Time Management: จัดการเวลาอย่างมือโปรสำหรับนักบัญชี สกิลเทพที่ต้องมี!
ในโลกของตัวเลขที่ทุกวินาทีมีค่า เดดไลน์ที่วิ่งเข้าใส่เหมือนรถไฟความเร็วสูง และความถูกต้องที่ต้องเป๊ะ 100% อาชีพ “นักบัญชี” ไม่ได้ต้องการแค่ความแม่นยำ แต่ยังต้องการ “สกิลการจัดการเวลา” ขั้นเทพ! ไม่ว่าคุณจะกำลังเรียน ปริญญาตรีบัญชี, ต่อสู้กับวิทยานิพนธ์ระดับ ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก บทความนี้คือคัมภีร์ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นนักบัญชีตัวตึง บริหารเวลาได้เฉียบคมจนทุกคนต้องร้องว้าว!
🚀 ทำไมการจัดการเวลาถึงเป็น Soft Skills ที่นักบัญชีขาดไม่ได้?
หลายคนอาจคิดว่านักบัญชีเก่งคือคนทำตัวเลขเก่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว Soft Skills คือตัวตัดสินเลยว่าใครจะ “รุ่ง” หรือ “ร่วง” ในสายงานนี้ และการจัดการเวลาคือหนึ่งใน Soft Skills ที่ทรงพลังที่สุด เพราะ:
- ลดความผิดพลาด (Reduce Errors): เมื่อเราไม่รีบร้อน มีเวลาทบทวน งานที่ออกมาก็จะผิดพลาดน้อยลง ซึ่งสำคัญมากในงานบัญชีที่ตัวเลขผิดตัวเดียวอาจสร้างความเสียหายมหาศาล
- บริหารเดดไลน์ได้อยู่หมัด (Meet Deadlines): ไม่ว่าจะเป็นการปิดงบประจำเดือน, ยื่นภาษี, หรืองาน Audit การจัดการเวลาที่ดีช่วยให้คุณส่งงานได้ตรงเวลาเสมอ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองและองค์กร
- ลดความเครียด เพิ่ม Work-Life Balance: การปั่นงานในนาทีสุดท้ายคือบ่อเกิดแห่งความเครียด แต่ถ้าเราวางแผนดีๆ เราจะมีเวลาพักผ่อนและใช้ชีวิตส่วนตัวได้มากขึ้น ชีวิตดี๊ดี!
- สร้างโอกาสเติบโตในสายงาน: คนที่จัดการเวลาได้ดีมักจะมีเวลาเหลือไปพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือรับผิดชอบโปรเจกต์ที่ท้าทายขึ้น ซึ่งเป็นบันไดสู่การเลื่อนตำแหน่งในอนาคต ตั้งแต่ระดับ Junior ไปจนถึงผู้บริหาร
💡 4 เทคนิคจัดการเวลาระดับโปร สไตล์นักบัญชี Gen Z
ลืมวิธีเก่าๆ ที่น่าเบื่อไปได้เลย! นี่คือ 4 เทคนิคสุดปังที่ใช้งานได้จริงและเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
1. Eisenhower Matrix: จัดลำดับความสำคัญแบบประธานาธิบดี
แบ่งงานทั้งหมดออกเป็น 4 ช่อง ตามความ “สำคัญ” และ “เร่งด่วน”:
- สำคัญและเร่งด่วน (Do): งานปิดงบที่เดดไลน์วันนี้, ปัญหาด่วนที่ลูกค้าแจ้งมา -> ทำทันที!
- สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน (Decide): วางแผนงบประมาณไตรมาสหน้า, การเรียนคอร์สเสริมทักษะ -> วางแผนและกำหนดเวลาทำ
- ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน (Delegate): ตอบอีเมลทั่วไป, จัดการเอกสารบางอย่าง -> มอบหมายให้คนอื่น หรือใช้เทคโนโลยีช่วย
- ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน (Delete): ไถโซเชียลมีเดีย, จัดโต๊ะที่ไม่จำเป็น -> ตัดทิ้งไปก่อนเลย!
