บัญชีสีเขียว & ESG : เทรนด์ใหม่ที่นักบัญชี SPU ต้องรู้! พลิกโฉมอาชีพสู่ Global Level 🌍

โลกหมุนไวจนตามไม่ทัน เทรนด์ความยั่งยืนไม่ได้เป็นแค่เรื่องของคนรักษ์โลกอีกต่อไป แต่กลายเป็น “หัวใจ” ของธุรกิจยุคใหม่ที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามอง และนี่คือโอกาสทองของ นักบัญชีมืออาชีพในปัจจุบัน ที่จะอัปเลเวลตัวเองให้กลายเป็นที่ต้องการของตลาด

ทำความรู้จัก “บัญชีสีเขียว” และ ESG คืออะไรกันแน่? 🤔

ลืมภาพจำเก่าๆ ของนักบัญชีที่อยู่กับแค่ตัวเลขเดบิต-เครดิตไปก่อน เพราะโลกธุรกิจวันนี้มองไกลกว่าแค่ “กำไร” แต่ต้องครอบคลุมถึง ESG ซึ่งเป็นเหมือน DNA ขององค์กรยุคใหม่ ประกอบไปด้วย

• E – Environment (สิ่งแวดล้อม) : การวัดผลกระทบของธุรกิจต่อโลกใบนี้ เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจก, การจัดการขยะ, การใช้พลังงานสะอาด
• S – Social (สังคม) : การดูแลพนักงาน, ชุมชน, และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) อย่างเป็นธรรม เช่น สวัสดิการพนักงาน, ความปลอดภัย, การมีส่วนร่วมกับชุมชน
• G – Governance (ธรรมาภิบาล) : การบริหารจัดการองค์กรอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีจริยธรรม เช่น การต่อต้านคอร์รัปชัน, โครงสร้างกรรมการบริษัท

แล้ว “บัญชีสีเขียว” (Green Accounting) ล่ะ? มันคือแขนงหนึ่งของงานบัญชีที่โฟกัสไปที่ตัว E (Environment) โดยเฉพาะ เป็นการวัดผล, บันทึก, และรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในรูปแบบของตัวเลขที่จับต้องได้ เพื่อให้องค์กรเห็นต้นทุนและประโยชน์ที่แท้จริงจากการดำเนินงานที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมนั่นเอง พูดง่ายๆ คือเปลี่ยนเรื่องรักษ์โลกให้กลายเป็น “ข้อมูลทางการเงิน” ที่ใช้วางแผนกลยุทธ์ได้จริง!

ทำไม ESG ถึงเป็น Game-Changer ของ นักบัญชีมืออาชีพในปัจจุบัน? 🚀

เพราะ ESG ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็น “ใบเบิกทาง” สู่โอกาสใหม่ๆ ทั้งสำหรับธุรกิจและอาชีพนักบัญชีโดยตรงเลย

• นักลงทุนใช้ตัดสินใจ : กองทุนทั่วโลกและนักลงทุนรายใหญ่หันมาใช้ข้อมูล ESG เป็นเกณฑ์สำคัญในการเลือกลงทุน บริษัทไหน ESG ดี ก็มีโอกาสได้รับเงินทุนมากกว่า
• กฎหมายและข้อบังคับใหม่ๆ : หลายประเทศรวมถึงไทย เริ่มมีข้อบังคับให้บริษัทจดทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูล ESG มากขึ้น นี่แหละ! คือพื้นที่ของนักบัญชีที่จะเข้ามามีบทบาทโดยตรง
• เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน : ธุรกิจที่โปร่งใสและใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม มักจะได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและดึงดูดคนเก่งๆ มาร่วมงานได้มากกว่า
• บริหารความเสี่ยง : การทำบัญชี ESG ช่วยให้องค์กรเห็นความเสี่ยงที่อาจมองไม่เห็นจากงบการเงินปกติ เช่น ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ หรือกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น

ดังนั้น บทบาทของนักบัญชีจึงเปลี่ยนจากการเป็นแค่ “ผู้บันทึกตัวเลขในอดีต” มาเป็น “นักวิเคราะห์และที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์” ที่ใช้ข้อมูลทั้งการเงินและไม่ใช่การเงิน (ESG) เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับองค์กร

สกิลที่ต้องมี! อัปเกรดตัวเองให้พร้อมสำหรับโลกบัญชียุคใหม่ 🧑‍💻

อยากเป็นนักบัญชี ESG ที่ใครๆ ก็อยากได้ตัว แค่ความรู้จาก ปริญญาตรีบัญชี อาจยังไม่พอ ต้องเสริมสกิลเหล่านี้เข้าไปด้วย

• Data Analytics : ต้องวิเคราะห์ข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเงินได้ เช่น ปริมาณการใช้ไฟฟ้า, อัตราการลาออกของพนักงาน แล้วแปลงให้เป็นข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ
• ความเข้าใจมาตรฐานสากล : ต้องรู้จักและประยุกต์ใช้มาตรฐานการรายงานความยั่งยืน เช่น GRI Standards หรือ SASB Standards ได้
• Strategic Thinking : สามารถเชื่อมโยงข้อมูล ESG เข้ากับกลยุทธ์หลักของบริษัท และให้คำแนะนำผู้บริหารได้
• Communication & Storytelling : นำเสนอรายงาน ESG ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

การศึกษาต่อในระดับ ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก ด้านบัญชีในสถาบันที่ทันสมัย จะช่วยเสริมสร้างทักษะการวิเคราะห์เชิงลึกและมุมมองเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยม

เส้นทางสู่นักบัญชี ESG มือโปร : จากปริญญาตรีบัญชี SPU สู่เวทีโลก

ข่าวดีคือน้องๆ ที่กำลังเรียนหรือสนใจเรียนด้านบัญชี ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล! ที่คณะบัญชี SPU เราเข้าใจเทรนด์โลกและพร้อมปั้นบัณฑิตให้ตอบโจทย์อนาคต

หลักสูตร ปริญญาตรีบัญชี ที่ SPU ไม่ได้สอนแค่ทฤษฎี แต่เน้นการปฏิบัติจริง สอนให้ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ๆ และที่สำคัญคือสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการรายงานยุคใหม่ รวมถึงเรื่อง ESG เข้าไปในหลักสูตร เพื่อให้บัณฑิตของเรามีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมุมมองที่กว้างไกลกว่าใคร

สำหรับใครที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง การต่อยอดสู่ระดับ ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก ก็เป็นเส้นทางที่น่าสนใจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบและให้คำปรึกษาด้านความยั่งยืน ที่มีค่าตัวสูงและเป็นที่ต้องการขององค์กรระดับโลก

โลกกำลังมองหาฮีโร่สายตัวเลขที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน และฮีโร่คนนั้นอาจเป็นคุณ! เริ่มต้นเส้นทางอาชีพนักบัญชียุคใหม่ที่พร้อมรับทุกความท้าทายได้ที่คณะบัญชี SPU วันนี้!