SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
การยอมรับความรู้และนำไปพิสูจน์ด้วยตนเองส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการพัฒนาทักษะอย่างรอบด้าน
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 4.7 — การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและคุณค่าทางศีลธรรม
SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)
การยอมรับข้อเท็จจริงช่วยให้องค์กรตัดสินใจอย่างมั่นใจ ปรับปรุงการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 8.3 — การส่งเสริมผู้ประกอบการและนวัตกรรมในระบบเศรษฐกิจ
SDG 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace, Justice and Strong Institutions)
การยอมรับความจริงอย่างมีสติและนำไปปฏิบัติช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และความเข้มแข็งให้สถาบันและองค์กร
🔗 สอดคล้องกับเป้าหมายย่อย 16.6 — การสร้างสถาบันที่โปร่งใส มีคุณธรรม และมีประสิทธิภาพ
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “ธรรมะ” คือพลังแห่งปัญญาที่สามารถนำทางให้การบริหารจัดการดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน โครงการให้ความรู้แก่สังคมด้านธรรมะเชิงบริหารและการจัดการอย่างยั่งยืน จึงมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของในการคิด การตัดสินใจ และการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กร สังคม และประเทศชาติไปสู่อนาคตที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
“มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสังคมยั่งยืนด้วยปัญญาและคุณธรรม”#DhammaDrivenBusiness, #DrDhammaDriven, #DrVichitUon, #SPU, #SripatumUniversity, #WeCreateProfessionalsByProfessionals, #จากศาลาถึงบอร์ดรูม, #มหาวิทยาลัยศรีปทุม, #วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ, #สร้างมืออาชีพด้วยมืออาชีพ, #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง


