ESG & Sustainable Finance: ภารกิจใหม่ CFO GEN ใหม่! อัปสกิลยังไงให้ปัง สู่ความยั่งยืน 🚀

โลกหมุนไว การลงทุนก็เปลี่ยนไป! สมัยนี้ใครๆ ก็พูดถึง ESG บอกเลยว่านี่ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็น The New Standard ที่นักการเงินและ CFO ตัวท็อปต้องรู้! บทความนี้จะพาชาว GEN Z และมิลเลนเนียลสายบัญชี-การเงินไปเจาะลึกว่า ESG และ Sustainable Finance คืออะไร? และทำไมคนเรียนจบ ปริญญาตรีบัญชี, ปริญญาโท หรือแม้กระทั่ง ปริญญาเอก ด้านการเงิน ต้องรีบอัปสกิลด่วน!

1. ESG & Sustainable Finance คืออะไร? ทำไมอยู่ๆ ก็ฮิต? 🤔

ลืมภาพจำเก่าๆ ที่ว่าธุรกิจที่ดีคือธุรกิจที่ทำกำไรสูงสุดไปก่อน! โลกยุคใหม่มองไกลกว่านั้น ESG คือกรอบความคิดที่ใช้ประเมินการดำเนินงานของบริษัทแบบ 360 องศา ไม่ได้มองแค่ตัวเลขการเงินอย่างเดียว แต่ดูไปถึงความยั่งยืนในระยะยาวด้วย ประกอบไปด้วย:

• 🌳 E – Environmental (สิ่งแวดล้อม): บริษัทของคุณใส่ใจโลกใบนี้แค่ไหน? ดูตั้งแต่การจัดการขยะ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานหมุนเวียน ไปจนถึงการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ พูดง่ายๆ คือ “ธุรกิจสายกรีน” นั่นเอง
• 🤝 S – Social (สังคม): การดูแล “คน” ทั้งในและนอกองค์กรเป็นยังไง? ทั้งสวัสดิการพนักงาน ความเท่าเทียม ความปลอดภัยในที่ทำงาน การเคารพสิทธิมนุษยชน และการช่วยเหลือชุมชนรอบข้าง
• 🏛️ G – Governance (บรรษัทภิบาล): บริษัทมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้แค่ไหน? เรื่องนี้เกี่ยวกับโครงสร้างผู้บริหาร การป้องกันคอร์รัปชัน จริยธรรมทางธุรกิจ และการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเป็นธรรม

ส่วน Sustainable Finance หรือ การเงินที่ยั่งยืน ก็คือการนำปัจจัย ESG เหล่านี้มาใช้ในการตัดสินใจลงทุนหรือให้สินเชื่อ นักลงทุนสมัยใหม่ไม่ได้มองแค่ว่าบริษัทจะให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ แต่มองด้วยว่าบริษัทนั้น “ดีต่อโลก” และมีความเสี่ยงด้าน ESG ต่ำแค่ไหน ซึ่งนี่แหละคือจุดเปลี่ยนสำคัญ!

2. CFO ยุคใหม่: จาก ‘ผู้พิทักษ์ตัวเลข’ สู่ ‘สถาปนิกแห่งคุณค่า’ ✨

CFO (Chief Financial Officer) ไม่ได้มีหน้าที่แค่คุมงบประมาณและทำรายงานการเงินอีกต่อไป แต่ต้องสวมหมวก “นักกลยุทธ์” ที่เชื่อมโยงความยั่งยืนเข้ากับผลประกอบการของบริษัท ภารกิจใหม่ของ CFO คือ:

