CFO 4.0 : ไม่ใช่แค่นักบัญชี สู่บทบาทการขับเคลื่อน Digital Transformation ในองค์กร
ลืมภาพจำเก่าๆ ของ CFO ที่นั่งจมกองเอกสารและตัวเลขไปได้เลย! ยุคนี้คือยุคของ CFO 4.0 ที่ต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ พกสกิลด้านเทคโนโลยีและ Data Analytics มาเต็มกระเป๋า เพื่อพาองค์กรพุ่งทะยานในโลกดิจิทัล บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่า CFO 4.0 คือใคร? และวุฒิการศึกษาตั้งแต่ ปริญญาตรีบัญชี ไปจนถึง ปริญญาโท และ ปริญญาเอก จะเป็นบันไดสู่ความสำเร็จนี้ได้อย่างไร
1. CFO 4.0 คือใคร เกมเปลี่ยน จากผู้คุมกฎสู่เพื่อนคู่คิดเชิงกลยุทธ์
CFO (Chief Financial Officer) ในอดีตอาจถูกมองว่าเป็น “ผู้คุมกฎทางการเงิน” ที่เน้นการทำบัญชี รายงานผลประกอบการ และควบคุมต้นทุน แต่ในยุค Industry 4.0 บทบาทนี้ได้ถูกยกระดับขึ้นอย่างสิ้นเชิง CFO 4.0 คือ “นักกลยุทธ์ทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” (Data-Driven Strategic Partner)
พวกเขาไม่ได้มองแค่ตัวเลขในอดีต แต่มองไปข้างหน้าเพื่อคาดการณ์อนาคต ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลมหาศาล (Big Data) มาวิเคราะห์เพื่อหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญของ CEO ในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กร เรียกได้ว่าเปลี่ยนจาก Back Office มาสู่ Front Line อย่างเต็มตัวเลยทีเดียว การบริหาร การเงิน ในยุคนี้จึงซับซ้อนและท้าทายกว่าเดิมมาก
2. สกิลเซ็ตที่ต้องมีของ CFO 4.0
การจะก้าวขึ้นมาเป็น CFO 4.0 ได้นั้น ไม่ใช่แค่เก่งเรื่องตัวเลข แต่ต้องมีสกิลรอบด้านที่ผสมผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ ดังนี้
- Data Analytics & Literacy: ต้องอ่านข้อมูลเป็น เล่าเรื่องจากข้อมูลได้ และสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหา Insight ที่ซ่อนอยู่ ไม่ใช่แค่ทำรีพอร์ต แต่ต้องบอกได้ว่า “แล้วยังไงต่อ?”
- Tech Savviness: เข้าใจเทคโนโลยีหลักๆ ที่ส่งผลต่อธุรกิจ เช่น Cloud Computing, AI, Machine Learning, Blockchain เพื่อประเมินการลงทุนด้านเทคโนโลยีได้อย่างคุ้มค่า และนำมาปรับใช้กับฝ่าย การเงิน ได้
- Strategic Thinking: มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองเห็นภาพรวมของธุรกิจและตลาด สามารถเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินเข้ากับกลยุทธ์ขององค์กรได้
- Communication & Storytelling: สามารถสื่อสารเรื่อง การเงิน ที่ซับซ้อนให้คนนอกสายงานเข้าใจได้ง่าย สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและบอร์ดบริหาร
- Leadership & Change Management: เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะท้าทายวิธีคิดแบบเดิมๆ และนำพาทีมงานให้ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีและกระบวนการทำงานใหม่ๆ
3. บทบาท CFO 4.0 กับการขับเคลื่อน Digital Transformation
CFO 4.0 คือหัวใจสำคัญในการผลักดัน Digital Transformation ให้เกิดขึ้นจริงในองค์กร โดยมีบทบาทหลักๆ ดังนี้
- จัดสรรงบประมาณอย่างชาญฉลาด: ไม่ใช่แค่ตัดงบ แต่เป็นการเลือกลงทุนในเทคโนโลยีที่สร้างผลตอบแทน (ROI) สูงสุดให้กับองค์กร และสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว
- ใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ: สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจ (Data-Driven Culture) ลดการใช้ความรู้สึกหรือประสบการณ์ส่วนตัว
- ปรับกระบวนการทำงานให้เป็นอัตโนมัติ (Automation): นำเทคโนโลยีอย่าง RPA (Robotic Process Automation) มาใช้กับงาน Routine ในฝ่ายบัญชีและ การเงิน เพื่อลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพ ให้ทีมงานมีเวลาไปทำงานเชิงวิเคราะห์มากขึ้น
- วัดผลและประเมินความสำเร็จ: กำหนดตัวชี้วัด (KPIs) ที่ชัดเจนเพื่อวัดผลความสำเร็จของโปรเจกต์ดิจิทัลต่างๆ และนำเสนอให้ผู้บริหารเห็นภาพความคืบหน้าได้อย่างเป็นรูปธรรม