2. Pomodoro Technique: เทคนิคจับเวลามะเขือเทศ
เหมาะสุดๆ กับงานที่ต้องใช้สมาธิสูง เช่น การตรวจสอบบัญชี (Audit) หรือการกระทบยอด (Reconcile)
- ตั้งเป้าหมายงานที่ต้องทำให้ชัดเจน
- จับเวลาทำงาน 25 นาที (ห้ามวอกแวกเด็ดขาด!)
- เมื่อครบ 25 นาที ให้พัก 5 นาที
- ทำครบ 4 รอบ (เรียกว่า 1 Pomodoro) ให้พักยาว 15-30 นาที
3. Time Blocking: บล็อกคิวให้ตัวเอง
เปิดปฏิทิน (เช่น Google Calendar) แล้ว “จองเวลา” ให้กับทุกอย่างในชีวิต ไม่ใช่แค่งาน! เช่น 9:00-10:00 ตอบเมล, 10:00-12:00 ทำ Reconciliation, 12:00-13:00 พักเที่ยง, 13:00-15:00 ประชุมทีม… การทำแบบนี้ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของวันและป้องกันการถูกขัดจังหวะ
4. Task Batching: จับงานคล้ายกันมาทำพร้อมกัน
สมองของเราจะทำงานช้าลงเมื่อต้องสลับไปมาระหว่างงานคนละประเภท (Context Switching) ลองเปลี่ยนมา “รวมกลุ่ม” งานที่คล้ายกันทำในรวดเดียว เช่น จัดเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อโทรศัพท์เคลียร์งานกับทุกฝ่าย, จัดอีก 1 ชั่วโมงเพื่อจัดการเอกสารทั้งหมด วิธีนี้ช่วยให้สมองโฟกัสและทำงานได้เร็วขึ้นมาก
⚙️ Tech-Savvy Accountant: รวม Tools เทพช่วยจัดการเวลา
ยุคนี้ต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์! นี่คือแอปพลิเคชันที่จะมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ:
- Project Management (Trello, Asana, ClickUp): ช่วยให้เห็นภาพรวมของโปรเจกต์ทั้งหมด ใครรับผิดชอบอะไร อยู่ในขั้นตอนไหน เหมาะมากกับการทำงานเป็นทีม
- Note-Taking & Knowledge Base (Notion, Evernote): ใช้จดบันทึก สรุปการประชุม สร้าง Checklist หรือแม้แต่สร้างฐานข้อมูลความรู้ทางบัญชีส่วนตัว
- Calendar & Scheduling (Google Calendar, Calendly): นอกจาก Time Blocking แล้ว ยังใช้แชร์ตารางงานเพื่อนัดประชุมได้ง่ายๆ ไม่ต้องถามไปมาว่า “ว่างไหม?”
🎓 จากห้องเรียนสู่โลกทำงาน: จัดการเวลาตั้งแต่ปริญญาตรีบัญชีถึงระดับโปร
ทักษะการจัดการเวลาต้องเริ่มสร้างตั้งแต่วันนี้! ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงไหนของชีวิตการเรียนและการทำงาน
เส้นทางสู่ความสำเร็จตั้งแต่ระดับปริญญาตรีบัญชี ถึง ปริญญาเอก
การบริหารเวลาเป็นหนึ่งใน Soft Skills ที่สำคัญที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จในทุกระดับการศึกษาและการทำงาน
- ระดับปริญญาตรีบัญชี: ช่วงเวลานี้คือสนามฝึกซ้อมที่ดีที่สุด ลองใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อบาลานซ์ระหว่างการเข้าเรียน ทำการบ้าน อ่านหนังสือสอบ และกิจกรรมนอกหลักสูตร การสร้างวินัยตั้งแต่ตอนนี้จะส่งผลดีในระยะยาว
- ระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอก: ความท้าทายจะเพิ่มขึ้นอีกระดับ คุณต้องบริหารเวลาสำหรับงานวิจัย การเขียนวิทยานิพนธ์ การสอน (สำหรับบางคน) และการเรียนที่ลึกขึ้น การใช้ Time Blocking และ Pomodoro จะมีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำงานวิจัยที่ต้องใช้สมาธิสูง
- โลกการทำงานจริง: ทุกเทคนิคที่ฝึกฝนมาจะได้ใช้จริง! คุณต้องเจอกับเดดไลน์ที่แท้จริง ความคาดหวังจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมทีม การมี Soft Skills ด้านการจัดการเวลาที่ดีจะทำให้คุณโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับอย่างรวดเร็ว
หากคุณสนใจพัฒนาทักษะอื่นๆ เพิ่มเติม ลองอ่านบทความเกี่ยวกับ 5 ทักษะสำคัญสำหรับนักบัญชียุคดิจิทัล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ
🤔 Q&A ถาม-ตอบเคลียร์ทุกข้อสงสัย (FAQ)
Q1: ถ้ามีงานด่วนแทรกเข้ามา ควรจัดการยังไงไม่ให้แผนที่วางไว้พังคะ?