• ผนวก ESG เข้ากับกลยุทธ์การเงิน: มองหาโอกาสการลงทุนในโครงการสีเขียว (Green Projects) หรือการออกตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bonds)
• บริหารความเสี่ยงรอบด้าน: ไม่ใช่แค่ความเสี่ยงทางการเงิน แต่รวมถึงความเสี่ยงจากสภาพอากาศ (Climate Risk) และความเสี่ยงทางสังคมด้วย
• สื่อสารกับนักลงทุน: ต้อง “เล่าเรื่อง” ESG ของบริษัทให้นักลงทุนเข้าใจได้ว่าการทำดีต่อโลกสร้างมูลค่าให้บริษัทในระยะยาวได้อย่างไร
• วัดผลและรายงาน: สร้างตัวชี้วัด (Metrics) ที่จับต้องได้สำหรับเรื่อง ESG และจัดทำรายงานความยั่งยืนที่โปร่งใส น่าเชื่อถือ

3. สกิลที่ต้องมี! ต่อยอดความรู้ด้านการเงินและบัญชีให้ปังกว่าเดิม

พื้นฐานแน่นๆ จากปริญญาตรีบัญชีหรือการเงินคือต้นทุนที่ดีเยี่ยม แต่ถ้าอยากเป็นตัวตึงในสาย ESG ต้องเสริมสกิลเหล่านี้เข้าไปด้วย:

• Data Analytics & ESG Metrics: ต้องวิเคราะห์ข้อมูลที่ไม่ใช่แค่ตัวเลขทางการเงินได้ เช่น ปริมาณการปล่อยคาร์บอน, อัตราการลาออกของพนักงาน เพื่อแปลงเป็นข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ
• ความเข้าใจในมาตรฐานการรายงาน: ต้องรู้จักมาตรฐานสากลอย่าง GRI, SASB หรือ TCFD เพื่อให้การรายงาน ESG ของบริษัทเทียบเคียงกับคนอื่นได้
• Strategic Thinking: สามารถมองเห็นว่าเทรนด์ด้านความยั่งยืนจะส่งผลกระทบต่อโมเดลธุรกิจและสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้อย่างไร
• Storytelling & Communication: แปลงข้อมูล ESG ที่ซับซ้อนให้เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและสื่อสารไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. เส้นทางสร้างโปรไฟล์: จากปริญญาตรีบัญชีสู่ผู้เชี่ยวชาญ ESG ตัวท็อป

การศึกษาคือบันไดสำคัญสู่ความสำเร็จในสายงานนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ระดับไหน ก็สามารถต่อยอดไปสู่สายงาน ESG ได้

🎓 ปริญญาตรีบัญชี / การเงิน: จุดสตาร์ทสุดแกร่ง

นี่คือพื้นฐานที่ขาดไม่ได้! ความรู้เรื่องงบการเงิน, การวิเคราะห์อัตราส่วน, ระบบควบคุมภายใน และหลักการบัญชี จะเป็นรากฐานให้คุณเข้าใจว่า ESG ส่งผลกระทบต่อ “บรรทัดสุดท้าย” (Bottom Line) ของบริษัทได้อย่างไร ลองศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อาชีพนักบัญชีในอนาคต เพื่อดูว่าทักษะด้าน ESG จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างไร

🚀 ปริญญาโท: ติดเทอร์โบสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญ

การเรียนต่อปริญญาโท (Master’s Degree) จะช่วยเจาะลึกและสร้างความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น MBA ที่มีวิชาเลือกด้าน Sustainability, ปริญญาโทด้าน Sustainable Finance โดยตรง หรือแม้แต่ปริญญาโทการเงินที่เน้นเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืน จะทำให้คุณเข้าใจภาพใหญ่และความเชื่อมโยงเชิงกลยุทธ์ได้ดีขึ้น

👑 ปริญญาเอก: ปั้นคุณสู่ระดับ Thought Leader

สำหรับสายวิชาการหรือคนที่อยากเป็นผู้กำหนดทิศทาง การเรียนปริญญาเอก (Ph.D.) จะเปิดโอกาสให้คุณทำงานวิจัยลึกซึ้ง พัฒนาโมเดลการประเมินความเสี่ยง ESG ใหม่ๆ หรือสร้างกรอบการดำเนินงานด้านการเงินที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในระดับนโยบายและองค์กรระหว่างประเทศ