ข้อมูลจาก Deloitte ชี้ให้เห็นว่า CFO ที่ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล คือผู้ที่สามารถสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมความเสี่ยงและการสร้างโอกาสในการเติบโตได้
4. เส้นทางสู่ CFO 4.0 : พื้นฐานปริญญาตรีบัญชี สู่ปริญญาโทด้านการเงิน
วุฒิการศึกษาเป็นเหมือนแผนที่นำทางและเป็นใบเบิกทางสำคัญในการก้าวสู่ตำแหน่ง CFO 4.0 ซึ่งแต่ละระดับก็มีความสำคัญแตกต่างกันไป
พื้นฐานที่แข็งแกร่งด้วยปริญญาตรีบัญชี และการเงิน
นี่คือจุดเริ่มต้นที่ขาดไม่ได้! การจบ ปริญญาตรีบัญชี หรือ การเงิน เปรียบเสมือนการสร้างรากฐานของตึกสูง ทำให้คุณเข้าใจหลักการพื้นฐาน งบการเงิน มาตรฐานบัญชี และโครงสร้าง การเงิน ขององค์กรอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการวิเคราะห์และสื่อสารเรื่องตัวเลขได้อย่างมั่นใจ
ต่อยอดสู่ความเชี่ยวชาญด้วยปริญญาโท
เมื่อมีพื้นฐานที่แน่นแล้ว การเรียนต่อ ปริญญาโท คือ Game Changer ที่จะช่วยติดปีกให้คุณ ไม่ว่าจะเป็น MBA (Master of Business Administration) ที่ช่วยให้มองภาพธุรกิจได้กว้างขึ้น, ปริญญาโทด้าน การเงิน (Master of Finance) ที่เจาะลึกเรื่องการลงทุนและการบริหารความเสี่ยง หรือแม้แต่ ปริญญาโท ด้าน Data Science/Business Analytics ที่กำลังมาแรงสุดๆ ซึ่งจะช่วยเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ข้อมูลโดยตรง
ก้าวสู่ระดับสูงสุดกับปริญญาเอก
แม้จะไม่ใช่เส้นทางสำหรับทุกคน แต่การเรียนถึงระดับ ปริญญาเอก (Ph.D.) ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ การเงิน หรือเศรษฐศาสตร์ จะช่วยสร้างความเชี่ยวชาญในระดับที่ลึกซึ้งที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นผู้นำทางความคิด (Thought Leader) หรือทำงานวิจัยขั้นสูง ซึ่งเป็นโปรไฟล์ที่โดดเด่นอย่างมากในเวทีระดับโลก
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพราะโลกเทคโนโลยีหมุนเร็วมาก การอัปเดต ทักษะที่จำเป็นสำหรับนักบัญชียุคใหม่ และความรู้ด้านการเงินอยู่เสมอจึงเป็นกุญแจสำคัญ
5. ถาม-ตอบ (FAQ) เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ CFO 4.0
Q1: จำเป็นต้องจบปริญญาโทเพื่อเป็น CFO 4.0 หรือไม่?
A: ไม่ใช่ข้อบังคับ 100% แต่เป็น “แต้มต่อ” ที่สำคัญมาก การเรียน ปริญญาโท ช่วยเปิดมุมมองเชิงกลยุทธ์ สร้างคอนเนคชั่น และทำให้โปรไฟล์ของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง สำหรับองค์กรขนาดใหญ่หรือบริษัทข้ามชาติ การมีวุฒิ ปริญญาโท แทบจะเป็นคุณสมบัติพื้นฐานไปแล้ว
Q2: ถ้าตอนนี้เป็นนักบัญชีแบบดั้งเดิม จะเริ่มต้นปรับตัวอย่างไร?
A: เริ่มจากก้าวออกจาก Comfort Zone ครับ! ลองเรียนรู้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานอย่าง Power BI หรือ Tableau, ติดตามข่าวสารด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับ FinTech, และพยายามมองหา “เรื่องราว” ที่ซ่อนอยู่หลังตัวเลขในรีพอร์ตที่คุณทำ ไม่ใช่แค่รายงานผล แต่ลองวิเคราะห์ว่า “ทำไม” ตัวเลขถึงเป็นแบบนั้น และมันจะส่งผลอะไรต่อธุรกิจในอนาคต การมีพื้นฐานจาก ปริญญาตรีบัญชี เป็นข้อได้เปรียบอยู่แล้ว แค่ต้องต่อยอดทักษะใหม่ๆ เข้าไป
Q3: นอกจากเรื่องการเงินแล้ว ทักษะอะไรสำคัญที่สุดสำหรับ CFO 4.0?
A: ทักษะด้าน “คน” หรือ Soft Skills ครับ โดยเฉพาะการสื่อสาร (Communication) และการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Leadership) เพราะ CFO 4.0 ต้องทำงานร่วมกับทุกแผนก ต้องสามารถอธิบายเรื่องการเงินที่ซับซ้อนให้ทีมอื่นเข้าใจ และต้องสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนพร้อมที่จะปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลไปพร้อมกัน ต่อให้วิเคราะห์ข้อมูลเก่งแค่ไหน แต่ถ้าสื่อสารไม่เป็น ก็ยากที่จะขับเคลื่อนองค์กรได้ครับ
อยากรู้ลึกถึง Digital Transformation คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม พร้อมให้ความรู้แก่ เพราะเปิดสอนทั้งปริญญาตรี-โท-เอก ด้วยนะครับ