70 dB Cafe (Seventy Decibel)
เป็นคาเฟที่โปรเจกต์จัดขึ้นมาเพื่อหาทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับคนที่ไม่ได้อยากนั่งทำงานที่บ้านหรือชอบอยู่บ้าน
แต่ยังคงชอบความสงบและความเป็นส่วนตัวอีกทั้งยังชอบดื่มชาหรือกาแฟจากการสัมภาษณ์ลูกค้าตามคาเฟต่างๆ ที่ไปมาคนที่มานั่งทำงานตามคาเฟเนื่องจากนั่งทำงานอยู่บ้านแล้วเกิดความเครียดหรือมีความคิดที่ว่าบ้านคือสถานที่พักผ่อนมากกว่าจะนั่งทำอะไรเครียดๆจึงทำให้พวกเราเล็งเห็นว่า โปรเจกต์ในครั้งนี้ควรได้ชื่อว่า “SECOND HOUSE”
หรือเรียกว่าบ้านหลังที่สองซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากการได้สัมภาษณ์จากบุคคลที่มีปีปัญหาคล้ายๆกันเกี่ยวกับเรื่องเสียงตามร้านกาแฟหรือสิ่งที่เรียกว่า Co-Working Spaceทำให้สมาธิในการทำงานของพวกเขาลดลงแม้จะเป็นพื้นที่สาธารณะที่ใช้ร่วมกันแต่ก็ให้ความสงบเงียบเหมือนนั่งอยู่ในบ้านตัวเองที่ไม่มีเสียงสิ่งเร้าใดๆเราจึงเสาะหาวิธีการแก้ปัญหาที่จะช่วยปิดช่องโหว่หรือแก้ไขปัญหาในสิ่งที่กลุ่มคมคนเหล่านี้ไม่สามารถแก้ได้ด้วยตัวเอง
Target group :
กลุ่มลูกค้าช่วงวัย 20-30 ปี
ที่ต้องการพื้นที่ทำงานไร้เสียงรบกวนที่ไม่ใช่บ้าน
มีการตกแต่งที่สวยงามหรือมีการสร้างบรรยากาศ
รวมถึงชอบดื่มชาและกาแฟและต้องการสถานที่ๆ สะดวกต่อการเดินทาง
Solution :
เป็นร้านกาแฟที่มีป้าย ‘ขอความร่วมมือในการเข้าใช้บริการ’
มีการเขียนขอความร่วมมือไว้หน้าร้านเพื่อเป็นการเข้าใจตรงกันก่อนที่ลูกค้าจะเข้าใ
ช้บริการว่า “ร้านนี้เป็นพื้นที่สำหรับคนที่มาเพื่อหาพื้นที่ใน การทำงาน
ซึ่งห้ามใช้เสียงดัง ร้านนี้ห้ามใช้เสียงเกิน 70 dB และ
ร้านนี้ไม่รับสัตว์เลี้ยงและไม่รับเด็ก” และมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือพิเศษ เช่น มีการแจก
‘ที่อุดหู’ เพื่อเป็นอีก 1 ทางเลือกในการใช้บริการ
เพื่อความเงียบที่ลูกค้าต้องการมากกว่าเดิม ซึ่งฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ,
มีเครื่องวัดระดับเสียงติดอยู่ทุกโต๊ะในร้าน และทุกโต๊ะจะต้องใช้เสียง ไม่เกิน 70 dB
เพื่อความเงียบสงบ , มี Movable silence booth
หรือห้องเก็บเสียงเคลื่อนที่ขนาดเล็กที่สามารถกันเสียงเข้าและเสียงออกได้ 100%
สำหรับลูกค้าต้องการความเงียบสูงสุด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเช่า
แต่จะต้องสั่งขนมหรือเครื่องดื่มจากทางร้านให้ได้ตามยอดที่กำหนด
จุดเด่นของ 70 dB cafe :
มีป้ายขอความร่วมมือชัดเจน เป็นพื้นที่ No pet zone และ
No kid zone ไม่มีค่าบริการในการเข้าใช้ ร้านมีการเกณฑ์พนักงานอยู่เสมอ
ทั้งหน้าตา และบุคลิกภาพ มีการตกแต่งให้ออกมามีบรรยากาศเหมือนห้องสมุด
สามารถหยิบหนังสือในร้านอ่านได้ฟรี
และมีโซนเครื่องนวดสำหรับคนที่นั่งทำงานนานๆ หรือคนมีปัญหา office syndrome
ทำไมทีมของเราถึงทำให้ธุรกิจนี้สำเร็จได้ :
Business model (แผนธุรกิจของร้าน)
Financial model และรายละเอียดการลงทุนเริ่มแรก
(https://docs.google.com/spreadsheets/d/1GgC5L12DyeCDvnVTUUPDMij
SdIGHnLesILkRmWUtP70/edit)
ความรู้ทางบัญชีที่นำมาใช้ :
เกี่ยวกับต้นทุน การกำหนดราดราคาสินค้า
การคิดกำไรขาดทุน จุดคุ้มทุน และนำความรู้ด้านบัญชีไปจัดทำ Business model
และ Financial model พร้อมทั้งยังมีการใช้ความรู้ด้านภาษี ค่าเสื่อมราคา
ในด้านที่ผู้ประกอบการอาจจะยังไม่รู้ลึกก็ตาม
นำความรู้ด้านบัญชีในการคำนวณงบประมาณเงินที่ต้องใช้ทั้งการลงทุน
รายจ่ายต่างๆ มาช่วยวางแผนอนาคตและพัฒนาธุรกิจต่อไป
Slide :
https://www.canva.com/design/DAGBVu_9wpk/I-
Cpa1p5i4LZwRGFZwX6eQ/edit?utm content=DAGBVu 9wpk&utm camp
aign=designshare&utm medium=link2&utm source=sharebutton
Magazine :
https://www.canva.com/design/DAGAznw7sG8/0h1fHA96JhVzpqq0A312Rn
g/edit?utm content=DAGAznw7s688&utm campaign-designshare&utm m
edium=link2&utm source=sharebutton