Big Data & Data Visualization : แนวทางใหม่ให้นักบัญชีสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ

Big Data & Data Visualization : อาวุธลับอัปสกิลนักบัญชี Gen Z สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจแบบตัวท็อป

ลืมภาพจำนักบัญชีนั่งจ้องตัวเลขใน Excel จนตาลายไปได้เลย! ยุคนี้ใครๆ ก็พูดถึง “Data” และถ้าคุณคือชาวบัญชี ไม่ว่าจะเรียนอยู่ระดับ ปริญญาตรีบัญชี หรือกำลังต่อยอดในระดับ ปริญญาโท ไปจนถึง ปริญญาเอก การมีสกิลด้าน Data Analytics ติดตัว คือตั๋ว VIP สู่การเป็นนักบัญชีสาย стратег (Strategic Accountant) ที่องค์กรไหนๆ ก็อยากได้ตัว!

1. นักบัญชียุคใหม่: ไม่ใช่แค่คนทำบัญชี แต่เป็น “นักเล่าเรื่องจากข้อมูล”

ในอดีต งานของนักบัญชีอาจเน้นไปที่การบันทึกข้อมูลในอดีต (Historical Data) เพื่อทำงบการเงินให้ถูกต้องตามมาตรฐาน แต่โลกธุรกิจที่หมุนเร็วกว่า 5G ทำให้บทบาทนี้เปลี่ยนไป! ผู้บริหารไม่ได้ต้องการแค่ “ตัวเลข” แต่ต้องการ “ข้อมูลเชิงลึก (Insight)” ที่ซ่อนอยู่หลังตัวเลขเหล่านั้น เพื่อใช้ตัดสินใจทางธุรกิจในอนาคต

นี่คือจุดที่นักบัญชีต้องอัปเกรดตัวเองจากการเป็น “ผู้บันทึก” สู่การเป็น “นักวิเคราะห์และนักเล่าเรื่อง” ที่สามารถแปลงข้อมูลการเงินและข้อมูลอื่นๆ ของบริษัทให้กลายเป็น Story ที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง ตั้งแต่ระดับ ปริญญาตรีบัญชี ก็ควรเริ่มฝึกฝนสกิลการตีความตัวเลขได้แล้ว

2. Big Data คืออะไร? แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับโต๊ะทำงานเรา?

Big Data ไม่ใช่แค่ข้อมูลเยอะๆ แต่คือข้อมูลมหาศาลที่หลากหลายและเกิดขึ้นเร็วมาก (Volume, Variety, Velocity) ซึ่งระบบแบบเดิมๆ จัดการไม่ไหว ลองนึกภาพตาม:

  • ข้อมูลการขาย: ไม่ใช่แค่ยอดขายรายวัน แต่เป็นข้อมูลการคลิกทุกครั้งบนเว็บไซต์ E-commerce, สินค้าที่คนหยิบใส่ตะกร้าแล้วไม่ซื้อ
  • ข้อมูลลูกค้า: พฤติกรรมการซื้อ, ความเห็นบนโซเชียลมีเดีย, ข้อมูลจากระบบ CRM
  • ข้อมูลซัพพลายเชน: ข้อมูลการขนส่งแบบ real-time, สต็อกสินค้าจากซัพพลายเออร์

ข้อมูลเหล่านี้คือขุมทรัพย์! นักบัญชีที่เข้าใจ Data Analytics สามารถนำข้อมูลการเงินไปเชื่อมโยงกับ Big Data เหล่านี้ เพื่อหา Correlation ที่น่าทึ่ง เช่น “แคมเปญการตลาด A ทำให้ต้นทุนต่อการได้ลูกค้าใหม่ (CAC) ลดลง 15% ในกลุ่มลูกค้าอายุ 25-34 ปี” นี่คือการสร้างมูลค่าเพิ่มที่แท้ทรู!

3. Data Visualization: เสกตัวเลขน่าเบื่อให้เป็น Dashboard สุดปัง!

การมี Insight ขั้นเทพแต่ไม่มีใครเก็ทก็เปล่าประโยชน์! Data Visualization คือศิลปะการแปลงข้อมูลตัวเลขที่ซับซ้อนให้กลายเป็นภาพ กราฟ หรือ Dashboard ที่สวยงามและเข้าใจง่ายในพริบตา มันคือการเปลี่ยน “รายงานหนาเตอะ” ให้เป็น “หนังฟอร์มยักษ์” ที่ทุกคนอยากดู

เครื่องมือยอดฮิตที่นักบัญชียุคใหม่ต้องรู้จัก ได้แก่ Tableau, Microsoft Power BI, และ Google Data Studio ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลได้หลากหลาย และสร้าง Dashboard แบบ Interactive ที่ผู้บริหารสามารถคลิกดูข้อมูลเจาะลึกได้ด้วยตัวเอง

Pro Tip: ลองเข้าไปศึกษาและดาวน์โหลดเวอร์ชันฟรีมาลองเล่นได้เลย! อย่าง Tableau Public ถือเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้าง Portfolio ชั้นเยี่ยม