A: ใจเย็นๆ ก่อนค่ะ! ให้ใช้หลัก Eisenhower Matrix ประเมินงานด่วนนั้นก่อนว่า “สำคัญและเร่งด่วน” จริงหรือไม่ ถ้าใช่ ให้ดูตารางงานที่ทำ Time Blocking ไว้ แล้วดูว่าพอจะสลับกับงานไหนที่ “สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน” ได้บ้าง การมีแผนสำรองหรือเผื่อเวลาว่าง (Buffer time) ไว้ในแต่ละวันประมาณ 30-60 นาทีก็จะช่วยลดปัญหานี้ได้มากค่ะ
Q2: สำหรับนักศึกษาที่กำลังเรียนปริญญาโทบัญชี ควรเน้นเทคนิคจัดการเวลาแบบไหนเป็นพิเศษ?
A: สำหรับการเรียนระดับ ปริญญาโท ที่ต้องแบ่งเวลาให้กับการเรียนและงานวิจัย ขอแนะนำให้ใช้ “Time Blocking” ร่วมกับ “Pomodoro” ค่ะ ใช้ Time Blocking ในการวางแผนภาพรวมรายสัปดาห์ เช่น บล็อกเวลาสำหรับเข้าคลาส, อ่านเปเปอร์, และเขียนวิทยานิพนธ์ จากนั้นในแต่ละบล็อกของงานวิจัย ให้ใช้เทคนิค Pomodoro เพื่อช่วยให้โฟกัสกับเนื้อหาที่ซับซ้อนได้ดีขึ้นโดยไม่หมดไฟไปก่อนค่ะ
Q3: ระหว่างความรู้ทางบัญชี (Hard Skills) กับการจัดการเวลา (Soft Skills) อะไรสำคัญกว่ากัน?
A: ทั้งสองอย่างสำคัญและต้องไปคู่กันค่ะ! Hard Skills คือ “ตั๋วเข้างาน” ที่ทำให้คุณทำงานบัญชีได้ แต่ Soft Skills อย่างการจัดการเวลา คือ “ตั๋วอัปเกรด” ที่จะทำให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเครียด และเติบโตในสายอาชีพได้ไกลกว่าคนอื่น นักบัญชีที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีความสมดุลของทั้งสองทักษะนี้ค่ะ
การจัดการเวลาไม่ใช่พรสวรรค์ แต่เป็นทักษะที่ฝึกฝนได้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะยังเป็นนักศึกษา ปริญญาตรีบัญชี หรือเป็นมืออาชีพแล้วก็ตาม การลงทุนเวลาเพื่อฝึกฝน Soft Skills นี้ จะเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุดในเส้นทางอาชีพนักบัญชีของคุณอย่างแน่นอน!
สำหรับข้อมูลมาตรฐานวิชาชีพบัญชี สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์
“ก้าวสู่อนาคตการบัญชี” ด้วยการเรียนที่เชื่อมโยงทั้งความรู้ทางทฤษฎีและการลงมือทำจริง พร้อมต่อยอดด้วยทักษะดิจิทัล AI และการวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อสร้างบัณฑิตที่พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ
โดย อาจารย์กิตติยา จิตต์อาจหาญ คณะบัญชีมหาวิทยาลัยศรีปทุม