4. เจาะลึกทักษะ Data Analytics ที่เด็กบัญชีต้องมีติดตัว

โอเค! แล้วถ้าอยากเป็นนักบัญชีสายดาต้า ต้องมีสกิลอะไรบ้าง? ไม่ว่าคุณจะอยู่ในระดับ ปริญญาตรีบัญชี หรือกำลังวางแผนเรียนต่อ ปริญญาโท นี่คือลิสต์สกิลที่ต้องรีบเสริมด่วน:

– Analytical & Critical Thinking:

หัวใจสำคัญที่สุด! คือความสามารถในการตั้งคำถามที่ถูกต้องกับข้อมูล, มองเห็นความผิดปกติ, และเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายๆ แหล่งเพื่อหาคำตอบทางธุรกิจ

– Spreadsheet Skills (ขั้นเทพ):

Excel หรือ Google Sheets ยังไม่ตาย! แต่ต้องใช้ให้เป็นมากกว่าแค่ VLOOKUP ลองศึกษา PivotTables, Power Query, และ Data Models ให้คล่อง

– Data Visualization Tools:

อย่างที่บอกไป เลือกใช้ Tableau หรือ Power BI ให้เป็นอย่างน้อย 1 ตัว เพื่อสร้างรายงานที่ “ว้าว” และสื่อสารได้ทรงพลัง

– (Optional) Basic Programming/Querying:

สำหรับใครที่อยากไปให้สุดในสายงานนี้ โดยเฉพาะระดับ ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก การเข้าใจภาษา SQL เพื่อดึงข้อมูล หรือพื้นฐานภาษา Python/R สำหรับการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน จะทำให้คุณโดดเด่นและมีค่าตัวสูงลิ่ว! หากคุณสนใจศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น ลองดู แนวทางการเลือกเรียนต่อปริญญาโทที่ใช่สำหรับคุณ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกหลักสูตรที่เน้นด้าน Data Analytics โดยเฉพาะ

5. ถาม-ตอบ (FAQ): เคลียร์ทุกข้อสงสัยสำหรับชาวบัญชีสาย Data

Q: จำเป็นต้องเขียนโค้ดเก่งระดับโปรแกรมเมอร์เลยไหม?

A: ไม่จำเป็นเลย! สำหรับนักบัญชีส่วนใหญ่ การใช้เครื่องมืออย่าง Power BI หรือ Tableau ที่เป็นแบบ Low-code/No-code ก็เพียงพอแล้ว ขอแค่เข้าใจ Logic และหลักการทำงานของข้อมูลก็พอ ส่วนการเขียนโค้ด (SQL/Python) ถือเป็นสกิลเสริมสำหรับคนที่อยากเจาะลึกไปในสายงาน Data Scientist หรือ Business Intelligence โดยเฉพาะ

Q: ตอนนี้ยังเรียน ปริญญาตรีบัญชี อยู่ จะเริ่มเรียนรู้ทักษะพวกนี้ได้จากที่ไหน?

A: เริ่มได้เลย! ปัจจุบันมีคอร์สออนไลน์ฟรีและราคาไม่แพงมากมายบนแพลตฟอร์มอย่าง Coursera, edX, หรือแม้แต่ YouTube ลองหาคอร์ส “Data Analytics for Beginners” หรือ “Tableau/Power BI for Beginners” ดูได้เลย นอกจากนี้ ลองทำโปรเจกต์เล็กๆ จากชุดข้อมูลสาธารณะ (Public Datasets) เพื่อสร้าง Portfolio ก็เป็นวิธีที่ดีมาก

Q: ทักษะด้าน Data จะมาแทนที่ความรู้บัญชีแบบดั้งเดิมหรือไม่?

A: ไม่ใช่การแทนที่ แต่เป็นการ “ต่อยอด” ครับ! ความรู้หลักการบัญชี, มาตรฐานการบัญชี, และความเข้าใจในงบการเงินยังคงเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุด ทักษะด้าน Data Analytics คือเครื่องมือที่มาเสริมให้เรานำรากฐานที่แข็งแกร่งนี้ไปสร้างมูลค่าและให้ข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น นักบัญชีที่มีทั้งสองอย่างในตัว คือคนที่องค์กรตามหา!

บทสรุป: ถึงเวลาติดปีกให้นักบัญชี!

การมาถึงของ Big Data และเครื่องมือ Data Visualization ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่เป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่สำหรับนักบัญชีที่จะยกระดับอาชีพของตัวเอง จากผู้ทำงานเบื้องหลังมาสู่การเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ การลงทุนเวลาเพื่อเรียนรู้ทักษะ Data Analytics ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นในระดับ ปริญญาตรีบัญชี หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ ปริญญาเอก คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่คุ้มค่าที่สุดอย่างแน่นอน!

 

อาจารย์ยุทธนา แช่มชูกุล อาจารย์ประจำคณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม

Most Popular

Categories